ตอนที่ 6 คำขอโทษ ไร้ประโยชน์
“กู๊ดมอร์นิ่งค่ะ ที่รัก” ภรรยาสาวมอบจูบหวานต้อนรับเช้าวันใหม่ให้แก่สามี คนที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาจากฝันถึงกับยิ้มยิงฟันขาว ท่อนแขนตวัดรัดดึงเอาร่างบางเข้ามาสวมกอดพร้อมหอมฟอดแก้มนุ่มคืนกลับไป
“ทำไมวันนี้คุณตื่นเช้าจังเลย”
“วันนี้ ฉันต้องเข้าไปประชุมงานกับฝ่ายบริหารที่บริษัทค่ะ คุณคงไม่คิดว่า ฉันจะใช้ชีวิตสุขสบาย นั่งกินนอนกิน ผลาญสมบัติที่เตี่ยสร้างเอาไว้ให้ อย่างเดียวใช่ไหมคะ”
“ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นนะครับ ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เก่งและ มีความสามารถหลายด้าน”
“ผู้ชายส่วนมาก มักไม่ชอบผู้หญิงเก่ง”
เป็นเรื่องจริงที่วีรดาตระหนักรู้จากประสบการณ์ตรง เพราะหนึ่งในคนเหล่านั้นคืออดีตคู่หมั้นของเธอเอง ทุกครั้งที่เธอประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน การทำงาน การได้รับความยอมรับจากสังคมที่สูงกว่า ชาติชายมักตัดพ้อต่อว่าถึงชาติกำเนิดตัวเอง ที่เกิดมาฐานะด้อยกว่าวีรดา ไม่ว่าจะหยิบจับทำธุรกิจการงานอะไรไร้คนสนับสนุน
“บริษัทของผม ผู้บริหารระดับสูงครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง และพวกเขามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มีความละเอียดอ่อนรอบคอบ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การทำงานไม่ต่างจากผู้ชาย ผมชื่นชมพวกเขานะครับ คุณย่าของผมท่านก็เป็นคนเก่ง บริหารจัดการงานในบริษัทแทนคุณปู่จนธุรกิจเจริญรุ่งเรือง คุณแม่ของผมถึงแม้ท่านไม่ค่อยรู้เรื่องการทำงานนอกบ้าน แต่คุณแม่ของผมฉลาดและเก่งมาก เรื่องการใช้ชีวิต เวลาพวกเรามีปัญหาอะไร ปรึกษาคุณแม่ได้ทุกเรื่อง แล้วคุณแม่ก็มักมีคำแนะนำดี ๆ มาให้พวกเราเสมอ คุณพ่อเคยบอกว่า ที่ครอบครัวของพวกเราประสบความสำเร็จมาได้อย่างทุกวันนี้ เพราะมีผู้หญิงเก่ง ๆ คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังตั้งสองคน”
“เพราะผู้หญิงอย่างเรา เวลารักใครแล้ว เราพร้อมซัพพอร์ตเขาในทุกเรื่อง ต่อให้ต้องต่อสู้กับความยากลำบากแค่ไหน พวกเราทนได้เสมอ มีเพียงสิ่งเดียว ที่ผู้หญิงอย่างพวกเราจะไม่ทน นั่นคือการถูกนอกใจ”
ตึกสูงใจกลางเมืองหลวงรูปทรงดีไซน์หรูหราโดดเด่นสะดุดตา อันอาจเรียกได้ว่ารูปแบบเชิงสัญลักษณ์แห่งอาณาจักรตระกูลดัง ลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัว ก้าวเท้าฉับ ๆ ออกมาจากลิฟต์โดยสาร ด้านหลังเดินตามมาติด ๆ คือเลขานุการส่วนตัว พร้อมผู้ช่วยชายหญิง เดินถือไอแพด อ่านรายงานสำคัญที่วีรดาจำเป็นต้องรู้ก่อนเข้าประชุม
“ฉันอ่านรายงานที่สรุปมาแล้ว คิดว่ามันยังมีช่องโหว่อยู่ลองส่งเรื่องกลับไปให้ฝ่ายมาร์เก็ตติ้งพิจารณาอีกที ส่วนผลิตภัณฑ์ของเราที่กำลังจะเปิดตัว แพ็กเก็ตใหม่ฉันอยากให้มันมีความเป็นเอกลักษณ์มากกว่านี้ ให้ฝ่ายออกแบบ ส่งงานมาให้ทางคณะกรรมการร่วมโหวตลงมติในที่ประชุมอีกทีนะ”
“ได้ค่ะคุณวี”
“อ้อ ตอนบ่ายเรียกทีมงานการตลาด เข้ามาประชุมในห้องเล็กด้วยนะ ส่งอีเมลให้กับทีมผู้บริหารบริษัทเจเค นัดประชุมเรื่องโปรเจคใหม่ที่กำลังจะเริ่ม ฉันจะเข้าไปร่วมฟังการพรีเซ็นต์ด้วยตัวเอง”
วีรดาเป็นผู้หญิงสวยที่สามารถสะกดสายตาผู้คนได้ภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที หากแต่สิ่งที่ทำให้เธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น คงเป็นบุคลิกภาพ ทุกย่างก้าวของวีรดาสวยสง่า ทรงพลัง เปี่ยมไปด้วยอำนาจ ความทะมัดทะแมง กระฉับกระเฉงมั่นใจ ไม่มีวี่แววของคนที่เพิ่งถูกคู่หมั้นนอกใจ ในวันแต่งงานหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย
ภายในห้องประชุมใหญ่วีรดานั่งตำแหน่งหัวโต๊ะด้านในสุด สองข้างด้านซ้ายและขวามีเหล่าบรรดาผู้บริหารงานระดับกลางไปจนถึงระดับสูงนั่งตัวตั้งหลังตรง ตั้งใจฟังเนื้อหาการประชุม เรียกได้ว่าแทบไม่มีใครกล้ากะพริบตาเลยด้วยซ้ำ
“เอาล่ะ ทุกคนดำเนินการตามนี้ได้เลย” วีรดาซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมพยักหน้าอย่างพอใจ หลังจากนั่งฟังการพรีเซ็นต์โปรเจคใหญ่จากทุกส่วนงานผ่านไป เสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน
“คุณวีคะ ด้านนอกคุณชาติชายมารอพบคุณวีนานแล้วค่ะ” เลขานุการส่วนตัวลุกจากเก้าอี้มากระซิบด้านข้างใบหู
“ชาติชายอย่างนั้นหรือ เขาจะมาทำไมอีก ให้คนเชิญเขาออกไป”
“เชิญแล้วค่ะ แต่ว่าคุณชาติชายไม่ยอมไป บอกว่าจะรอพบคุณวีให้ได้เลยค่ะ”
คนที่นั่งอยู่ตำแหน่งหัวโต๊ะลุกขึ้นยืน จากนั้นเดินออกจากห้องประชุมเป็นคนแรก ท่ามกลางสายตาทุกคน เสียงซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคู่รักที่ครั้งหนึ่งเคยสวีทหวาน กลับมาขมจนกลืนไม่ลง ยิ่งข่าวการเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวแบบสายฟ้าแลบของวีรดา ทำให้ทุกคนยิ่งตระหนักรู้ว่าเจ้านายสาวสวยคนนี้เป็นคนเด็ดขาดเพียงใด
“วี ผมคิดว่าคุณจะไม่ออกมาหาผมแล้วซะอีก คุณยกโทษให้ผมแล้วใช่หรือเปล่า ดูสิผมซื้อดอกไม้มาง้อคุณด้วยนะ เรามาคืนดีกันนะครับ”
อดีตคู่หมั้นหนุ่มคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า พร้อมกับชูช่อดอกไฮเดรนเยียร์สีชมพูหวานขนาดใหญ่มาให้ ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย วีรดาไม่แม้แต่จะชายหางตามอง เจ้านายสาวแสนสวยยังคงเชิดหน้ารักษาความสง่างามมั่นใจนั้นเอาไว้ได้อย่างไม่มีตกหล่น
“ฮึ คืนดีกัน อย่างนั้นหรือ” วีรดากระตุกยิ้มเย็นชาผ่านมาทางริมฝีปากซึ่งขยับยกเพียงข้างเดียว
“ดอกไฮเดรนเยียร์สีชมพู คุณเคยบอกว่าชอบมันมาก ถ้าผมทำอะไรผิดพลาดแค่เอามันมาง้อ คุณจะยกโทษให้ผมทั้งหมด วี...ยกโทษให้ผมนะ ผมรักคุณนะครับ อย่าให้เรื่องเล็กน้อยเท่านี้มาทำลายความรักของเราเลย” ร่างสูงนั้นขยับใช้หัวเข่าเดินเข้ามาหา
“ดูเหมือนคุณจะเป็นคนความจำสั้นกว่าที่ฉันคิด ครั้งก่อนฉันบอกคุณว่า อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก” ช่อดอกไม้สีชมพูขนาดใหญ่ ถูกวีรดาจับขว้างลงไปบนพื้นอย่างไม่ไยดี กลีบดอกไม้อันบอบบางปลิดปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้นอาคารสำนักงาน
“วี โกรธอะไรก็ให้มีขอบเขตบ้างสิ นี่ผมอุตส่าห์มาง้อคุณต่อหน้าทุกคนแล้วนะครับ คุณก็รู้ว่าผมไม่เคยยอมลดตัวทำเร่ืองน่าอายอบบนี้ให้ใครเลย นอกจากคุณนะวี” หัวเข่าที่เคยคู้ยอมนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ด้อยกว่าขยับยืนขึ้นมา สายตา เว้าวอนเริ่มกระด้างขึ้นมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ไว้หน้าตน
“ในเมื่อคุณมาง้อฉันต่อหน้าทุกคน อย่างนั้นลองตะโกนออกมาสิคะว่า คุณทำอะไรให้ฉันโกรธ ตะโกนออกมาสิว่าคุณนอกใจฉัน ไปนอนกับแม่เลขาสาว ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงเราต้องเข้าพิธีแต่งงาน คุณตะโกนออกมาแล้วลองถามทุกคนในที่นี้ว่าฉันควรให้อภัยคุณหรือเปล่า”
“ผมบอกแล้วไงว่าผู้หญิงคนนั้นยั่วยวนผม แล้วตอนนี้ผมก็ย้ายเขาไปทำงานตำแหน่งอื่นแล้วด้วย ถ้าคุณยังไม่ไว้ใจผมไล่เขาออกได้นะ”
“คุณจะทำอะไรกับเธอ มันไม่เกี่ยวกับฉันอีกต่อไปแล้ว รปภ.ไล่เขาออกไป แล้วต่อไปนี้ถ้าใครปล่อยให้ผู้ชายคนนี้เข้าถึงตัวฉันอีกละก็ ฉันจะยกเลิกสัญญาจ้าง บริษัทรักษาความปลอดภัยทันที” สายตาเฉียบขาดแข็งกร้าวตวัดมองไปยังพนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนที่ยืนละล้าละลังไม่มั่นใจ เพราะยังจดจำภาพของชาติชายไว้ในฐานะคู่หมั้นเจ้าของบริษัท รวมถึงพนักงานคนอื่นที่ไม่คาดคิดว่าวีรดาจะตัดขาดความสัมพันธ์กับคู่หมั้นได้เด็ดขาดขนาดนี้
“วี คุณทำกับผมแบบนี้ไม่ได้นะ ผมไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะไม่มีเยื่อใยเหลือไว้ให้ผมเลย”
“ไอ้ชาติ!”
ร่างสะบัดตามแรงรั้งของคนที่ตกอยู่ภายใต้อารมณ์เคียดแค้น คนถูกหยามตวัดแขนเกี่ยวเอวอดีตคู่หมั้น มือกำบีบก้านคองัดใบหน้าสวยให้เงยขึ้นมาก่อนจะประกบปากลงไปจูบวีรดาต่อหน้าคนมากมาย
เพียงกลีบปากนุ่มถูกรุกรานล่วงล้ำ มือหยาบกำรวบปกเสื้อมาจากด้านหลัง แล้วกระชากรั้งดึงให้คนมารยาททรามผงะหงายมาจนหน้าหงาย กำปั้นแข็งส่งแรงเหวี่ยงหนัก ๆ ซัดเข้าไปยังสันกรามด้านข้าง ได้ยินเสียงกระดูกลั่นดังไปทั่วทั้งสำนักงานใหญ่ เสียงกรีดร้องตกใจดังมาจากพนักงานสาว ๆ ซึ่งยืนมุงอยู่ด้านข้าง แต่ต่อเสียงเซ็งแซ่จะดังแค่ไหน ทว่ายังน้อยกว่าเสียงคำรามของการันต์
“อย่ามาแตะต้องภรรยาของผม”
“การันต์! คุณกล้าต่อยหน้าผมอย่างนั้นหรือ” เจ้าของกรามค้างยกมือขึ้นมากดสันกรามตัวเอง
“ผมกล้าทำมากกว่านี้ อีกถ้าหากคุณยังบังอาจมาแตะต้องล่วงเกิน หรือไม่ให้เกียรติภรรยาของผม” ร่างสูงขยับมายืนขวางกั้นตรงกลางระหว่างชาติชายและวีรดา ดวงตากร้าวดุดันเอาจริงเอาจังอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
“คุณการันต์” เสียงหวานมาพร้อมสัมผัสนุ่มจากมืออุ่น ๆ สอดเข้ามาเกาะกุมมือของเขา
“วีคุณ...โอเคใช่ไหม” หมัดแข็งคลายออกแตะปลายนิ้วไล้ลงไปบนกลีบปากนุ่มเบา ๆ
“โอเคค่ะ แต่ว่าเมื่อกี้นี้เขาจูบฉัน”
“ผมจูบทับ ซ้ำรอยของมันแล้ว” แทนคำพูดยืดยาวการันต์โน้มใบหน้าลงมาต่ำประกบปากมอบจูบหวานดูดดื่มนุ่มนวลให้แก่ศรีภรรยาต่อหน้าคนนับสิบ คนที่เป็นได้แค่อดีตคนรักถึงกับยืดกำหมัดแน่น
“ขอบคุณค่ะ”