ตอนที่7 ตามหาสามี

956 Words
ผ่านไปหนึ่งเดือนกว่าแล้ว รัชชานนท์บอกจะกลับไปกรุงเทพฯ เพียงแค่วันสามวัน แต่จนถึงวันนี้ชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาหา มิหนำซ้ำยังมีคนมาขนของออกจากบ้านพักของเขาไปจนหมดเกลี้ยง ทำให้ช่อฟ้ารู้สึกเป็นกังวลใจอยู่มาก แถมคำพูดจากปากมารดา ผู้คนที่อยู่รายล้อม ต่างมีคำถามและพ่นคำพูดที่ทำให้เธอรู้สึกแย่ "สารวัตรมันจะกลับมาหาแกจริงหรือเปล่าวะ ไหนคนเขาพูดกันว่ามันมาขนของกลับไปแล้ว ทำไมมันไม่เอาแกกลับไปด้วยหะช่อ" "ช่อก็ไม่รู้เหมือนกันแม่ แม่อย่าพูดอะไรที่ทำให้ช่อกลัวได้ไหม ช่อยิ่งติดต่อพี่นนท์ไม่ได้เกือบจะสองอาทิตย์แล้วนะ" "แกหมายความว่ายังไง มันจงใจจะหนีแก ไม่รับผิดชอบชีวิตแกกับลูกงั้นสิ รีบไปตามมันที่กรุงเทพฯเลยนะ ถ้ามันไม่กลับมาแกก็อยู่กับมันที่นั่นไปเลย แกจะแยกกันอยู่ให้มันเป็นขี้ปากชาวบ้านเขาแบบนี้เหรอ ฉันอายคนนะเว้ย แกก็เห็นว่ามีแต่คนจ้องจะนินทา ชอบเป็นขี้ปากพวกเขาหรือยังไงกัน" "ช่อก็บอกแล้วว่าอย่าไปสนใจพวกเขามากนัก คนมันมีปากมันก็พูดไปเรื่อยแหละแม่ แม่ก็อย่าเก็บมาใส่ใจนักเลย" "ก็เพราะฉันต้องอยู่ในสังคมแบบนี้ แกจะไม่ให้ฉันสนใจได้ยังไง มันก็มีแต่เรื่องมาเข้าหูฉัน ทำไมนะช่อทำไมแกต้องทำแต่เรื่องอับอายขายขี้หน้าฉันไม่หยุดหย่อนสักที ท้องก่อนแต่งก็ทีนึงแล้ว นี่ยังจะโดนผัวทิ้งท้องไม่มีพ่ออีกงั้นเหรอ แกรีบไปตามมันเลยนะ ถ้ามันจะอยู่กรุงเทพฯ ไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว แกก็ใช้ชีวิตอยู่กับมันนั่นแหละ" "แล้วแม่ล่ะจ๊ะใครจะดูแล ช่อไม่อยากทิ้งแม่ไปหรอกนะ" "แกไม่ต้องมาห่วงฉันหรอกช่อ ห่วงแกกับลูกเถอะ รีบพาลูกไปตามพ่อมันซะ หรือแกอยากให้ลูกเกิดมาไม่มีพ่อ เหมือนที่แกเกิดมาไม่มีพ่ออย่างนั้นเหรอ แกชอบให้เพื่อนล้อลูกแกเหมือนที่ล้อแกมาตลอดชีวิตงั้นสิ?" นางสมรศรีถึงกับน้ำตาเอ่อล้นออกมาอย่างอดไม่ได้ เมื่อนึกถึงชีวิตของตัวเองที่ไม่ได้ดูต่างจากลูกสาวตอนนี้มากนัก เหมือนกับภาพสะท้อนที่เป็นกระจกเงา ทำให้นางรู้สึกไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับที่นางเคยพบเจอมา ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นนางไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น นางอยากให้ชีวิตของช่อฟ้าแตกต่างไปจากที่เคยเจอ นางรู้ดีว่าการเลี้ยงลูกอยู่คนเดียวมันเป็นความทุกข์ใจหนักและความยากลำบากในชีวิตมากแค่ไหน กว่าที่ช่อฟ้าจะเติบโตขึ้นมาได้อย่างทุกวันนี้ นางได้แต่วาดหวังไว้ว่าลูกสาวจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่นางได้พบเจอมา และหลานจะได้ไม่ต้องตกระกำในชะตาเดียวกันกับคนเป็นแม่ "ช่อขอโทษนะจ๊ะแม่ ที่ทำให้แม่ผิดหวังซ้ำซากแบบนี้ ช่อจะไปตามพี่นนท์ แม่จะได้สบายใจ แม่ไม่ต้องไปสนใจคำคนเขาพูดกันหรอก ช่อจะดีหรือไม่ดีมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับแม่ แม่เลี้ยงดูช่อมาดีทุกอย่าง เป็นช่อเองที่ไม่รักดี ช่อขอโทษนะจ๊ะแม่" ช่อฟ้าโอบกอดมารดาร้องไห้ไม่ต่างจากคนเป็นแม่นัก ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกเสียใจที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ในเมื่อมันพลาดไปแล้วเธอก็ต้องยอมรับกับผลพวงที่จะตามมา สองวันต่อมา ช่อฟ้าเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และนี่เป็นครั้งแรกสำหรับหญิงสาวต่างจังหวัดที่ไม่เคยจะเดินทางไกล ไปไหนมาไหนคนเดียวเช่นนี้มาก่อน ที่อยู่ในกระดาษสี่เหลี่ยมใบเล็ก ๆ ถูกยื่นให้กับคนขับรถแท็กซี่ ที่เธอใช้บริการมาจากสถานีขนส่งหลังจากที่ลงรถทัวร์มาได้เรียบร้อยแล้ว เมืองหลวงแห่งนี้ช่างดูวุ่นวายมากมายเหลือเกิน รถก็ติดจนน่าเบื่อแล้วทำไมผู้คนถึงเดินทางกันมาอยู่แต่เมืองหลวงที่แออัดเช่นนี้นักนะ จากสถานีขนส่งมาจนถึงหน้าบ้านหลังหรู ช่อฟ้าไม่แน่ใจนักว่าเธอมาถูกบ้านหรือเปล่า ก่อนที่จะสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กเดินลงจากรถแท็กซี่ไป หยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านหลังสีขาว พร้อมกับนิ้วที่ยื่นไปกดกริ่งหน้าบ้าน ติ๊งหน่อง! ติ๊งหน่อง! เพียงแค่ไม่ถึงนาทีก็มีคนวิ่งออกมาเปิดประตูและส่งยิ้มทักทายให้ "มาหาใครกันคะ?" หญิงสาวที่รุ่นราวคราวเดียวกับเธอถามไถ่ขึ้น ช่อฟ้าส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ "มาหาพี่นนท์ค่ะ เขาอยู่ที่นี่ใช่ไหม?" ไม่ทันที่สาวใช้ผู้นั้นจะตอบกลับ เสียงเรียกของเจ้านายสาวก็ดังขึ้นมาจากข้างหลังอีกครั้ง "ชบา ฉันจะออกไปข้างนอกเปิดประตูให้หน่อยสิ เธอไปยืนทำอะไรที่นั่นน่ะ" "มีคนมาหาคุณนนท์ค่ะคุณลิตา" สาวใช้ตอบกลับไป ลลิตาก็เดินออกมาสมทบกับแม่บ้านอีกคน ผู้หญิงหน้าตาสะสวยปรากฏกายขึ้นตรงหน้าของช่อฟ้า เธอคนนี้แต่งตัวดีดูมีฐานะชาติตระกูลนัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD