บทที่ 2 สบตา

1215 Words
?เหมันต์พ่ายรัก? บทที่ 02 ร่างบางเต้นสะเปะสะปะไปเรื่อยไม่ทันได้ระวัง จึงเซไปยังโต๊ะข้างๆ เธอล้มทับชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง ด้วยความเมา เธอเอานิ้วจิ้มๆ ไปที่แก้มสากของเขา "คุณหล่อจัง คิกๆ " เธอจิ้มแก้มเขาอยู่แบบนั้น ชายหนุ่มตวัดสายตามองร่างบางที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ "อีหนึ่ง!!" เสียงเพื่อนสาวเรียกเธอเสียงดัง ก่อนจะพากันไปลากแขนเพื่อนออกมาจากชายหนุ่ม "Sorry for my friend" ชายหนุ่มที่ไม่แท้เอ่ยขอโทษแทนเพื่อนของเขา "ไม่เป็นไรครับ" เขาตอบกลับภาษาไทย "อ้าว คุณพูดไทยได้หรอคะ" เพื่อนสาวอีกคนเอ่ยถามอย่างแปลกใจ เพราะหน้า ตาเขาก็ไม่ได้ไทยจ๋า ออกจะไปทางอาหรับ หรือพวกแขกเสียมากกว่า เขาก้มหัวเป็นเชิงบอกว่าใช่ "เอ่อ ขอโทษแทนยัยหนึ่งอีกครั้งนะคะ" เธอยิ้มก่อนที่เธอและเพื่อนหญิงไม่แท้จะพากันหิ้วปีกเพื่อนเธอออกมาจากตรงนั้น แล้วกลับไปที่โต๊ะตัวเอง "อีตาล กูว่าเรากลับเถอะ ดูอีหนึ่งมันไม่ไหวแล้วเนี่ย" เสียงกระเทยบอกกล่าวเพื่อน "เออๆ กูก็ว่างั้นแหละงั้นมึง อีสมชาย" "เฮ้ยย! บอกว่าให้เรียกซูซี่ๆ ไงย๊ะ" เสียงห้าวเอ่ยแห้วเพื่อนอย่างอารมณ์เสีย หญิงสาวหัวเราะคิกคักเมื่อแหย่เพื่อนสำเร็จ "ฮ่าาๆๆ เออๆ น้องซูซี่ มึงเคลียร์โต๊ะด้วย เดี๋ยวกูลากอีหนึ่งออกไปรอที่รถก่อน" "เออๆ" ร่างบางพยุงเพื่อนที่ตอนนี้ฟุบหลับไปแล้ว ก่อนจะพากันเดินสะเปะสะปะไปที่รถที่จอดไว้ด้านนอก ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของชายหนุ่ม เขาจ้องมองร่างบางที่ล้มทับเขาก่อนหน้านี้ เธอเหมือน...มารดาของเขา ทั้งรูปร่างหน้าตา และที่สำคัญนัยตาสีดำขลับเปล่งประกายแบบนี้ เหมือนมารดาเขาไม่มีผิด.. "เหมือน.. เหมือนมาก" เสียงทุ่มเอ่ยพึมพำเบาๆในลำคอ "อะไรเหมือนหรือครับ" ราชิดเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเอาแต่จ้องมองร่างบางเมื่อสักครู่นี้พลางพึมพำอะไรสักอย่าง "เปล่า" เขาเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะกระดกเหล้าขึ้นดื่ม เสียงเพลงดังกระหึ่ม สาวๆต่างพากันจ้องมองชายหนุ่มรูปงามด้วยสายตาเชิญชวน เขาก็จ้องกลับพลางส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ไปให้สาวๆ "องค์..เอ่อ..นายจะไปไหนหรือครับ" ราชิดเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่มลุกพร่วดขึ้น "ไปล่าเหยื่อสิ" เขากระตุกยิ้ม ก่อนจะเดินไปยังเป้าหมายที่เขาเล็งไว้อยู่แล้ว หญิงสาวเดินเข้ามาหาเขา ก่อนที่ร่างสูงจะตวัดเรียวแขนโอบเอวบาง พลางก้มลงกระซิบที่ข้างหู "ไปต่อกันมั้ยครับ" "ค่ะ" เธอเกี่ยวแขนเขาก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินออกจากผับไป ทิ้งราชิดนั่งดื่มอยู่คนเดียว รถคันหรูแล่นออกจากผับ มุ่งหน้าไปยังโรงแรมทันที อีกด้านเพื่อนสาวของนับหนึ่งพยุงเพื่อนเข้าบ้านอย่างทุลักทุเล ก่อนจะพาเข้าไปนอนในห้องได้สำเร็จ "เฮ้ออ~ ตัวหนักเหมือนกันนะมึง" น้ำตาลต่อว่าเพื่อนที่เมาหลับอยู่บนที่นอน "ไปเถอะมึง กูก็ง่วงแล้วเนี่ย" สมชายบอกเพื่อนพลางยืนหาวอยู่หลายรอบ "เออๆ ปะ" "ขอบใจมากนะที่พายัยหนึ่งมาส่ง" หญิงวัยกลางคนเอ่ยขอบคุณเพื่อนๆของลูกสาว "ไม่เป็นไรหรอกค่ะน้าน้ำ แค่นี้สบายมากค่ะ" "จ้ะๆ ขับรถกลับดีๆนะ" "ค่ะ งั้นพวกหนูลานะคะ สวัสดีค่ะ" ทั้งสองคนสวัสดีลาแม่เพื่อนก่อนจะพากันกลับไป หญิงวัยกลางคนหยิบผ้าห่มให้ลูกสาว ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ? เช้าวันใหม่ ? ร่างบางนอนอยู่บนที่นอน ก่อนจะลุกขึ้นมามือเรียวกุมหัวอัตโนมัติเมื่อรู้สึกปวดหัวมากๆ เธอแหงนมองนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงตรง "ตายห่า!! ตื่นสายขนาดนี้ได้ไงวะ" เธอเกาหัวยุ่งๆ ก่อนจะรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว ลงไปหาแม่ข้างล่าง กลิ่นผัดกะเพรากุ้งหอมลอยเตะจมูก ร่างบางเเดินตามกลิ่นหอมก่อนจะไปหยุดที่ครัว เห็นแม่ของเธอกำลังยื่นทำกับข้าวอยู่ "อื้อ หอมจังเลยจ้ะแม่" มือบางรวบกอดเอวผู้เป็นแม่จากทางด้านหลัง "ไงเรา หนักเลยสิเมื่อคืนน่ะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยแซวพลางผัดกะเพราไปด้วย ก่อนจะตักใส่จาน "งื้ออ แม่อ่ะ ก็อีตาลกับอีสมชายน่ะสิแม่ มันมอมเหล้าหนึ่ง" เพี๊ยะ! แม่ตีมือลูกสาวไม่แรงนัก "ทำไมไปเรียกเพื่อนแบบนั้นล่ะ เขาชื่อซูซี่ไม่ใช่สมชาย" "ฮ่าๆๆๆ ก็มันชื่อสมชายจริงๆนี่นา" เธอหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี "ถ้าเพื่อนมาได้ยินจะเสียใจ" "จ้าาา " ร่างบางเดินไปนั่ง ก่อนจะตักข้าวใส่จานพร้อมกินเต็มที่ ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเดินมานั่งข้างๆลูกสาว แล้วลงมือทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาสองคนแม่ลูก "เออแม่ วันนี้ไม่ได้ทำขนมขายหรอจ๊ะ" เธอถามแม่เมื่อเห็นว่าวันนี้ไม่เห็นแม่ตั้งร้าน ที่บ้านเธอทำขนมไทยขาย ตั้งขายที่หน้าบ้านนี่แหละ ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็พออยู่ได้ "อ้อ พอดีใบตองหมดน่ะ แม่ยังไม่ได้ไปซื้อเลย ที่ปลูกไว้หลังบ้านก็ตัดมาหมดแล้ว" "งั้นเดี๋ยวหนึ่งไปซื้อให้นะ" เธอพูดพลางตักข้าวคำโตเข้าปาก "อืม เงินอยู่หลังตู้เย็นนะ" "จ้า" "แล้ววันนี้ไม่ไปเขียนนิยายหรอเรา" ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม เพราะลูกสาวเธอชอบเขียนนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ทำเป็นหนังสือขายก็พอขายได้อยู่ มีคนชอบนิยายของลูกสาวเธอเยอะแยะ "เขียนสิจ๊ะ เย็นๆค่อยเขียนก็ได้" "อื้อ" หลังจากกินข้าวเสร็จนับหนึ่งก็ปั่นจักรยานออกไปซื้อใบตองมาให้แม่ทำขนม จะมีขนมไทยหลายอย่าง ตะโก้ ขนมชั้น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และอีกหลายๆอย่าง ตั้งแต่พ่อเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถชน เธอก็อาศัยอยู่กับแม่แค่สองคน เธอเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้องที่ไหน เธอค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง เธอชอบสันโดษ แม้หลายคนจะบอกว่าเธอเป็นนักเขียนไส้แห้ง ลำพังเขียนหนังสือไปวันๆ จะพอยาไส้อะไร แต่เธอไม่ได้สนใจคนพวกนั้น เธอมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำ และแม่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกจะสนับสนุนเธอด้วยซ้ำ แรกๆเธอลองเขียนนิยายเล่นๆ ในกระทู้พันทิป ปรากฏว่ามีคนชอบเยอะ เธอเลยลองแต่งอีกสองสามเรื่อง ก่อนจะสั่งตีพิมพ์เป็นหนังสือ แรกๆก็ยังไม่มีคนซื้อ แต่เธอก็ไม่ท้อ ก็ยังคงแต่งไปเรื่อยๆ ผลตอบรับถือว่าดีมาก จนปัจจุบันเธอเป็นนักเขียนที่มีคนรู้จักในนามปากกา นับน้ำหนึ่ง เป็นชื่อของเธอกับแม่ของเธอรวมกัน เพราะทุกความสำเร็จ มีแม่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD