3 ขอความช่วยเหลือ

1986 Words
พัชชา Talk ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แล้ววันนี้ก็เป็นวันที่ย่ำแย่ของเธออีกวัน ตั้งแต่พี่ชายเธอโทรมาตอนเช้า สติของเธอก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกเลย จนต้องนัดเพื่อนสาวอย่าง ขวัญ ขวัญลดา อมรธนัชญ์ ออกมาคุยเพื่อระบายเรื่องนี้ “เห้อ อีกแล้วเหรอพาย” ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกัน เมื่อเห็นหน้าเพื่อนรัก ขวัญลดาก็ต้องถอนหายใจออกมา แล้วถามในสิ่งที่เธอถามมาตลอด “อือ” พัชชาก็ได้แต่ตอบ ด้วยสีหน้าที่กังวลใจ “ครั้งนี้เท่าไหร่ล่ะ” เพราะเธอก็รู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องอื่นหรอกนอกจากเรื่องเงิน “ยังไม่รู้เลย บอกว่าตื่นแล้วจะติดต่อฉันมาอีกที ตอนนี้ที่เมกา ก็น่าจะตี 5 กว่าได้” “แล้วแกจะทำยังไง แกจะหาเงินให้พี่พุก แบบนี้ตลอดไปหรือพาย” ขวัญลดาก็ถามอย่างเห็นใจ เพราะเธอก็รู้เรื่องของเพื่อนรักดี ว่าต้องแบกรับพี่ชายคนเดียวมากแค่ไหน แต่คนเป็นพี่ชายไม่เห็นจะคิดอะไรได้เลยทั้งที่โตกว่าน้องสาวตั้ง 3 ปี “ทำยังไงได้ล่ะ ก็ฉันกับพี่พุก เรามีกันอยู่แค่สองคน ถ้าฉันไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย” ตั้งแต่ที่แม่เธอเสียไป ครอบครัวของเธอก็แหลกสลายทันที พ่อที่ไม่เอาไหนอยู่แล้วก็แต่งงานมีภรรยาใหม่ จากครอบครัวที่เคยร่ำรวยเพราะธุระกิจของแม่ ก็เกิดล้มลลายและจนลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนนั้นเธออายุ 17 ปี ส่วนพี่ชายอายุ 20 ปี จากคนที่เคยมีทุกอย่าง กลายเป็นพังทลายไม่มีอะไรเลย ขนาดร้านเบเกอรี่ของแม่เธอ แม่เลี้ยงอย่างน้าศศิ ยังฮุบไปเป็นของตัวเอง โดยที่พ่อเธอไม่คัดค้านอะไรด้วย หุ้นที่ให้มาก็น้อยนิด ทั้งเธอยังไม่ได้เงินเดือนเลยตลอดหนึ่งปีที่ทำงานมา ไม่เคยได้รับความช่วยเหลืออะไรเลย แม้แต่ยืมเงินยังคิดดอกมหาโหด จนเป็นว่าเธอกับพี่ชาย เหมือนมีกันอยู่แค่สองคนจริง ๆ “ฉันเห็นใจแกนะ แต่ถ้ามันมากไป แกก็ควรพิจารณาตัวเองด้วยนะพาย ว่าแกไหวได้แค่ไหน ถ้าพี่ชายแกไปทำเรื่องที่ใหญ่มาก ๆ ไว้ แกจะคอยช่วยเหลือเขาได้แบบนี้ตลอดไปไหม” ขวัญลดาพูดอีกครั้งอย่างเห็นใจ ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่รุนแรง แต่ก็อยากเตือนสติเพื่อนรักให้ได้คิดบ้าง เพราะเธอรู้ดีว่าพัชชา เต็มที่กับพี่ชายมากแค่ไหน และเขาก็เอาแต่ก่อเรื่องไม่จบไม่สิ้นอยู่แบบนี้ “ฉันก็คิดว่าฉันจะช่วยเหลือครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ฉันยังไม่มีชีวิตของตัวเองเลย ถึงเวลาที่ฉันต้องคิดได้จริง ๆ” เธอได้แต่ภาวนาว่า เงินก้อนสุดท้ายที่เธอมีอยู่และให้พี่ชายเธอไปอยู่ที่อเมริกา มันจะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น และไม่เป็นแบบที่เป็นอยู่อีกต่อไป แค่นี้แหละที่เธอต้องการ แม้ตัวเองจะไม่เหลือเงินไว้ใช้เลยก็ตาม เธอก็ยังจะขอพรและภาวนาให้เขาแบบนั้น Rrr Rrr Rrr และในตอนนั้นพี่ชายของเธอก็โทรเข้ามาพอดี จากที่คุยกันเมื่อเช้า เขาดูร้อนรน และเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่อยากพูดกับเธอมากกว่าเรื่องเงิน นั่นทำเอาเธอคิดไม่ตก จนไม่มีสมาธิทำงานมาทั้งวันแบบนี้ (พสุ : พาย ๆ แกต้องช่วยพี่นะพาย) ทันทีที่น้องสาวรับสาย เสียงปลายสายก็พูดออกมาอย่างร้อนรน “พี่พุก นี่มันเรื่องอะไร มีอะไรอีก” เธอก็ถามอย่างตกใจเช่นกัน เมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายดูเหนื่อยหอบแบบนั้น (พสุ : มีคนจะจัดการพี่พาย พวกมันจะฆ่าพี่ มีแต่แกคนเดียวที่จะช่วยพี่ได้ นะพาย) พสุก็ยังคงพูดอย่างตื่นกลัว “อะ...อะไรนะ” พัชชาก็ลุกขึ้น แล้วรีบเดินออกไปคุยนอกร้านที่เธอนั่งอยู่ อย่างคนที่ตกใจ “พาย” ขวัญลดาที่เห็นสีหน้าแบบนั้นของเพื่อนรัก ก็ตกใจไม่ต่างกัน กำลังจะถามแต่ไม่ทัน เพราะพัชชารีบเดินออกไปก่อน คนกลางอย่างเธอก็ได้แต่นั่งรอ เพื่อให้คำปรึกษาอย่างทุกครั้ง (พสุ : อย่าพึ่งถามอะไรมาก ถ้าแกยังไม่อยากให้พี่ตาย นะพายนะ พี่ยังไม่อยากตายตอนนี้ แกต้องช่วยพี่เถอะนะพาย ถ้าแกช่วยพี่อีกรอบนี้ พี่สัญญาพี่จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี พี่จะไม่เป็นแบบเดิมอีกแล้ว) พสุพูดเสียงสั่น เขายังจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ดี ไอ้พวกบอดีการ์ดพวกนั้นมันกระทืบเขาปางตาย จนได้มาสลบอยู่ข้างตึกแบบนี้ ยังดีที่โทรศัพท์ยังอยู่กับตัว จึงสามารถโทรขอความช่วยเหลือกับน้องสาวได้ “ช่วย! ช่วยอะไรอีก” จากที่รู้สึกตกใจ ตอนนี้น้ำตาก็ไหลออกมา ด้วยความกล้ำกลืน ก็คงไม่พ้นเรื่องเงินเหมือนเดิม... (พสุ : เงิน แกช่วยหาเงินมาให้พี่หน่อยนะ พี่ก็เดือดร้อนมากจริง ๆ พาย) ปลายสายก็ยังพูดวกไปวนมา อย่างคนที่ตื่นกลัว “ไม่มี” พัชชาพูดต่ออย่างคนที่ไร้เยื่อใย เขาไม่เคยถามสาระทุกข์สุกดิบอะไรเธอเลยด้วยซ้ำ มีแต่เรื่องเงินอย่างเดียวที่ต้องการ (พสุ : พาย! แกอยากเห็นพี่ตายหรือไง ตอนนี้พี่อยู่อเมริกานะไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย ถ้าพี่ตายไป...) “แล้วจะตายตอนไหน” เธอก็ถามขึ้นอย่างเหลืออด เธอต้องรับผิดชอบชีวิตเขาไปจนถึงตอนไหน แล้วชีวิตของเธอล่ะ ตอนที่แม่เธอยังอยู่ เธอใช้ชีวิตได้ดุจดั่งเจ้าหญิง มีแต่สดใสมาตลอด กับพี่ชายก็รักกันดีมาก เขาเป็นพี่ชายที่น่ารัก และรักน้องสาวอย่างเธอมาก แต่ก่อนเขาทั้งเรียนเก่งและมีหัวคิดด้านธุรกิจ ทุกอย่างในชีวิตเธอเรียกได้ว่าเพอร์เฟคทุกอย่าง จนกระทั่งแม่เธอไม่อยู่แล้วเท่านั้นแหละ ทุกอย่างก็สะเปะสะปะและกลายเป็นแบบนี้ (พสุ : พาย! นี่แกกล้าพูดกับพี่แบบนี้เลยเหรอ แกไม่รักพี่แล้วหรือยังไง เรามีกันแค่สองพี่น้องนะแกอย่าลืม) เมื่อนึกถึงจุดอ่อนของน้องสาวได้ คนที่หลังชนฝาแล้วอย่างเขา ก็ต้องทำทุกอย่างให้ตัวเองรอดในตอนนี้ “ก็เพราะไม่ลืมไง ชีวิตฉันถึงได้บัดซบแบบนี้ พี่มันเหมือนพ่อไม่มีผิดเลย เห็นแก่ตัว ต้องการแค่ความต้องการของตัวเอง ไม่เคยนึกถึงจิตใจคนอื่น” เมื่อนึกไปถึง ตอนที่แม่เธอป่วย แล้วพ่อเธอไม่ดูแล จะเอาแต่เงินที่เก็บไว้รักษาตัวของแม่ไปใช้ถลุงก่อน โดยไม่สนใจคู่ชีวิต ที่นอนป่วยใกล้จะตายเลยแม้แต่น้อย จนต้องพูดพร้อมกับกั้นน้ำตาไว้ ที่ชีวิตต้องบัดซบอย่างทุกวันนี้ ก็เพราะพ่อกับพี่ชายเธอเนี่ยแหละ เขาสองคนเหมือนกันไม่มีผิด (พสุ : พาย ฮึก ๆ พี่ก็เสียใจไม่ต่างจากแก พี่พลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็สมควรที่แกอยากด่าพี่ แต่ครั้งนี้แกต้องช่วยพี่นะ มีแค่แกคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยพี่ได้ ตอนนี้พี่ ติดหนี้มาเฟีย พวกมันจะฆ่าพี่ นะพายนะ ช่วยพี่เถอะ ฮึก ๆ) “เท่าไหร่” แล้วคนที่บอกว่าจะไม่ช่วยแล้ว ก็ต้องกัดฟันถามเบา ๆ เพราะเธอไม่อยากร้องไห้โหให้เขาได้ยิน (พสุ : สะ...สิบสามล้าน) พสุก็กัดฟันพูดเบา ๆ เหมือนกัน เขารู้ว่ามันมากมาย สำหรับฐานะของครอบครัวเราตอนนี้ แต่เขาเองก็ไม่อยากตายเหมือนกัน “...” “13 ล้าน! พี่บ้าไปแล้วหรือไง เงินมากมายขนาดนั้นฉันจะไปเอาจากที่ไหนมาให้” พัชชาตะคอกเสียงดัง น้ำตาเม็ดใหญ่ก็ไหลออกมาเรื่อย ๆ ด้วยความรู้สึกที่โมโห ตอนนี้แค่ล้านเดียว เธอยังไม่มีปัญญาจะให้เขาได้เลย (พสุ : นะ พาย พี่รู้ว่ายอดเงินนี้มันเยอะ แต่แกช่วยหาได้ไหม ทำยังไงก็ได้ ให้ส่งเงินมาให้พี่ได้ทันใน 7 วันนี้ พี่จะไปใช้หนี้พวกมัน พี่จะได้ปลอดภัย) “พี่จะบ้าหรือไง! พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า 13 ล้านนะ ไม่ใช่ 13 บาท ฉันจะไปหาจากที่ไหนได้” (พสุ : พี่ขอโทษ พี่คิดว่าวิธีนี้จะหาเงินได้เยอะ แล้วพี่ก็จะได้กลับไปอยู่กับแกไง เราจะได้กลับมาสบายได้เหมือนเดิมสักที แต่ก็...) “พี่หยุดพูดเถอะฉันขอร้อง สิ่งที่พี่พูดออกมาไม่มีอะไรทำได้เลยซักอย่าง คนอย่างพี่ควรตายไปก็ดีนะ สร้างแต่ปัญหา ชีวิตฉันต้องมาเป็นแบบนี้ก็เพราะมีพี่ชายแบบพี่ไง เงินเก็บที่มีตลอดชีวิตฉัน ฉันก็ให้พี่ไปหมดแล้ว เอาอะไรอีกวะ!” พัชชาโมโห ร้องไห้จนตัวสั่น ไม่คิดเลยว่าพี่ชายตัวปัญหา ของเธอจะคิดไม่ได้ขนาดนี้ (พสุ : ตอนนี้แกจะด่าจะว่าพี่ยังไงก็ได้ แต่พี่จำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ นะพาย เรามีกันอยู่แค่สองคน แกคงไม่อยากให้พี่ตายจริง ๆ หรอกใช่ไหม...) แต่เมื่อพูดไม่ทันจบปลายสายก็ตัดไปก่อน “พี่พุก! พี่พุก!” เมื่อเห็นว่าปลายสายตัดไปแล้ว เธอยิ่งรู้สึกเครียดมากกว่าเดิม เพราะก็เป็นหวงพี่ชายมากเหมือนกัน แต่เมื่อโทรกลับไปแล้ว เขากลับปิดเครื่องไปแบบนั้น เธอพยายามติดต่อกลับไปหาพี่ชาย แต่ก็ติดต่อไม่ได้ พัชชาที่คิดอะไรไม่ออกแล้วก็ร้องไห้ เดินเข้าไปในร้านต่อ เพื่อจะได้ปรับทุกข์กับขวัญลดา “พาย แกเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น” ขวัญลดาที่เห็นพัชชาร้องไห้แบบนั้น เธอก็รีบลุกขึ้นไปโอบกอดเพื่อนรักให้มานั่งทันที “ฮึก ๆ ไอ้พี่พุกมันก่อเรื่องอีกแล้ว” ตอนนี้ในหัวเธอก้องอยู่แค่คำว่าต้องหาเงิน 13 ล้าน ไปให้เขาใช้หนี้ แต่นั่นแหละเธอจะไปหาจากที่ไหน “แกใจเย็น ๆ ก่อนนะ เรื่องอะไรค่อย ๆ เล่าให้ฉันฟัง” “พี่พุกติดหนี้” “อีกแล้วเหรอ” “ฮึก ๆ” เธอที่พูดไม่ออกก็ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ ให้เพื่อนรัก “เท่าไหร่” “สะ...สิบสามล้าน!” “สิบสามล้าน!” ขวัญลดาก็ถึงกับอุทานขึ้นมาเสียงดัง ก็ไม่แปลกใจเลยทำไมเพื่อนรักของเธอถึงร้องไห้หนักขนาดนี้ “ฉันจะทำยังไงดีขวัญ ฉันจะไปเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้เขา ฮึก ๆ” “...” ขวัญลดาก็ได้แต่โอบกอดเพื่อนรัก อย่างเห็นใจ เพราะเธอเองก็เป็นอีกคนที่ฐานะไม่ได้ดี ตั้งแต่พ่อแม่เสียก็ถูกเลี้ยงดูจากตายาย ที่ตอนนี้พวกท่านก็อยู่ต่างจังหวัด ทำสวนผลไม้ รายได้แค่พอกินพอใช้เท่านั้น ตัดการช่วยเหลือ เรื่องเงินออกไปได้เลย “ฮึก ๆ” เพราะรู้ดีว่าไม่มีทางออกสำหรับเรื่องนี้ พัชชาก็ได้แต่ร้องไห้ ด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD