ตอนที่ 5 King Size
ผมแลบลิ้นแล้วใช้ส่วนปลายสุดซึ่งไวต่อความรู้สึกไปแตะท่อนเนื้อร้อนนั้นช้าๆ โดยเริ่มจากรูเล็กๆ ตรงปลายสุดส่วนหัวซึ่งมีน้ำใสๆซึมออกมาเป็นเมือกลื่นๆ จากนั้นจึงค่อยลากลิ้นไล่ต่ำลงมาสัมผัสของแข็งทรงกลมเล็กๆ ที่มันกลิ้งดิ้นไปดิ้นมาอยู่ใต้ผิวหนังบางๆ ให้ความรู้สึกแปลกประหลาด กลิ่นอับของเนื้อหนังยามเมื่อมันถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อผ้ารัดเอาไว้ใต้กางเกงเนื้อหนามาตลอดทั้งวันผสมมากับกลิ่นคาวอ่อนๆ ซึ่งเป็นกลิ่นคาวเฉพาะซึ่งผู้ชายอย่างเราๆ คุ้นเคยดี
ในเมื่อคืนนี้ผมรับเงินมาแล้ว หน้าที่ของผมคือขายความสุขให้กับผู้ชายที่นอนเปลือยกายอยู่ตรงหน้า ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นท่อนเนื้อแท่งใหญ่ขยายพองจนเต็มมือ ผมลากลิ้นตัวเองลงมาใช้มันโอบอุ้มถุงเนื้อขนาดใหญ่ใต้ท่อนเอ็นพร้อมกับใช้ลิ้นตวัดเอาไอ้ถุงลูกบอลกลมๆ นั้นแล้วอมมันเข้าไปไว้ในปาก ก่อนจะออกแรงดูดกระพุ้งแก้มตัวเองแรงๆ คอยเงี่ยหูรอฟังเสียงครางของคนที่นอนถ่างขาให้ผมปรนเปรอความเสียวให้
“อ๊า แก๊ปเธอเก่งกว่าที่ฉันคิด”
คุณสเตฟานดูจะชื่นชอบให้ผมทำแบบนี้เพราะสะโพกหนาเริ่มขยับกระดกขึ้นลงช้าๆ ส่วนหน้าขาซึ่งมีรอยสักรูปหัวหมีขนาดใหญ่อ้าปากโชว์เขี้ยวทำเอาผมต้องรีบเบือนหน้าหนีมัน แต่หันไปอีกข้างหน้าขาสกปรกรกไปด้วยรอยสักอะไรไม่รู้ผมไม่เคยเห็น นั่นแหละผมจึงเอาสายตาตัวเองกลับมาสนใจไอ้ท่อนเนื้อกับถุงหนังตรงหว่างขาของลูกค้าฝรั่งของผมเหมือนเดิม
ผมใช้ลิ้นกลิ้งเจ้าลูกบอลกลมๆ สองลูกของคุณสเตฟานแล้วดูดมันอยู่อย่างนั้น ก่อนจะขยับย้ายกลีบเนื้อริมฝีปากบางๆ อ่อนนุ่มมาจ่อทิ้งไว้กับปลายท่อนเนื้อหัวหยักอันใหญ่ แล้วขยายอ้าปากออกกว้างก่อนจะครอบลงไปบนส่วนหัวทู่มนรสชาติหวานปะแล่มๆ
“อึก!”
ผมเพิ่งจะกลืนแท่งเอ็นในมือเข้าไปได้ยังไม่ทันถึงครึ่งท่อน เจ้าของมันก็เด้งสะโพกดีดสวนขึ้นมาแทงพรวดเข้ามาจนปากผมแทบฉีก ไอ้ที่ตั้งใจจะค่อยๆ กลืนเข้าไปทีละนิด ตอนนี้มันแทงไปจนเกือบทะลุคอหอย ผมเผลอฟาดฝ่ามือตบลงไปใส่หน้าท้องแน่นเปรี๊ยะเสียงดังลั่น เพราะเจ้าลูกแก้วเม็ดแข็งๆ ครูดปากผมจนเจ็บไปหมด
คุณสเตฟานจับหัวผมโยกขึ้นโยกลง ขยับเข้าๆ ออกๆ อยู่แบบนั้นครู่ใหญ่ ความใหญ่อวบอ้วนที่แทบจะทำเอาปากผมฉีกว่าทรมานแล้วความยาวที่เกินพอดีเมื่อยามคุณสเตฟานกดหัวผมลงไปผมรู้สึกถึงส่วนหัวปลายสุดมันแทงลึกจนผมหวุดหวิดจะอ้วกออกมาตั้งหลายครั้ง แต่ยิ่งมันแทงเข้าไปลึกเท่าไหร่คนที่นอนเด้งเอวอยู่ตรงหน้าก็ครางเสียงดังมากขึ้นเท่านั้น
ผ่านไปนานหลายนาที คุณสเตฟานจึงขยับตัวลุกขึ้นมานั่งแล้วผลักให้ผมนอนแผ่ลงไปกับเตียงนอนหันหัวหันหางผิดทิศผิดทางไปจากเดิม ริมฝีปากร้อนฉกลงมาดูดเม้มไปตามเนื้อตัวของผมตั้งแต่หน้าอก หน้าท้องไปจนทั่ว ก่อนจะลงไปหยุดอยู่ตำแหน่ง กลางลำตัวแล้วทำแบบเดียวกันกับที่ผมทำให้เขาเมื่อครู่
“อ๊า...” ผมร้องสะดุ้งจนสุดตัว เด้งสะโพกดีดตัวพยายามถอยหนีออกห่างคนมือหนัก
เพียะ ! เพียะ! ผมตบฝ่ามือฟาดลงไปตรงข้างแก้มของคนที่ใช้ริมฝีปากขบลงไปตรงพวงเนื้ออ่อนๆ ของผมแรงจนผมทั้งจุกทั้งเจ็บ คุณสเตฟานเงยหน้าขึ้นมามองผมแวบหนึ่งจนผมกลัวที่เผลอตบหน้าลูกค้าไปแบบนั้น
“ผมเจ็บ...” ผมหดคอตัวเองแล้วร้องบอกเหตุผล
โชคดีที่คุณสเตฟานไม่ได้ว่าอะไรหรือไม่ได้ลุกขึ้นมาตบผมคืน แต่ตรงกันข้ามลูกค้าฝรั่งของผมปรับน้ำหนักมือ น้ำหนักปากเบาลงจนผมเคลิ้ม
ผมสอดปลายนิ้วเข้าไปกับกลุ่มผมเส้นนิ่มของหนุ่มฝรั่ง ซึ่งซุกใบหน้าค้างคาอยู่ตรงซอกขาของผม ปลายลิ้นฉ่ำแฉะเปียกน้ำลายพยายามกดลึกสอดแทรกผ่านรอยแยกเล็กๆ คับแคบที่ผมยังหดเกร็งมันเอาไว้ไม่ยอมคลายให้ลิ้นนุ่มกับนิ้วเรียวอันใหญ่สอดผ่านเข้าไปง่ายๆ
“เธอจะเกร็งทำไม” คุณสเตฟานขยับขึ้นมาจูบกับผมพร้อมกับส่งตาหวาน
“ผมเปล่า...มันเกร็งเอง”
“ไหนว่าไม่ใช่ครั้งแรกไง ไม่เห็นต้องกลัวเลย” คุณสเตฟานก้มลงมาจูบปากกับผมสลับกับไซ้ไปตามซอกคอ คุณสเตฟานยังคงลูบฝ่ามือวนเวียนอยู่แถวๆ ปากทางเข้าแคบๆ ของผม
“ผมไม่ได้กลัวสักหน่อย ผมแค่ตื่นเต้น” ผมรีบปฏิเสธกลับไป
ผมละสายตาจากคุณสเตฟานแล้วเงยหน้าขึ้นไปด้านบน มองภาพตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่นั้นอีกครั้ง อยู่ๆ คำพูดของคุณโอลิเวอร์ก็แว่วเข้ามาในหัวอีกระลอก
“...ส่วนที่เหลือหลังจากนี้ อยู่ที่ว่าเธอจะทำให้คุณสเตฟานพอใจได้มากน้อยแค่ไหน”
แล้วภาพของไอ้เพียวเวลาที่มันมักมาอวดข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงของเพื่อนแวบผ่านเข้ามาพร้อมคำพูดที่มันเคยบอกผม
“คุณสเตฟานเขายอมจ่ายให้มึงอยู่แล้ว...มึงทำไมไม่ใช้โอกาสนี้กอบโกยให้ได้มากที่สุด”
บนเพดานห้องเหมือนมีจอฉายภาพขนาดใหญ่สะท้อนภาพบ้านไม้หลังเล็กเก่าซอมซ่อ ภาพน้องๆ สี่คนของผมที่ยังอยู่ในวัยเรียนกับกองเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าเก่าๆ ผมหลับตาแล้ววางทาบฝ่ามือดึงใบหน้าคมหล่อเหลาของคุณสเตฟานให้หันมามองสบตากันอีกครั้ง
“.....................” คุณสเตฟานเลิกคิ้วสูงเหมือนอยากจะใช้มันแทนคำถามถึงสิ่งที่ผมต้องการ
“ผมอยากรู้แล้วครับ...ว่าของใหญ่...มันมีดีตรงไหน”
“อยากรู้แล้วอย่างนั้นเหรอ”
“ครับ เรามา...ทำกันเถอะ”
ผมล้วงมือลงไปใต้เอวของคุณสเตฟานกอบกำท่อนเนื้อขรุขระเพราะลูกแก้วกลมๆ เหล่านั้นแล้วใช้ส่วนปลายของท่อนเนื้อผมซึ่งตั้งลำเหยียดตรงอยู่ ขยับไปทักทายปัดหัวใส่กัน เป็นความรู้สึกเสียวซ่านแปลกประหลาด มันวูบวาบในท้องพิกล
คุณสเตฟานเอื้อมมือไปทางหัวเตียงหยิบซองสีทองเป็นเงายื่นมาตรงหน้าผม มันคือซองถุงยางอนามัยขนาดคิงไซส์ซึ่งผม ไม่เคยเห็นมันวางขายในเมืองไทยเพราะถ้ามองจากตาเปล่าไอ้แท่งนั้นของคุณสเตฟานมันเป็นไซส์ของชาวตะวันตก แล้วไอ้ขนาดที่มีขายทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อมันคงใช้ไม่ได้กับอวัยวะส่วนนั้นของลูกค้าฝรั่งของผม
ผมรับซองถุงยางอนามัยสีทองมาจากคุณสเตฟานแล้วฉีกมันออกก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปหาเจ้าของแท่งเนื้อฝังมุก แล้วค่อยๆ สวมมันลงไปตั้งแต่ส่วนปลายรูดลงไปจนสุดโคน
เงาสะท้อนในกระจกบนเพดานห้องทำให้ผมเห็นภาพของผู้ชายร่างหนาเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยสักกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงกลางหว่างขาผม ท่อนเนื้อแท่งใหญ่ที่จ่ออยู่ค่อยขยับดันชิดมาทีละน้อย
“คุณสเตฟาน” ผมเผลอร้องเรียกชื่อเจ้าของแท่งร้อนแข็งๆ ที่มันกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ เข้ามาในตัวผม
ผมตะปบลงไปคว้าข้อมือหนาซึ่งยังคงสวมนาฬิกาเรือนหรูเอาไว้แล้วจิกเล็บลงไปเพื่อเป็นการระบายความเจ็บ ถ้าจะบอกว่าเจ็บมันก็น้อยเกินไป ถ้าบอกว่าจุกมันก็คงเป็นความจุกที่น่าจะทำให้ผมลุกไม่ขึ้นไปอีกนาน มือข้างหนึ่งซึ่งมันว่างอยู่ผมคว้าเอาชายผ้าห่มซึ่งมันถูกปูทับเตียงนอนเอาไว้ขึ้นมาอุดปากตัวเอง หยดน้ำตาเล็กๆ ไหลลงมาเป็นทางตรงหางตาเพราะผมเจ็บแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนแผ่อยู่อย่างนั้น แล้วกัดฟันทนต่อไป
คุณสเตฟานนิ่งหยุดเคลื่อนไหวไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยกเอวผมขึ้นแล้วซ้อนหมอนหนุนใบใหญ่ลงไปรองทิ้งเอาไว้ด้านหลังตรงตำแหน่งใต้สะโพกผม ฝ่ามืออุ่นจับยกแยกขาสั่นๆ ของผมขึ้นไปวางทิ้งไว้บนบ่าทั้งสองแล้วจึงเริ่มขยับสะโพกกดลงมาช้าๆ อีกครั้ง
ผมนอนหลับตาใช้ผ้าห่มกลิ่นหอมปิดหน้าแล้วร้องครางออกมาเพราะความเจ็บ ส่วนมืออีกข้างยังบีบกำข้อมือหนานั้นเอาไว้แน่น จนกระทั่งคุณสเตฟานเริ่มขยับจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องตะเกียกตะกายไขว่คว้าหาสิ่งยึดเหนี่ยวจนมือของผมคว้าขอบเตียงนอนได้ข้างหนึ่ง
แกร๊ก ! นาฬิกาข้อมือเรือนแพงของคุณสเตฟานถูกผมดิ้นดึงกระชากจนสลักของมันน่าจะหลุดแล้วปลิวกระเด็นตกหายไปทางไหนผมก็ไม่ทันมอง คุณสเตฟานตะปบมือลงมาคว้าเอวผมยึดไว้เหมือนไม่ต้องการให้ขยับหนีแล้วตวัดตลบเอาผ้าห่มที่ผมใช้มันกัดเพื่อกลั้นเสียงร้องเพราะความเจ็บออก
ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งโดยมีดวงตาสีเข้มจ้องมองผมตาเขม็ง ใบหน้าคมห่างจากผมเพียงปลายขนตากะพริบติดกัน ผมเผยอปากรับจูบอันเผ็ดร้อนรุนแรงจากลูกค้าฝรั่ง
“มองหน้าฉันสิแก๊ป”
“อ๊ะ ซี้ด โอ๊ย เจ็บครับ” ผมยันปลายนิ้วมือลงไปกับกล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณสเตฟาน สายตาจับอยู่ตรงกลางซึ่งมีท่อนเนื้ออันใหญ่มันกำลังขยับเลื่อนเข้าเลื่อนออกอยู่ภายในตัวผม
“อีกเดี๋ยวมันจะดีเอง” คุณสเตฟานก้มลงมาจูบแก้มผมเบาๆ
เวลานี้ผมแทบไม่รู้สึกอะไรแล้วเพราะทุกอย่างมันชาไปหมด จุกจนร้องไม่ออก เจ็บจนบอกไม่ถูก คุณสเตฟานกำท่อนเนื้อของผมแล้วกดมันวางนาบลงมากับหน้าท้องแบนราบสีขาว ซึ่งภายใต้ผิวเนื้ออ่อนนุ่มตรงบริเวณหน้าท้องของผม เหมือนกำลังมีอะไรขยับดันเข้าดันออกเป็นจังหวะเดียวกับสะโพกของคุณสเตฟานที่กระแทกเอวลงมาใส่ผม
ผนังเนื้อส่วนหน้าท้องอ่อนนุ่มสัมผัสครูดส่วนแข็งของลูกแก้วเม็ดกลมๆ ซึ่งมันกระจายอยู่โดยรอบแท่งเอ็นดุ้นใหญ่ ผิวสัมผัสที่มันไม่ราบเรียบเสียดสีไปตามผนังของโพรงเนื้อนุ่ม มันทั้งเจ็บ ทั้งแสบ แต่ก็ให้ความรู้สึกเสียวแปลบแบบแปลกๆ เหนือคำบรรยาย
“อ๊า...”
ผมตบมือลงไปบนหน้าท้องตัวเองก่อนจะรูดกดมันลงไป เพราะฝ่ามือสั่นๆ ของผม มันสัมผัสของแข็งที่กำลังกระทุ้งกระแทกมาจากช่องรักด้านหลัง ไอ้เจ้าท่อนเอ็นอันใหญ่ยักษ์ของคุณสเตฟานมันแทงพุ่งตุงจนมาถึงหน้าท้องด้านหน้าของผมเห็นเป็นรอยนูนเด่นชัดเจน จังหวะนูนตุงขึ้นมารับกับจังหวะสะโพกของคุณสเตฟานเวลากระแทกเอาดุ้นเอ็นอันใหญ่สอดเข้ามาในตัวผม
“อ๊า คุณสเตฟานเบาๆ หน่อย”
“แก๊ปเป็นยังไงหืม มันดีหรือเปล่า” คุณสเตฟานกระซิบถามผม เหงื่อเม็ดโตผุดพรายขึ้นมาตามใบหน้าคมเข้มชื้นทั่วทั้งตัว
“อื้อเจ็บครับ...” ผมยื่นหน้าขึ้นไปจูบปากคุณสเตฟานเหมือนอยากต้องการช่วยลดความเจ็บจากการเสียดสีด้านล่างและความจุกจากช่องท้องด้านหน้า
“ทำบ่อยๆ เดี๋ยวเธอก็ชินไปเอง”
“มันใหญ่เกินไป” ผมยังคงบ่นให้กับขนาดท่อนเนื้อของคุณสเตฟานที่เหมือนมันจะฉีกร่างผมแยกออกจากกัน
“แล้วเธอชอบมั้ย ใหญ่ๆ แบบนี้เธอชอบหรือเปล่า”
คุณสเตฟานจับมือผมกดลงไปตรงหน้าท้องแรงๆ ครั้งนี้มันรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของสิ่งที่กำลังเคลื่อนขยับอยู่ภายในชัดเจนจนผมเสียววูบไปหมด
“ยาวจัง” ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำไมพูดประโยคน่าอายนั้นออกไป แต่ที่แน่ๆ ดูเหมือนคุณสเตฟานจะชอบเพราะผมเห็นตรงมุมปากนั้นขยับยกขึ้นทำมุมยิ้มอย่างพอใจ
“แล้ว...มันยังใหญ่ไปหรือเปล่า”
“ครับ...มันใหญ่ไป...ใหญ่เกินไป” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาคู่สีน้ำตาลแล้วกดหน้าผากไปบนแผงอกที่มีแต่เหงื่อโอบท่อนแขนทั้งสองข้างขึ้นไปรั้งร่างหนาให้กดทาบผมลงมาอีก
ผมมองก้นขาวๆ ของคุณสเตฟานที่มันกำลังขยับเป็นจังหวะรัวเร็วผ่านกระจกบนเพดาน โดยมีเงาสะท้อนฝ่าเท้าสีขาวของผมเหยียดชี้ขึ้นมาเหนือรอยสักรูปสิงโตตัวใหญ่ เสียงผิวเนื้อฉ่ำเหงื่อของคนสองคนกระแทกใส่กันเป็นจังหวะเดียวกับเสียงของเตียงนอนหนาเกือบยี่สิบนิ้วเมื่อคนน้ำหนักตัวเกือบร้อยกิโลทิ้งตัวลงมาเต็มที่ดังลั่นห้องไปหมด คุณสเตฟานจับผมย้ายฟากขยับปรับท่านอนคว่ำ นอนหงาย ตะแคงซ้าย ตะแคงขวา คว่ำหน้า คว่ำหลังอยู่นาน ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนรู้แค่ว่าแขนขาของผมมันสั่นไปหมด เรี่ยวแรงนั้นไม่ต้องถามถึงเพราะมันแทบไม่มีเหลือเลย
“อ๊าก”
กึก! เสียงอะไรบางอย่างดังมาจากช่องท้องของผม พร้อมกับแรงส่งสุดท้ายของคุณสเตฟานที่อัดสะโพกทิ้งลงมาเหมือนอยากบดขยี้ผมให้แหลกคาเตียง ความเสียวอย่างที่สุดพุ่งขึ้นมาจนขนหัวผมลุกตั้งชันลามเลียไปทั่วทั้งตัว
หลังจากนั้นท่อนเนื้อขนาดยักษ์มันกระตุกหงึกๆ ไม่ยอมหยุดอยู่ในช่องเนื้อแคบๆ ซึ่งเวลานี้ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมมันกำลังบีบรัดหดเกร็งขังไอ้เจ้าท่อนเนื้อนี้เอาไว้แน่น ขาสองข้างของผมสั่นจนรู้สึกได้ คุณสเตฟานส่งเสียงครางต่ำๆ ในลำคอไม่ยอมหยุดแล้วบดจูบลงมาใส่จนปากผมระบมไปหมด
“อ๊า แก๊ปมันดีเหลือเกิน”
คุณสเตฟานขบกัดลงมากับหัวไหล่ผมเหมือนจะมันเขี้ยวมากแต่มันไม่ได้รุนแรงเหมือนอยากให้ผมเจ็บ สะโพกหนาด้านล่างยังพยายามเหมือนต้องการจะดันไอ้ท่อนเอ็นนั้นลึกเข้ามาตัวผมอีก แม้ว่ามันจะเข้ามาสุดจนหน้าขาร้อนๆ แนบกับแก้มก้นผมแล้วก็ตาม ฝ่ามือสองข้างบีบเคล้นไปตามเนื้อตัวของผมจนเสื้อเลือดฝอยผมแตกละเอียดเห็นเป็นรอยแดงจ้ำๆ ช้ำไปหมดทั้งตัว
ผมนอนฟังเสียงหอบของคุณสเตฟานอยู่ข้างๆ หู ในกระจกเงาบนเพดานห้องผมยังเห็นแผ่นหลังซึ่งมีรอยสักสิงโตตัวใหญ่ตัดกับก้นขาวๆ ลอยอยู่เหนือขึ้นไป คนตัวใหญ่ยังคงทิ้งตัวทับผมเอาไว้ไม่ยอมขยับออกไปเสียที
จบแล้วสินะสำหรับงานขายคืนนี้ ผมขยับตัวช้าๆ เอียงหน้าลงไปมองข้างแก้มของคุณสเตฟานที่ซบอยู่ตรงหัวไหล่ผม เส้นผมหนานุ่มเปียกแฉะเต็มไปด้วยเหงื่อ
“คุณสเตฟานครับ” ผมพยายามขยับตัวแต่แค่ออกแรงขยับเกร็งช่วงสะโพกผมก็สั่นไปทั้งตัวแล้ว แขนขานั้นกะปลกกะเปลี้ยแทบจะกระดิกไม่ได้เลย
“เธอจะต่อเลยเหรอ” เสียงคนที่นอนซบผมอยู่ตอบกลับมาเสียงพร่า
“เปล่าครับ ผมไม่ได้จะต่อ...”
“หยิบถุงยางตรงหัวเตียงมาหน่อยสิ” คุณสเตฟานชี้นิ้วขึ้นไปบนหัวเตียงโดยที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าอกผม
ผมหันกลับขึ้นไปมองหัวเตียงนอนตำแหน่งของถาดแก้วใสๆ มีซองถุงยางอนามัยหลากสีวางใส่เอาไว้หลายอันอย่างกับถาดขนม ผมเลือกหยิบมันขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วยื่นไปตรงหน้าลูกค้าตัวโต
“เธอชอบแบบมีปุ่มเหรอ” คุณสเตฟานหันกลับมาแล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม ก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นแล้วถอนท่อนเนื้อตัวเองออกอย่างช้าๆ
“อ๊า...แสบ” ผมซี้ดปากออกมาเพราะความเจ็บ ความแสบแม้ในเวลาที่ไอ้ท่อนเนื้อนั่นมันกำลังจะถอยออกไปจากตัวผมก็ตาม
ผมเลื่อนมือลงไปแตะหน้าท้องของคุณสเตฟานพร้อมกับยกขาสั่นๆ ของตัวเองขึ้นมาวางเหยียบฝ่าเท้าลงไปบนหน้าของเจ้าหมีดำที่มันกำลังแยกเขี้ยวอยู่ตรงหน้าขาของลูกค้าฝรั่ง
คุณสเตฟานรูดเอาปลอกถุงยางสีใสซึ่งมีรอยคราบเลือดสีแดงจางๆ ติดอยู่นิดหน่อยออกมา รอยเลือดนั้นมันน่าจะเกิดมาจากช่องเนื้อของผมมันไม่ได้เหมาะสำหรับอะไรที่มีขนาดใหญ่เกินมาตรฐานขนาดนี้ ปลอกถุงยางเนื้อบางภายในอุ้มน้ำสีขาวขุ่นปริมาณมากห้อยย้อยเป็นตุ้มๆ คุณสเตฟานโยนมันทิ้งลงไปข้างเตียงแถวๆ กองเสื้อผ้าอย่างไม่ไยดี
ผมขยับพยายามยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียง แต่เมื่อลองทิ้งน้ำหนักลงไปตรงก้นนิ่มๆ ตรงส่วนช่องรักด้านหลังมันเจ็บจนผมต้องรีบคว้าแขนคนที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้าผมมาบีบข้อมือไว้จนแน่น
“เธอจะไปไหน”
“กลับไงครับ เสร็จแล้วนี่” ผมนั่งแหงนคอจิกเล็บลงไปกับท่อนแขนที่มีรอยสักรูปงูตัวใหญ่
“กลับอย่างนั้นเหรอ...เธอจะกลับได้ยังไงงานของเธอยังไม่เสร็จเลยนะ” คุณสเตฟานยกมือขึ้นมาเชยคางผมขึ้นไปหาพร้อมกับยิ้มแปลกๆ
“ฮะ ยังไม่เสร็จเหรอครับ”
“แก๊ป เธอเห็นถุงยางในถาดนั่นมั้ย” คุณสเตฟานชี้นิ้วกลับไปตรงหัวเตียงซึ่งผมเพิ่งหยิบของจากในถาดแก้วออกมาและของชิ้นนั้นยังอยู่ในมือผมตอนนี้
“ถุงยางในถาด หมายความว่า....ยังต้องทำอีกเหรอครับ”
“ใช่ ต้องทำอีก" คุณสเตฟานก้มลงมาแตะจูบผมเบาๆ ตรงริมฝีปาก
“ต้องทำกี่ครั้งครับ” ผมก็ไม่เคยถาม ไม่เคยรู้ว่าปกติเวลาเด็กขายออกไปกับลูกค้าต้องทำกันขนาดไหนถึงจะจบงาน
“จนกว่า....ถุงยางในถาดจะหมด”
“ฮะ!”