“ถ้าไม่ติดว่าฉันเพิ่งช่วยเธอมานะ ฉันไม่สนใจผู้หญิงปากดีแบบเธอหรอก รอให้พ้นวันนี้ก่อนนะ หลังจากนี้จะเป็นจะตายก็เรื่องของเธอ”
พายนั่งกำมือเข้าหากันแน่น เธอไม่อยากต่อปากต่อคำกับผู้ชายคนนี้ เขาดูอันตรายกว่าที่เธอคิด ดูจากหน้าตา อายุเขาน่าจะแก่กว่าเธอไม่เท่าไหร่ แต่เขากลับมีปืนผาหน้าไม้ ถ้าหากเถียงเขาไปมาก ๆ เธออาจจะถูกเขาสาดกระสุนใส่แทนไอ้พวกเลวก่อนหน้านี้ก็ได้
“เงียบทำไม?”ที่จริงก็ไม่อยากสนใจว่าเธอจะพูดหรือเงียบ แต่เห็นใบหน้าเธอซีดลงเรื่อย ๆ ก็สงสัยว่าเป็นอะไร ไม่ใช่ว่าจะมาเป็นลมในรถเขาหรอกนะ แค่ช่วยจากไอ้พวกนั้นก็พอแล้ว อย่าให้ต้องถึงขั้นพาไปส่งโรงพยาบาลอีกเลยนะ
“ตกลงบ้านเธออยู่ไหน?”
“…..”
“เธอนี่เป็นคนแบบไหนกันนะ พอพูดมากก็ปากดีเหลือเกิน พอจำเป็นต้องพูดกลับไม่พูด เธออยากให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้สินะ”
“ขับตรงไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวใกล้ถึงฉันจะบอก”เมื่อเขาเริ่มโมโห เธอก็ส่งเสียงออกมาทันที เธอยังอยากกลับไปหายาย ไม่อยากทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ตอนนี้
“เธอกลัวฉัน?”
“พี่มีปืน”เธอตอบออกไปทันที มีใครบ้างในโลกนี้ไม่กลัวปืน ขนาดไอ้พวกอันธพาลเมื่อกี้ มันมีกันสี่คน พอเขาชักปืนออกมาขู่ มันก็ถอยไปทันที แล้วผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบเธอจะไม่ให้กลัวได้อย่างไร
“ปืนปลอม”
“ห๊า!!!”พายตวัดสายตาไปมองหน้าเขาทันที“พี่บ้าหรือเปล่า”
เธอไม่อยากคิดหากเมื่อกี้พวกมันมีปืนเหมือนกัน หรือรู้ว่าปืนที่เขาเอาออกมาขู่เป็นเพียงปืนปลอมของผู้ชายคนนี้ที่เอาไปหลอกพวกมันเท่านั้น เธอกับเขาจะเป็นยังไง คงไม่ได้มานั่งรถกันอยู่แบบนี้แน่
“ฉันไม่ได้โง่เหมือนเธอนะ ไม่เห็นเหรอพวกมันมีสี่คน ถ้าไปเตะต่อย คิดว่าฉันจะสู้พวกมันได้เหรอ ป่านนี้เธอคงไปเป็นเมียพวกมันแล้ว และฉันก็อาจจะถูกซ้อมจนเข้าโรงพยาบาลแล้วก็ได้”
ถึงจะยอมรับว่าเขาฉลาดที่ทำแบบนี้ แต่เธอก็คิดว่าเขาทำแบบนี้เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก“งั้นก็ต้องขอบคุณนะ ที่ช่วยฉันไว้ ทั้ง ๆ ที่พี่ไม่ได้อยากช่วย”
“ปากดีอีกแล้ว”นี่ถ้าเธอรู้ว่านั่นไม่ใช่ปืนปลอมเหมือนเขาบอก เธอจะกล้าพูดแบบนี้อยู่ไหม แต่เขาแค่คิดว่าโกหกไปจะดีกว่าเพราะหลังจากนี้เราสองคนคงไม่เจอหรือยุ่งเกี่ยวกันอีก เธอคือคนที่เขาสัญญากับตัวเองว่าจะช่วยแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
หลังจากรถคันหรูเลี้ยวออกจากซอยไปแล้ว พายก็เดินเข้าบ้านทันที บ้านไม้เก่า ๆ หลังเล็กสองห้องนอน เป็นเพียงบ้านเช่าเดือนละสองพันห้าร้อยบาทเท่านั้น เธออาศัยอยู่กับยายแค่สองคน ส่วนพ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปตัั้งแต่เธอยังเด็กมาก จำความไม่ได้ด้วยซ้ำไป
นาฬิกาข้างฝาบอกเวลาเกือบตีสาม ปกติเธอจะกลับมาถึงบ้านไม่เกินตีสองของทุกวัน แต่เพราะวันนี้เกิดเรื่องขึ้น เลยกลับมาช้ากว่าปกติ ทำให้เมื่อตอนเปิดไฟก็ต้องตกใจเพราะเห็นคนเป็นยายนั่งอยู่ที่เก้าอี้กลางบ้าน
“ตื่นมาทำไมคะ?”
“ทำไมกลับป่านนี้?”
“คืนนี้แขกเยอะค่ะ พายเลยอยู่นานหน่อยค่ะ”
หญิงสาวเดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นยายที่อายุเจ็ดสิบกว่าแล้วด้วยท่าทางออดอ้อน ยายเป็นแบบนี้เสมอ หากเธอกลับผิดเวลาจากทุกวัน ก็จะนอนไม่หลับ ต้องออกมารอเธอ“ไปค่ะ เดี๋ยวพายพาเข้าไปนอน”
“ทำงานดึกเกินไปหรือเปล่า พรุ่งนี้มีเรียนอีกไม่ใช่เหรอพาย”
“มีเรียนสิบโมงค่ะ ยังพอมีเวลานอน”
“เหนื่อยไหมพาย? ตอนนี้ยายว่าพายดูผอมไปมากนะลูก”
ก็ไม่อยากจะยอมรับว่าที่ยายพูดคือเรื่องจริง เพราะเธอเพิ่งชั่งน้ำหนักไปเมื่อตอนเย็น ปรากฏว่าน้ำหนักเธอลดไปเกือบสามกิโลฯ น่าจะเพราะช่วงนี้เหนื่อยจากการเรียนและต้องทำงานเลิกดึกดื่นทุกวัน อีกอย่างเธอก็กินข้าวไม่ครบสามมื้อในแต่ละวันด้วย บางวันก็ได้กินแค่มื้อเดียวคือมื้อเที่ยงกับเพื่อนที่มหาลัย ส่วนมื้อเย็นหากไม่กินก็จะลืมไปเลยเพราะความเหนื่อยจากการทำงาน กลับถึงบ้านเธอก็รีบอาบน้ำเข้านอนทันที บางวันเหนื่อยมากก็เข้านอนทั้งที่ไม่ได้อาบน้ำก็มี
“พายไม่เป็นไรค่ะยาย ร่างกายยังไหวอยู่”
สีหน้าคนแก่ไม่ได้เชื่อที่เธอพูดสักนิด เธอรู้ว่ายายเป็นห่วงเธอมาก ไม่ได้อยากให้เธอทำงานหนักขนาดนี้ แต่เธอก็มีภาระเยอะเหลือเกิน จากที่เมื่อก่อนเคยทำพาร์ทไทม์ร้านคาเฟ่ แต่รายได้ไม่พอกับรายจ่ายเลยต้องมาทำผับที่เลิกดึกทุกวัน แต่ทว่าผับที่เธอทำนั้นรายได้ดีมาก ทิปก็หนัก ลูกค้าระดับวีไอพีทั้งนั้น
ถึงจะเคยเจอลูกค้าชอบลวนลามร่างกายไปบ้าง แต่เธอก็ทำใจยอมรับมาตลอด ปกติเธอก็พอจะทนได้ถ้ามันไม่มากเกินไป เพราะนึกถึงภาระที่เธอต้องรับผิดชอบ ก็ไม่อยากทำให้เป็นปัญหากับตัวเอง แต่วันนี้มันไม่ไหวจริง ๆ ลูกค้ากลุ่มนั้นนอกจากจะจับก้นเธอแล้ว ยังพูดจาหยาบคายไม่ให้เกียรติเพศแม่ เป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้ จนต้องใช้คำพูดรุนแรงจนคนพวกนั้นไม่ยอม มาดักทำร้ายเธอแบบนั้น
นี่ถ้าไม่ได้ผู้ชายคนนั้นช่วยไว้ เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะยังมากอดยายอยู่แบบนี้ได้หรือเปล่า พอคิดถึงตรงนี้เธอก็ลืมเรื่องจะตอบแทนผู้ชายคนนั้นไปเสียสนิท มัวแต่คิดว่าเขาอันตราย ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนช่วยเธอไว้แท้ ๆ
เห้อ…แต่ก็ช่างเถอะ เขาเองก็ดูเหมือนไม่อยากให้เธอตอบแทนเท่าไหร่ เขาดูรำคาญเธอมากกว่าจะอยากเจอเธอด้วยซ้ำ คิดได้แบบนั้น ก็ประคองยายเข้าไปนอนในห้อง ส่วนเธอเองก็เหนื่อยเต็มทีแล้ว อยากจะอาบน้ำนอนเหลือเกิน
เมื่อเข้ามาในห้องของตัวเอง ก็เห็นรูปพ่อกับแม่ที่แขวนไว้ที่ข้างฝา น้ำตาที่พยายามเก็บกักไว้ตลอดทั้งวันก็ไหลออกมา มันไม่ใช่เพราะเธอกำลังอ่อนแอหรือเสียใจที่พวกท่านจากไป เพราะเธอก็ทำใจเรื่องนี้มานานมากแล้ว แต่เธอกำลังเหนื่อยที่ต้องต่อสู้ทุกอย่างอยู่เพียงลำพัง ยิ่งตอนนี้ยายก็แก่ตัวลงไปทุกวัน เธอก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดดเดี่ยว ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะมีแรงสู้ได้ถึงเมื่อไหร่
เธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แม้เธอจะต้องเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องอดทนมาตลอด แต่เรื่องวันนี้ทำให้เธอคิดได้ว่า ยังไงเธอก็ไม่ได้เก่งกาจไปเสียทุกเรื่อง เธอก็ยังมีเรื่องที่ต้องพึ่งพาคนอื่นเหมือนกัน แต่ก็นะโลกใบนี้ก็ช่างโหดร้ายเหลือเกิน พรากพ่อกับแม่เธอไปไม่พอ ยังส่งแบบทดสอบมาให้เธอนับครั้งไม่ถ้วน ไม่รู้เธอทำเวรทำกรรมอะไรไว้นักหนา เรื่องแบบนี้ถึงไม่หมดไปจากเธอสักที จากที่คิดว่าจะไปอาบน้ำก่อนนอน แต่เมื่อทิ้งตัวลงบนที่นอน ร่างกายอันอ่อนเพลียก็สลบไปทันทีทั้งน้ำตา