“ก็ได้ค่ะแม่” แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่อยากขัดใจมารดา
“ตามใจแล้วกัน จะรออยู่ตรงนี้ก็รอ ฉันไปทำงานล่ะ เสียเวลาจริงๆ” สาวใช้คนเดิมกล่าวก่อนที่จะหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้านที่น่าจะเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า แต่ไม่ยอมเปิดประตูให้สองแม่ลูกเข้าไปในบ้าน ได้แต่ปล่อยสองแม่ลูกรอที่หน้าบ้านหลังใหญ่ คนที่ขับรถผ่านไปมาก็ได้แต่มองที่สองแม่ลูกด้วยความประหลาดใจ แต่นางนารีก็ไม่หวั่นไหวในเจตนารมย์ของตนเอง
การรอคอยผ่านไปประมาณสองชั่วโมง รถยนต์หรูคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอด ก่อนที่ชายผู้หนึ่งจะลงมาจากรถ พร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความยินดี
“นารี นี่คุณจริงๆเหรอ” คุณสาธิตสั่งให้คนขับรถจอดรถ ก่อนจะลงจากรถเพื่อมาดูว่าเขาตาฝาดหรือเปล่า โชคดีที่วันนี้เขารู้สึกไม่สบายเลยรีบกลับมาที่บ้าน ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เจอผู้หญิงที่เขาเฝ้าตามหามาตลอดหลายปี
“คุณสาธิต” นางนารีหันไปมองตามเสียงด้วยความยินดี มันเป็นความดีใจอย่างที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ การได้มาเจอหน้ากันอีกครั้ง กับคนที่คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว ความรักที่อยู่ในใจ มันยังคงอยู่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
ส่วนน้ำรินนั้นได้แต่มองคนที่น่าจะเป็นบิดาของเธอด้วยความยินดี เธอจะมีพ่อ คนที่เธอคิดมาตลอดว่าท่านจากโลกใบนี้ไปแล้ว สายตาของบิดาและมารดาที่มองมาซึ่งกันและกัน มันยังบ่งบอกความรักอยู่เต็มล้นในอก
“คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เสียงของคุณสาธิตนั้นสั่นเครือเพราะความดีใจ
“ฉันจะพาลูกสาวเรามาฝากให้คุณดูแลค่ะ” นางนารีเอ่ยออกมาตามจริง ก่อนที่จะส่งสายตาไปทางน้ำริน เพื่อบอกคุณสาธิตว่านี่คือบุตรสาวของเขา
“นี่น้ำริน ลูกสาวของเรา” นางนารีเอ่ยอีกครั้งเพื่อแนะนำบุตรสาว ทำให้คุณสาธิตหันมามองที่บุตรสาวด้วยความยินดี น้ำรินยกมือไหว้ด้วยความยินดีไม่ต่างกัน วินาทีที่ได้รู้ว่าเธอมีบิดาที่พร้อมจะเป็นที่พึ่งให้ในยามลำบาก มันเหมือนชีวิตใหม่ที่ราวกับอยู่ในความฝันเลยทีเดียว