ชีวิตที่ราวกับเทพนิยาย

597 Words
เย็นวันนั้น พอพระอาทิตย์ตกดิน และความมืดเข้ามาแทนที่ สองแม่ลูกก็รีบไปที่เรือ พร้อมกับกระเป๋าที่มีเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชิ้น ด้วยเพราะว่ามันสะดวกกับการหนี ของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้ สองคนแม่ลูกมาถึงที่เรือลำเล็กของจักรก็มืดมากแล้ว ไม่มีใครสักเกตเห็นว่ามีเรือเล็กๆ จอดอยู่ และเมื่อสองแม่ลูกขึ้นไปที่เรือ จักรก็ติดเครื่องยนต์ ก่อนจะพาสองแม่ลูกออกจากเกาะวารี นายจักรยอมช่วยพาสองคนแม่ลูกหนีก็เพราะเป็นหนี้บุญคุณนางนารี ที่เคยเลี้ยงดูเขามาตลอด ในขณะที่พ่อแม่ของเขามัวแต่เมาเหล้า ไม่ได้สนใจเลี้ยงดูเขา นั่นทำให้จักรยอมช่วยแม้ว่าสองแม่ลูกจะมีลับลมคมในในการหนีครั้งนี้ เขาก็ไม่ได้กลัวว่าตนเองจะต้องเดือดร้อน เพราะการช่วยเหลือผู้มีพระคุณครั้งนี้ เมื่อสองแม่ลูกมาถึงฝั่ง ทั้งสองคนก็ไปขึ้นรถทัวร์เพื่อเข้ากรุงเทพได้ทันรถเที่ยวสุดท้ายพอดี การลาจากกันตลอดกาล มันทำให้น้ำรินน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว จะบอกว่าเจ็บมากก็ใช่ เจ็บเพราะรัก และก็เจ็บเพราะรับรู้ว่าเขาเลว เลวเกินกว่าที่จะใช้ชีวิตด้วย เขากล้าสั่งฆ่าลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมา ทั้งที่ลูกน้อยเป็นสายเลือดของเขา แค่นี้มันก็อำมหิตเกินกว่าที่จะสามารถให้อภัยได้แล้ว ลาก่อน ลาจากกันชั่วนิรันดร์ เส้นทางของเธอและเขามันจะเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันอย่างแน่นอน “ร้องไห้ออกมาเถอะลูก แต่ลูกต้องสัญญากับแม่นะว่าต่อไปนี้ลูกจะไม่ร้องไห้อีก ลูกจะเข้มแข็งเพื่อเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมา” นางนารีเป็นมารดาที่รู้ใจบุตรเสมอ นั่นทำให้น้ำรินรู้สึกโชคดีเป็นอย่างมากที่มีแม่แบบนาง “ค่ะแม่ ขอแค่วันนี้วันเดียวนะคะ แล้วน้ำจะเข้มแข็งให้ได้ค่ะ” น้ำรินเอ่ยออกมาเสียงเครือ แน่นอนว่าผู้เป็นมารดาเป็นห่วงอย่างมาก แต่เพราะการเลี้ยงลูกแบบเข้าไปเป็นทั้งแม่และเพื่อน ทำให้นางนารีได้แต่คอยมองบุตรสาวอยู่ห่างๆ ด้วยความเป็นห่วงเท่านั้น สองแม่ลูกเดินทางหลายชั่วโมง ก่อนที่จะมาถึงกรุงเทพมหานคร โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลาฟ้าสางแล้ว นางนารีจึงพาน้ำรินเดินทางไปบ้านของคุณสาธิต ที่ที่มีความทรงจำดีๆ ระหว่างนางและอดีตสามี ไม่รู้ว่าเวลากว่ายี่สิบปีจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะอะไรจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ขอแค่ให้คุณสาธิตยังเป็นคนเดิมนะ คนที่โอบอ้อมอารีกับทุกคน ไม่อย่างนั้นชีวิตของน้ำรินต้องลำบากแน่ๆ สองแม่ลูกนั่งแทกซี่จากหมอชิตมาถึงที่บ้านหลังใหญ่ ซึ่งดูสวยงามจนน้ำรินไม่อยากเชื่อว่านี่คือบ้านของพ่อเธอ สองแม่ลูกลงจากรถแทกซี่ ก่อนที่นางนารีจะกดกริ่งหน้าบ้าน เพียงไม่นานก็มีเด็กรับใช้วิ่งมาเปิดประตูบ้าน พร้อมกับมองสองแม่ลูกด้วยความไม่ไว้ใจ “มาพบใครเหรอคะ” ดูจากเสื้อผ้าและการแต่งตัวแล้วทั้งสองไม่น่าจะรู้จักคุณผู้ชายของบ้าน ซึ่งท่านอาศัยอยู่ที่นี่เพียงลำพัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD