‘ขอเตือน ไม่อยู่ในที่ที่สมควรอยู่ ระวังสภาพไม่สวย!’
กล่องพัสดุถูกส่งมาพร้อมซากสัตว์เปื้อนเลือดที่ตายไปแล้ว นับว่าเป็นครั้งที่สามซึ่งญาดาได้รับข้อความทำนองนี้ หมึกสีแดงถูกขีดเขียนบนกระดาษยับยู่ยี่ การกระทำอุกอาจหนักข้อไปทุกที ทว่าไม่อาจทำให้หญิงแกร่งหวาดกลัว
“พี่ดาไม่มีชื่อผู้ส่งอีกแล้ว” อันนาทึ้งศีรษะขัดใจพร้อมเตะกล่องปริศนา หล่อนสูดหายใจเข้าออกซ้ำ ๆ พยายามซ่อนอารมณ์โกรธเคืองไว้ข้างใน
“พี่ดาก็ไม่มีศัตรูที่ไหน ทำไมไอ้นี่มันถึงไม่จบไม่สิ้นกับพี่ สักที!”
“ใจเย็นนา เราแจ้งตำรวจแล้วพี่มั่นใจว่าพี่มินกับลุงเผ่าจะจัดการให้ได้”
ญาดากุมมือน้องสาว ใช่ว่าเธอจะไม่ทุกข์หรือร้อนใจ แต่พอคาดเดาได้ว่าคนร้ายต้องการเล่นสงครามประสาท
…ครั้งแรกเลือกส่งมีดคัตเตอร์พร้อมกล่องเปล่า
…ครั้งที่สองส่งรูปถ่ายครอบครัวซึ่งถูกกรีดเป็นทางยาว
…ส่วนครั้งนี้คือซากหนูตาย
คนส่งถ้าไม่บ้าก็เป็นพวกจิตไม่ปกติในความคิดเธอ!
“เย็นยังไงไหวคะ ขนาดลุงเผ่าตามเรื่องให้ตั้งนานแล้วทำไมยังไม่รู้ความคืบหน้าสักที” อันนากระแทกกายบนโซฟา
เผ่าพงศ์เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ท่านมีทั้งอำนาจและบารมี ทันทีที่สามีใหม่แม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกเลี้ยงก็ปรี่อาสาเข้าช่วยทันควัน
“นาเป็นห่วงพี่ เป็นห่วงกล้าข้าว”
“บ้านเราเข้มแข็งจะตายไป อย่าคิดมากสิ”
“แต่นา…”
“ดูเจ้าแสบนู้น ต่อเลโก้อารมณ์ดีเชียว”
ญาดายิ้มเอ็นดู กล้าข้าวกับเลโก้กองใหญ่ซึ่งมารดาเป็นคนซื้อให้บุตรชาย เพราะคุณยายอ้างว่าอยากมอบของขวัญชิ้นโตให้สมกับฐานะหลานชายคนแรก
กล้าข้าวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับของเล่นในมือเพราะอารมณ์ดี วันนี้เป็นวันเสาร์ และอีกไม่กี่นาทีคามินจะมารับลูกชายไปเล่นกับปรานี เพราะหล่อนเคยเปรยไว้ว่าขอพบเจอหลานอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
“มามี้ฮะ ดูเลโก้ซูเปอร์ฮีโร่สิฮะ กล้าข้าวต่อเองเท่ไหม”
เด็กวัยกำลังโตวิ่งปรี่โชว์ฟันเรียงสวย มือบางอดไม่ได้จึงลูบผมดกดำคล้ายหยอกล้อ
“เท่ที่สุดเลยฮะ แต่ไปบ้านคุณยายรอบนี้ ถ้าท่านให้ของเล่นกล้าข้าวเพิ่มอีกรับปากกับมามี้ได้ไหมว่าจะปฏิเสธ”
“ทำไมล่ะฮะ ของเล่นคุณยายไม่น่ารักเหรอ” เด็กน้อยขมวดคิ้วมุ่นสงสัย
“น่ารักสิฮะแต่ของเล่นเรามีเยอะแล้ว หรือถ้าจำเป็นต้องรับมามี้ก็จะเอาบางส่วนที่กล้าข้าวไม่เล่นแล้วไปบริจาคแบบนี้ ตกลงไหม”
ญาดาสอนลูกชายคนเดียวให้แบ่งปันเสมอ เธอไม่อยากให้เขาโดนตามใจจนเคยตัว
“…ก็ได้ฮะ อะไรที่มามี้ว่าดี กล้าข้าวก็ว่าดีหมดแหละ!” เจ้าตัวน้อยโถมกอดพลางเคลื่อนนั่งตักมารดา
“อ้อนเก่งจริงเชียวหลานน้านา” อันนาเอื้อมหยิกแก้มเขาจนกล้าข้าวหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
“แล้ววันนี้มามี้ไม่ไปด้วยกันเหรอฮะ”
กล้าข้าวถามในขณะจับหลังมือเธอ เด็กน้อยไล่ลูบเบา ๆ ใบหน้านวลผ่องเคล้าเชิญชวน
“มามี้ติดงานน่ะสิ วันนี้ไปกับน้านานะฮะคนเก่ง”
เธอกระชับตัวเขาแน่น ริมฝีปากกระจับหอมฟอดใหญ่ที่แก้มนุ่มนิ่มราวกับไถ่โทษ
“เดี๋ยวคืนนี้มามี้กลับมาเล่านิทานก่อนนอนให้ฟังดีไหม ถือว่าชดเชยที่ไม่ได้ไป”
“ยอมดีไหมน้า” กล้าข้าวบ่นอุบอิบด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์แต่น่ารัก
“ยอมน้าคนเก่ง”
“ก็ได้ฮะ รักมามี้ที่สุดในโลก!”
เขาพลิกตัวโผกอดญาดาอีกครา ใบหน้าหล่อเหลาฉวยจุ๊บแก้มซ้ายขวาของมารดา จนทั้งสามระเบิดหัวเราะพร้อม ๆ กัน
แสงแดดส่องผ่านม่านพลิ้วไหวประจวบกับกลิ่นสะอาดเตะจมูกปลุกร่างบาดเจ็บ ม่านตาขยายออกสู้แสงฉับพลัน รัฐภาคลำคอแห้งผากกวักร้องขอสิ่งที่ปรารถนา
“ชะ…เชน” คำพูดจากเรียวปากซีดเผือดส่งผลให้นักธุรกิจหนุ่มสะดุ้งเฮือกจากนิทรา
“มึงเป็นไงบ้าง”
“กะ กูขอน้ำ” อนวัฒน์เร่งฝีเท้าก่อนยื่นแก้วให้ฉับไว ใบหน้าติดเย็นชาปรากฏชัดว่าห่วงสุดขั้วหัวใจ
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเมื่อคืนมึงถึงเท้าไฟแบบนั้นวะ”
“กู…”
“อย่าบอกกูนะว่าเรื่องผู้หญิง” ปากหยักแสยะยิ้มยะเยือก
“ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรมึง!”
นัยน์ตาคมกริบวาวโรจน์เพราะไม่รู้ควรโกรธใครก่อนดี ระหว่างรัฐภาคที่โง่งมเพราะพิษรักกับหญิงเจ้าปัญหาไม่รู้จักพอ มันน่าสั่งสอนให้สำนึกทั้งสองคน!
“มึงอย่าไปโทษเธอ กูผิดเอง”
“แม่มึงเล่าให้กูฟังหมดแล้ว ผู้หญิงที่มึงไปติดพันแม่งไม่มีอะไรดีสักอย่าง” อนวัฒน์เฉลยสิ่งที่รับฟังเมื่อคืนไม่รอคำพูดโป้ปดของรัฐภาค เขารู้ทันก่อนมันฟื้นเสียอีก เพราะไอ้หมอนี่กำลังหลงอยู่ในกิเลสตัณหายากจะแยกแยะผิดชอบชั่วดี
“ไอ้เชน กูรู้ว่าเธออาจจะไม่เหมาะสมแต่กูรัก”
“ไม่ใช่แค่ไม่เหมาะสม ยายนั่นไม่คู่ควรให้มึงสนใจด้วยซ้ำ กูเคยเตือนแล้วใช่ไหมว่าแค่รักมันไม่พอ”
อนวัฒน์เท้าสะเอวสั่งสอนเพื่อนเพราะสุดจะทนตั้งแต่รู้ข่าว ถ้ารัฐภาคไม่ดื้ออยากสานสัมพันธ์กับแม่ม่ายลูกติดทุกอย่างคงไม่วุ่นวายเช่นนี้ มันนอนน้ำตาซึมส่วนมารดาผู้ให้กำเนิดร้องไห้เป็นเผ่าเต่า
แค่ผู้หญิงคนเดียวทั้งยังมีลูกแถมสามี ไม่รู้เป่ามนตร์คาถาบทไหนเพื่อนเขาถึงได้หลงหัวปักหัวปำ
“ทำไมมึงถึงไม่ฟังคำพูดกู!”
“มึงก็พูดแรงไป”
“แม่มึงเป็นคนบอกกูเองว่าเธอมีลูก มึงจะแน่ใจได้ยังไงว่ายายนั่นเลิกกับผัวขาด” เขาเลิกคิ้วตั้งคำถาม
“กะ…กูไม่รู้ แต่เขาปฏิเสธกู” รัฐภาคนิ่งสนิท เรียวปากสั่นระริกเหมือนเสียใจระคนไป
“เหอะนั่นไง เพราะเขาหลอกให้มึงรักได้แล้วเลยเล่นตัวใส่ ลูกไม้ตื้น ๆ กูดูออก”
“ไม่ใช่ เขาบอกกูว่ามีคนรักอยู่แล้ว”
“ฮะ มึงว่าไงนะ!”
อนวัฒน์ไม่เข้าใจความคิดหญิงสาวที่รัฐภาคพูดถึง คราแรกคิดว่าเชิดใส่เพื่อนสนิทเพราะอยากเรียกร้องความสนใจ ผู้หญิงใช้ร่างกายแลกเงินจะมีอะไรได้อีกนอกจากโก่งราคาเพิ่มค่าตัว
แต่นี่เธอกลับปฏิเสธรัฐภาคลูกนักธุรกิจใหญ่ ต้องการอะไรกันแน่จะมาไม้ไหนให้เพื่อนหัวอ่อนเขาหลงกล!
“เขามีคนรักอยู่แล้ว กูโง่เองกูนึกว่าแค่มีลูก ไม่รู้เลยตื๊อเขา”
“งั้นก็ดี มึงจะได้ตัดใจจากผู้หญิงคนนั้นให้จบ ๆ”
“แต่กูรักคุณดา”
สรรพนามที่เพื่อนสนิทใช้เรียกเล่นเอาอนวัฒน์ชาวาบทั่วร่างกายสะท้านถึงจิตใจ ใบหน้าเยือกเย็นเขวผละสงสัยชั่วครู่
หากอีกด้านหนึ่งของหัวใจร้องค้าน ญาดาไม่มีทางเป็นใครคนนั้นได้ อย่าเพ้อเจ้อไอ้เชน!
ลบผู้หญิงใจร้ายคนนั้นออกไปจากความคิดเดี๋ยวนี้!
“มึงเป็นอะไร ทำไมเงียบ”
“กูแค่เพลีย ๆ เพราะเฝ้ามึงทั้งคืน” เขาโกหกอย่างไร้พิรุธ ในขณะที่ใจลอยวนอยู่ในอดีต
“เชนมึงช่วยกูได้ไหม”
ใบหน้ามัวหมองของรัฐภาคชัดเจนว่าเสียใจขนาดไหน มือแกร่งกำราวเหล็กแน่นระบายความอึดอัดที่มีทั้งหมดลงไป
“ช่วยให้กูสมหวังในรักครั้งนี้ที”
นัยน์ตาแดงก่ำเงยมองเขาเว้าวอนทิ้งคราบหนุ่มอารมณ์ดีไว้ไม่เหลือซาก
“ไม่มีใครช่วยกูได้อีกแล้วนอกจากมึง”
วินาทีนี้คนป่วยมั่นใจในตัวอนวัฒน์เหลือเกิน แต่เป็นร่างสูงเองที่นึกลังเล
“กูรักเธอจริง ๆ”
อนวัฒน์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือหนาตบเบา ๆ ที่บ่ากว้างเพื่อเป็นการปลอบใจ ยิ่งรัฐภาคทุกข์ระทมเท่าไร เขากลับรู้สึกอ่อนไหวคล้ายอยู่ในกองเพลิง
โชคชะตาอย่าเล่นตลกใส่กันแบบนี้ ใครก็ได้บอกเขาทีว่าคนที่เพื่อนรักไม่ใช่ญาดา พริตตีชื่อดามีเป็นร้อยเป็นพันจะเป็นผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เด็ดขาด
เรื่องลูก และอดีตสามี ?
หมายความว่าอย่างไร ถ้าเป็นญาดาจริงแล้วผู้ชายอีกคน คือใคร…
ใช่ชายคนนั้นหรือไม่ ส่วนเด็กล่ะมาจากไหน!
ความคิดตีวนหลอกหลอนตนเองซ้ำ ๆ ในขณะที่มือหนาเลื่อนส่งข้อความอะไรบางอย่างถึงคนสนิท ผู้หญิงที่รัฐภาครักเขาต้องสืบรู้ให้จนได้
ชายหนุ่มหลับตาลงช้า ๆ ช่วงเวลาเก่าหลั่งไหลย้อนคืนกลับมา แต่ใบหน้าผิดหวังเสียงร้องระงมของเพื่อนรักแทรกซ้อนตัดสลับในทุกคราไป สุดท้ายเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากบอกรัฐภาคว่าขอตัวกลับก่อน
มือหนาหมุนลูกบิดด้วยใจผ่าวร้อน บัดนี้ความสงสัยทั้งหมดอยู่ที่หญิงปริศนาแค่คนเดียว
ในจังหวะก้าวยาว ๆ มุ่งตรงตัวรีบร้อนไปทางบันไดเลื่อน ร่างใหญ่พลันชนเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจัง
ตุ้บ!
ความเหม่อลอยของเขาส่งผลให้หญิงสาวกองอยู่กับพื้น หล่อนหรี่ซ้ายขวาก้มสำรวจตนเองชั่วครู่
“คุณ…” แรงกระแทกส่งผลให้อนวัฒน์ก้มพยุงหล่อนเสียไม่ได้
“ขอบคุณนะคะ แต่ฉันไม่เป็นไร”
เสียงหวานอันคุ้นเคยลอยละลิ่วกระทบโสตประสาท ใบหน้าเยือกเย็นแปรเปลี่ยนเป็นร้อนรุ่ม
เพราะบัดนี้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออันนานั่นเอง!
“นา” เขาช่วยพยุงแต่หล่อนกลับขัดขืน วินาทีที่ช้อนมองตาคมกริบ ใบหน้าหวานพลันเปลี่ยนสีเป็นซีดเผือด
“โอเคใช่ไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” มือหนาคว้าเรียวแขนขาวสำรวจลวก ๆ
“นาไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะคุณเชน” อันนาอึกอักราวน้ำท่วมปาก สรรพนามที่หล่อนใช้เรียกเปลี่ยนแปลงอย่างช่วยไม่ได้
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว นาขอตัวก่อนนะคะ”
“มาทำอะไรที่นี่” คนอยากรู้ปกปิดท่าทีสงสัยไว้ไม่มิด
“นามาทำธุระค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
“ใครป่วย” เขาเร่งฝีเท้าตามร่างเล็กอย่างไม่ลดละ ส่วน อันนามองอนวัฒน์เหมือนผู้ร้ายก็ไม่ปาน เพราะแววตาสั่นเทาล้วนสะท้อนเพียงอาการหวาดกลัว
“คุณกับพี่ดาเลิกกันไปนานแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่นาต้องตอบ ต่างคนต่างอยู่เถอะค่ะ”
“นากำลังปิดบังอะไรพี่อยู่”
“นาเปล่า”
“เด็กอย่างเราไม่ใช่คนโกหกเก่ง”
อนวัฒน์ซักไซ้ตามสัญชาตญาณนักล่า ความอยากรู้อยากเห็นพุ่งติดเพดาน เพราะท่าทางก้มต่ำ ไหนจะนัยน์ตาลุกลี้ลุกลนของอันนา
ท่าทางเหล่านี้มองในแง่ดีไม่ได้เลยสักนิด!
ชายหนุ่มปรี่เตรียมคว้าแขนเล็กกระชากให้หล่อนหันกลับมาพูดคุยอีกรอบ
“น้านา” หากเสียงเจื้อยแจ้วของใครบางคนกลับขัดจังหวะเสียก่อน
“กล้าข้าว”
ร่างเล็กวิ่งเหยาะ ๆ พร้อมกับแขนอ้ากว้างให้คนเป็นน้าโอบรัด มองดูจากสายตาอนวัฒน์คาดเดาว่าเด็กคนนี้อายุน่าจะประมาณห้าถึงหกขวบ
“นี่มันอะไร” เขาโพล่งถามทันที ในขณะที่อันนาหมุนศีรษะเด็กน้อยให้ซบลงตรงอก
“คุณอย่าวุ่นวายได้ไหมคะ นี่โรงบาลฯ นะ!”
หล่อนตวาดเสียงเขียวส่วนเจ้าตัวเล็กโน้มกระซิบกระซาบบางอย่างกับคนเป็นน้า
“ลูกใครนา”
จังหวะที่หล่อนก้าวเดินจากไป เนื้อตัวอนวัฒน์ร้อนรุ่มราวอยู่ในกองไฟ ชายหนุ่มตะโกนกร้าวไม่ใส่ใจผู้คนรอบข้างที่ต่างหันมองด้วยกิริยาหลากหลาย บางคนกระซิบกระซาบ บ้างก็ป้องปากนินทา ทว่าต่อให้ดูเป็นคนไร้มารยาทแค่ไหนชายหนุ่มก็ยินดี เพราะบัดนี้ใจมุ่งอยู่อย่างเดียวคือ ‘เด็กน้อยในอ้อมกอดอันนา’
“พี่จะถามนาอีกรอบ!”
อนวัฒน์แผดเสียงก้องดังสนั่นทางเดิน
“…”
“เด็กคนนี้ลูกใคร!”
คำตอบที่ซาตานหน้าหยกได้รับคือความเฉยชา เพราะอันนาไม่แยแส ซ้ำยังจ้ำอ้าวห่างออกไปเสมือนผู้ชายคนนี้ไร้ตัวตน
ได้!
ในเมื่อครอบครัวญาดาอยากเล่นแง่เขาจะสนองให้ แล้วพวกเธอจะได้รู้ว่าปีศาจร้ายตนนี้ทำอะไรได้บ้าง เขาพร้อมตามจิกคนช่างปิดบังไม่ปล่อย แม้ถูกมองว่าสารเลวแค่ไหนก็ตามที!