บทที่เจ็ด

2310 Words
ร้านอาหารรูฟท็อปชั้นสูงสุดของโรงแรมหรูเป็นที่นัดหมายในวันนี้ ญาดาสูดลมหายใจเข้าปอดพลางกระชับกระเป๋าคลัชคู่ใจเพิ่มความมาดมั่น เธอแต่งกายด้วยเดรสเกาะอกสีดำเปิดเปลือยแผ่นหลังนวลละออง หากคลุมทับลวก ๆ บนเรียวไหล่งามด้วยสูทผ้ากำมะหยี่สีแดงเลือดนก “วันนี้คุณดาสวยมาก” รัฐภาคทักญาดาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ เมื่อคนตัวเล็กปรากฏกายตรงหน้า “ขอบคุณนะคะ” ญาดานั่งลงตรงข้ามเขาพลางเลื่อนมองรอบข้าง มือกำประสานบนหน้าตักไม่รู้ควรเริ่มบทสนทนาอย่างไรดี ส่วนลึกในสมองถกเถียงเป็นเศษละอองความคิดฟุ้งซ่าน ถ้าเปิดประเด็นที่อัดอั้นตันใจเวลานี้ดูใจร้ายเกินไปหรือเปล่าหรือควรรอกระทั่งอาหารมื้อนี้สิ้นสุดลง “สั่งอาหารไหมครับ” “พอดีดายังไม่ค่อยหิว” “งั้นเครื่องดื่มก่อนดีกว่า” รัฐภาคจัดแจงเสร็จสรรพ เขาออร์เดอร์ค็อกเทลหลากสีสันอย่างชำนาญราวกับรู้จักที่นี่เป็นอย่างดี “…” ญาดาขมวดคิ้วคล้ายตั้งคำถาม เพราะเริ่มรู้สึกตัวว่าพนักงานขยันบริการโต๊ะเธอเป็นพิเศษ “พอดีที่นี่เป็นโรงแรมของพ่อเพื่อนผม” รัฐภาครีบเฉลย ใบหน้าหวานจึงเปื้อนยิ้มฝืน ความอึดอัดจุกแน่นกลางอกจนขมคอ ญาดาไม่ชอบสิทธิพิเศษทุกรูปแบบ แม้รู้คนรวยอย่างพวกเขาจะทำอะไรก็ได้ นี่คงเป็นหนึ่งในสิบเหตุผลกระมั่งที่เลือกปฏิเสธรัก เพราะสังคมเขากับเธอนั้นอยู่ห่างกันราวฟ้ากับดิน “ไม่ต้องกังวลนะครับ ทำตัวสบาย ๆ ได้เลย มันคือคนที่ผมบอกว่าอยากแนะนำให้คุณดารู้จัก” “ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” ญาดาพยักหน้าแล้วจิบเครื่องดื่มแก้กระหาย ลำคอเธอแห้งผากฉับพลัน ใจพะวงว่าควรหาจังหวะไหนเพื่อจบความวุ่นวาย “เดี๋ยวเพื่อนผมน่าจะมาแล้ว ปกติไอ้นี่ตรงเวลาตลอด” รัฐภาคก้มดูนาฬิกาข้อมือ ประจวบกับเสียงโทรศัพท์มือถือแผดก้องขัดจังหวะ ‘ถึงไหนแล้วมึง’ ชายหนุ่มป้องปากพูดเป็นกันเองกับปลายสาย ดวงตากลมโตลุกลี้ลุกลนตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ‘วันนี้กูไม่สะดวก มีนัดกับที่บ้านอิง’ ‘อีกแล้ว ทำตัวให้ว่างสักวันได้ไหมวะ’ ร่างสูงพ่นลมหายใจเป็นพัก ๆ ส่วนญาดาลอบสังเกตถึงอาการขัดใจ ‘อิงสำคัญกว่าผู้หญิงของมึง เพราะฉะนั้นอย่าเซ้าซี้มาก กูรำคาญ’ ติ๊ด! ‘ไอ้เชน!’ ทว่าชื่อจากเรียวปากหยักของคนตรงข้ามทำเอาเธอชาวาบไปทั้งร่างกาย เพื่อนคนนั้นของเขา ชื่อ ‘เชน’ งั้นเหรอ… ผู้ชายที่ว่าคงไม่ใช่อดีตสามีเธอใช่ไหม ไม่มีทางเป็นอนวัฒน์ไปได้ เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาชายหนุ่มไม่เคยพูดถึงบิดา ซ้ำเขายังบอกว่าครอบครัวหย่าขาดกันตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มอาศัยอยู่กับอรุณประไพซึ่งเป็นมารดา ตลอดชีวิตของเขามีเพียงท่านเท่านั้น ครั้งเมื่อเธอเอ่ยปากก็บ่ายเบี่ยงเสียทุกครั้งไป จนคนเป็นเมียรู้ว่าเขาไม่สบายใจและไม่เคยปริปากถามเรื่องนี้อีกเลย “ขอโทษนะครับคุณดา พอดีเพื่อนผมติดธุระกับแฟน” รัฐภาคบอกเธอด้วยสีหน้าผิดหวัง “…” “เพื่อนผมคนนี้ รู้จักกันตอนไปเรียนที่อเมริกามันเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญในชีวิตผม” เขาเล่าว่าทำไมถึงอยากให้เธอพบผู้ชายคนนี้นัก “แต่ไม่ต้องคิดมากนะครับว่าที่มันเบี้ยวเพราะไม่ชอบคุณ” “ดาไม่สำคัญขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณภาคอย่าใส่ใจดาเลย” ญาดายิ้มอ่อนโยน เธอปรายตามองมือสากในจังหวะที่ รัฐภาคเอื้อมกอบกุม “คุณดาเป็นคนสำคัญสำหรับผม” “แต่ดาว่า…” “คุณคือผู้หญิงที่ผมรัก…” เสียงทุ้มเน้นชัดถ้อยชัดคำ ส่วนริมฝีปากหยักขบเม้มราวกำลังคิดอะไรมากมาย “…รักคุณมากจริง ๆ” สิ้นคำสารภาพ นัยน์ตาเขาทอดมองเป็นประกายลึกซึ้ง “คือดา…” ญาดานิ่งสนิทมองดูก็พอเดาได้ว่ารัฐภาคจริงจังแค่ไหน สมองพลันตีรวนไปหมดต้องปฏิเสธเช่นไร ชายหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยพลังรักคนนี้ถึงจะบอบช้ำน้อยที่สุด “ดาขอโทษนะคะ” แต่เพียงเสี้ยววินาทีความคิดบางอย่างกลับแล่นเข้ามา เธอควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่าเลี้ยงไข้ปล่อยให้เขาเสียใจในภาย ภาคหน้า หัวใจด้านชาของคุณแม่ยังสาวแบบเธอไม่คิดรักใครอีก ต่อให้ดีแค่ไหนก็ไม่คิดรัก… เพราะรักสำหรับญาดาตายไปเนิ่นนานแล้ว และไม่มีวันย้อนคืนสู่ใจได้อีก! “คุณดา…” ดวงตาคมเริ่มหม่นแสงลง รัฐภาคมองญาดาคล้ายไม่เข้าใจ “ดารับความรู้สึกของคุณไว้ไม่ได้จริง ๆ” “ทำไมล่ะครับ” “ดามีลูก แถมมีคนที่รักอยู่แล้วค่ะ” ญาดาชักแม่น้ำทั้งห้าเป็นข้ออ้าง “ผะ…ผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของลูกคุณ” ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ เพราะรัฐภาคไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป ความผิดหวังโจมตีหัวใจจนชายหนุ่มทรงสง่าแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ร่างกายพร้อมริมฝีปากสั่นระริกลนลานอยู่ไม่ติดที่ วินานี้คำเดียวที่อยากฟังคือ ‘รัก’ แม้หนทางริบหรี่ก็ตาม “ถ้าคนรักคุณมีอยู่จริง ทำไมผมถึงไม่เคยรู้” “เรื่องของดากับเขามันซับซ้อน ดาขอนะคะ…” หญิงสาวเลือกไม่ลงรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์จอมปลอมที่เธอเป็นคนปั้นแต่งขึ้น “ขอให้เราเป็นเพียงแค่เพื่อนกันเท่านั้น” เธอหมายจบลง ตรงนี้ เพราะคนตรงหน้าจะได้ตัดใจง่ายขึ้น “ทะ…ทำไมคุณดาถึงได้ใจร้ายกับผมแบบนี้” รัฐภาครั้งข้อมือเธอพลางอ้อนวอนทั้งนัยน์ตาสีดำเริ่มปริ่มน้ำ “หะ…ให้โอกาสผมนะครับ ผมขอร้อง” “ถ้าคำตอบของดาทำให้คุณเสียใจและไม่สะดวกพบดาอีก ดาก็พร้อมเข้าใจ” “คุณดา…” “ดาอยากให้คุณภาคเจอคนที่รักคุณจริง” “…” ชายหนุ่มกำหมัดแน่น “เพราะที่คุณทำอยู่ตอนนี้ มันไม่มีอะไรดีกับเราทั้งสองฝ่ายเลยนอกจากความรู้สึกที่แย่ลง” “…” “ดาขอโทษนะคะ ขอตัวก่อน” ร่างเพรียวลุกยืนก่อนกวาดกระเป๋าคลัชแนบลู่กับเรือนกาย ญาดาเหลือบมองรัฐภาคครั้งสุดท้ายด้วยใจสำนึกผิด นัยน์ตาของชายหนุ่มอารมณ์ดีบัดนี้เอ่อล้นไปด้วยคราบน้ำตา เขากำแก้วค็อกเทลแน่นเหมือนต้องการบีบให้แหลกละเอียดคามือ ความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้… ญาดาเข้าใจดี รักใครสักคนแต่เขาหันหลังให้เธอเคยเผชิญมานับครั้งไม่ถ้วน มันทั้งเจ็บปวดบาดลึกลงกลางจิตใจ เพราะยิ่งคนนั้นมีอิทธิพลกับเราเท่าไรต่อให้อยากลบแค่ไหนก็ยากที่จะลืม! รถเมอร์เซเดสเบนซ์คันหรูชะลอจอดหน้าคอนโดนับ ยี่สิบล้านใจกลางมหานคร อนวัฒน์หมุนพวงมาลัยเคลื่อนเข้าซองอย่างคล่องแคล่ว “ขอบคุณที่มาส่งอิงนะคะ” อิงอรคลี่ยิ้มหวานเผื่อแผ่ถึงใบหน้าคมคาย “ด้วยความยินดี ดึกขนาดนี้ ไม่มาส่งคุณลุงคงเคืองพี่แย่” “รู้ด้วยเหรอคะว่าชอบทำให้คุณพ่ออิงเคือง” หล่อนแซวทีเล่น แต่ดวงตาเรียวสวยฉายชัดจริงจัง “อิง…” อนวัฒน์ถอนหายใจเหนื่อยล้า หงุดหงิดที่หล่อนมักหาทางวนกลับมาเรื่องเดิมทุกครั้งไป “อิงเห็นการ์ดงานหมั้นคุณภาคกับยายเขมแล้วนะ” อิงอรว่าพลางเหลือบมองเบาะหลัง “เมื่อไรพี่เชนจะทำตามสัญญาที่เคยให้คุณพ่อกับอิงไว้ ล่ะคะ” “เราคุยกันหลายรอบแล้วนะ พี่ยังไม่พร้อม” “งั้นงานนี้อิงคงเป็นได้แค่เพื่อนเจ้าสาวใช่ไหมคะ” อิงอรแกล้งเปรยถามราวกำลังร้องขอความเห็นใจ “…” “พี่เชนผิดสัญญาเป็นครั้งที่สองไม่ได้แล้วนะ รู้ใช่ไหม” มือบางควงวงแขนแกร่ง หล่อนซุกซบอกกว้างออดอ้อนออเซาะเต็มประดา “พี่ขอเวลา” “งั้นอิงขอเก็บค่าเสียเวลาจากพี่นะคะ” หล่อนเงยมองคนข้างกาย เลื่อนไล้จับรูปไหล่สง่าผ่าเผยด้วยจริตจะก้าน กลีบปากเคลือบความอ่อนหวานจรดจุมพิตเรียวปากหยักดั่งใจปรารถนา ผู้หญิงมากมารยาขบเม้มแผ่วเบาสอดแทรกเรียวลิ้นหยอกเย้าโชว์เฟอร์สุดหล่อ มือบางลูบอกแกร่งหมายเติมเชื้อไฟ ทั้งยังไล่ลงมาตรงหัวเข็มขัด เพราะอยากให้ความต้องการของว่าที่เจ้าบ่าวพุ่งทะยาน สุดขีด แต่อนวัฒน์นิ่งเฉยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ชายหนุ่มไม่ต่อต้าน หากใบหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึกร่วมจนอิงอรกัดฟันกรอด คนตัวเล็กสบถเบา ๆ แต่ไม่ยอมแพ้ อย่างไรคืนนี้ต้องครอบครองชายที่แอบรักจนได้! ติ๊ด! ติ๊ด! ทว่าเสียงสั่นจากเครื่องมือสื่อสารกลับปลุกให้สองหนุ่มสาวผละห่างออกจากกันฉับพลัน “ใครคะ” อิงอรเม้มปากจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจ กว่าจะหาจังหวะใกล้อนวัฒน์ขนาดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย รู้ตลอดหลายปีผ่านมาใจเขาไม่เคยอยู่กับหล่อน เพราะสามีในอนาคตไม่เคยลืมอดีตรักแรกแม้แต่วินาทีเดียว ‘สวัสดีครับคุณน้า’ อนวัฒน์ส่งเสียงพูดกับปลายสายในขณะมือหนาจัดแต่งกายเงียบ ๆ ‘ชะ…เชน อยู่ไหนลูก’ ‘ผมติดธุระครับ คุณน้ามีอะไรหรือเปล่า’ เสียงร้อนรนของมารดารัฐภาคเล่นเอาคิ้วเข้มจับหากัน ‘ภะ…ภาคขับรถชน เชนรีบมาด่วนนะลูก’ ‘วะ…ว่าไง นะครับ’ เขาแทบขยี้โทรศัพท์ไว้ในกำมือเดียว ดวงตาคมกริบร้อนรุ่มราวไฟบรรลัยกัลป์ ‘ครับ ๆ ผมจะรีบไปครับ’ อนวัฒน์ไม่เสียเวลาฟังท่านเล่าต่อเขาตัดบทสนทนาอย่างรีบร้อน เพราะลางสังหรณ์บอกว่าเพื่อนสนิทรอไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ใบหน้าวิตกกังวลสะกิดต่อมอยากรู้ “ภาคอยู่โรงบาลฯ พี่ขอตัวก่อนนะอิง” “ให้อิงไปด้วยไหม” หล่อนคว้าตัวชายหนุ่มไว้ แต่เขาสะบัดออก “อย่าเลย พี่อาจอยู่เฝ้ามันทั้งคืน เดี๋ยวอิงจะลำบาก” อนวัฒน์มักปฏิเสธความปรารถนาดีของหล่อนในทุกครั้งไป “แต่…” “พี่รีบ ไว้ค่อยคุยกันนะ” คนเย็นชาพเยิดหน้าทางกระจกเป็นเชิงบอกให้อิงอรลงจากรถ หญิงสาวจึงกลั้นใจบีบมือแน่นก่อนกระแทกประตูหนัก ๆ กระทั่งมันปิดลง รถคันหรูแล่นฉิวจากไปด้วยความเร็ว กี่ครั้งกี่หนเขามักเลือกคนอื่นก่อนหล่อนเสมอ เพราะผู้ชายคนนี้ไม่เคยมีพื้นที่ให้อิงอรอยู่ในความคิดหรือแม้กระทั่งหัวใจ ต่อให้แสดงออกว่ารักหรือหวังดีแค่ไหน แววตาเจือเย็นชายังคงมองหล่อนเช่นเดิม… มองเป็นน้องหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ ‘คนรัก’ ทุกอย่างที่ได้มาจากเขาล้วนแล้วแต่เป็นเพราะภาระและหน้าที่ ไม่มีความรู้สึกปะปนสักเสี้ยวเดียว คิดดังนั้นก็เจ็บใจ ขนาดกำจัดตัวมาร อนวัฒน์ก็ไม่เคยเห็นหล่อนอยู่ในสายตา! ใบหน้าโกรธเคืองระบายลมหายใจผ่าวร้อนพลางเบี่ยงปลายเท้าขึ้นห้องชุดสุดหรู ขณะมือกดส่งข้อความหานักสืบเอกชน หลายปีผ่านมาใครรู้บ้างผู้หญิงที่เพียบพร้อมอย่างหล่อน จ่ายเงินเพื่อเรื่องไร้สาระเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งเพียงเพราะความกลัว …กลัวว่าต้องแพ้ให้ศัตรูหัวใจหมายเลขหนึ่งอย่างญาดา อีกครั้ง! ห้าปีก่อน… เพล้ง! เพล้ง! แก้วไวน์ชั้นเลิศรวมถึงแจกันถูกปัดแตกตามแรงกรุ่นโกรธของเจ้าของห้อง อิงอรกำหมัดแน่นหลังจากได้รับรูปถ่ายพร้อมคำอธิบายจากนักสืบที่หล่อนเสียเงินไปกับการตามติดชีวิตญาดา ‘คุณเชนจะวนไปที่บ้านหลังนั้นอยู่บ่อย ๆ ทุกครั้งที่กลับมาไทย ไปทีก็ดับรถนั่งอยู่เงียบ ๆ สี่ห้าชั่วโมงครับ’ ข้อมูลจากนักสืบมือดีทำเอาหล่อนรวดร้าวหมดทั้งใจ นัยน์ตาแดงก่ำเพียงกัดริมฝีปากแต่ก็ร้องไห้ไม่ออก หล่อนเจ็บเกินกว่าจะแหกปากเพื่อร้องขอความเห็นใจ จากเขา! โชคดีหน่อยที่นังหน้าด้านนั่นย้ายออกไปทันทีพร้อมลูกของมัน…ลูกที่อนวัฒน์ไม่เคยรับรู้การมีตัวตน! ‘ส่วนผู้หญิงคนนั้น เธอทำงานเหมือนเดิม แต่ตอนนี้เหมือนมีผู้ชายเข้ามาวนเวียนในชีวิตค่อนข้างมาก แต่สถานะน่าจะไม่มีอะไรพิเศษครับ’ การกระทำของญาดาไม่ว่าเวลาออกงาน ไปโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งอยู่บ้านกับเพื่อนสนิทถูกบันทึกเอาไว้ ภาพที่อิงอรคุ้นชินคือเธอมักกระเตงเจ้าตัวเล็กไปไหนต่อไหนเสมอ ในปีแรกที่คลอดบุตรชายญาดางดรับงานร่วมสองเดือน แต่ผ่านไปสักพักหญิงสาวก็กลับเข้ามาในวงการเช่นเดิม ‘เมื่อไรแกจะไปให้พ้น ๆ สักที!’ คล้ายมีดปักลงกลางหัวใจจนพังยับ หล่อนขยี้ภาพอนวัฒน์ ยู่ยี่คามือ เพราะชายหนุ่มเฝ้าคิดถึงรักฝั่งใจอยู่ทุกคืนวัน ต่อให้ญาดาตายไปจากชีวิตเขาเนิ่นนานแค่ไหน แต่ไม่เคยจางหายจากใจเสียที รักแรกอย่างเธอคงอยู่ที่เดิมตรงนั้น… ที่ที่ไม่มีไว้เพื่อใคร…นอกจากอดีตภรรยาคนเดียว! คำสัญญาที่เขาให้ไว้กับหล่อนและบิดา คือแค่กายปราศจากหัวใจ! ‘อย่าให้พี่เชนรู้เรื่องเด็กเด็ดขาด ถ้านังนั่นเรียกร้องสิทธิ์เมื่อไรก็กำจัดให้พ้นทาง เรื่องเล็กแค่นี้อย่าให้มากวนใจฉันอีก!’ กดจิ้มข้อความสั่งการไปทันที อิงอรรู้ดีว่าถ้าเขารู้เรื่อง กล้าข้าวเมื่อไร ชายหนุ่มจะไม่อยู่ตรงนี้เหมือนเดิม และหล่อนไม่อยากเป็นคนใจร้ายใช้ไม้ตายบีบบังคับเขา…คล้ายในอดีตที่ผ่านมา!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD