เมื่อเจตภัทรขับเคลื่อนรถออกไป ณิชาก็เดินหอบดอกกุหลาบช่อโตเข้าคอนโด แต่แล้วก็ต้องชะงักนิ่ง จากนั้นขาเรียวก็เดินไปทางลานจอดรถ เมื่อเห็นคนตัวสูงยืนพิงรถหรูเฟอร์รารี เขาจ้องมองเธอด้วยแววตาเรียบนิ่ง แต่แฝงไปด้วยแววตาดุดันแข็งกร้าว
“รถไปไหน ทำไมถึงต้องมีคนมาส่ง? แล้วใครมาส่งเธอ?”
“วันนี้ไปคุยงานกับลูกค้าด้านนอกกับเจ้านาย เขาก็เลยมาส่งฉันที่นี่เลย ส่วนรถจอดไว้ที่บริษัท”
“เจ้านายกับลูกน้อง เขาให้ดอกกุหลาบกันในวันวาเลนไทน์แบบนี้ด้วยเหรอ?”
“เขาให้มาเอง ฉันไม่ได้อยากได้ซะหน่อย”
“ไม่อยากได้ แล้วจะกอดไว้เพื่อ?”
พรึ่บ! ตุ้บ!
“ทำอะไรของนายเนี่ย” ณิชาโวยวายเสียงหลง เมื่อไรเฟิลกระชากช่อกุหลาบออกจากอ้อมแขนของเธออย่างแรง แล้วเขวี้ยงทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดี
“โวยวายเพื่อ? ก็ไหนบอกว่าไม่อยากได้...” ไรเฟิลเอ่ยถามคนตัวเล็กเหมือนหาเรื่อง ก็พูดเองว่าไม่อยากได้ ยังจะพูดเสียงแว้ดๆ ใส่เขาอีก
“มันเอาไปจัดใส่แจกันได้ ทิ้งไปแบบนั้น เสียดายของเปล่าๆ”
“อย่ามาขี้งกไม่เข้าเรื่อง” พูดจบ ไรเฟิลก็เปิดประตูรถหรู แล้วหยิบกุหลาบสีขาวช่อโตส่งให้ณิชาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“ถ้าอยากจัดดอกไม้นัก ก็เอาช่อนี้ไปจัดดอกไม้ให้หนำใจเธอไปเลย ถ้าอยากจัดทั้งคอนโด เดี๋ยวฉันจะเหมามาให้ทั้งสวน”
“หึ...ไม่อยากให้ฉันรับดอกกุหลาบจากคนอื่นหรือไง” ณิชาถามยิ้ม ๆ ก่อนที่เธอจะสูดดมกุหลาบขาวช่อใหญ่เข้าเต็มปอด ไรเฟิลก็เป็นของเขาแบบนี้จนเธอชิน เวลามีใครมาจีบเธอเขามักชอบกันซีนแบบนี้ทุกครั้ง
“เออ!”
“พูดไม่เพราะเลย...”
“หึ...” เขาแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจ แล้วดึงรั้งณิชาเบาๆ มาฝั่งข้างคนขับ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วดันคนตัวเล็กขึ้นรถของเขา จะได้ไปกินข้าวในร้านอาหารที่นัดกันไว้
“นั่งรอในรถแป๊บนึงได้ปะ ขอสูบบุหรี่แป๊บ” อยู่ๆ ก็รู้สึกอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาเฉยๆ ซะงั้น แต่ก่อนเขาเป็นคนที่สูบบุหรี่จัดมาก แต่ด้วยเพื่อนสาวคนสนิทบอกให้เขาเบาๆ เรื่องสูบบุหรี่ลงบ้าง เขาก็ค่อยๆ ลด แต่ก็ยังไม่เลิกขาด ตอนนี้ก็สูบวันละมวนสองมวนจากที่ปกติวันละสิบมวน
“ไหนนายบอกว่าจะเลิกแล้วไง...” ณิชาช้อนตามองคนตัวสูงที่ยืนเอาแขนค้ำตรงประตูรถฝั่งที่เธอนั่งด้วยแววตาดุๆ
“ก็มันอยากอะ ขอสูบมวนเดียว” ไรเฟิลเอ่ยบอกแบบเซ็งๆ เหมือนคนจะลงแดง
“เฮ้อ...” ณิชาถอนหายใจยาว ที่เธอห้ามก็เพราะเธอเป็นห่วงเขาหรอกนะ
“ขอจูบได้ไหมล่ะ ถ้าไม่อยากให้สูบบุหรี่”
“บ้าบอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะเนี่ย”
“เออๆ ถ้าไม่เกี่ยวก็นั่งรอแป๊บ” เมื่อไรเฟิลผละตัวออกจากประตูรถจะเดินออกไป ณิชาก็เอื้อมมือดึงรั้งแขนแกร่งเอาไว้เสียก่อน
“ก็ได้ๆ...จะจูบก็จูบ” ณิชาพยักหน้าตกลงตามที่เขาขอ ณิชาก็ยังคงเป็นณิชาที่มักจะหัวอ่อนตามเพื่อนตัวร้ายไปเรื่อย
“น่ารักว่ะเพื่อนรัก...” ไรเฟิลกดยิ้มมุมปากอย่างถูกใจกับความแสนดีของเธอ เขาเดินไปฝั่งคนขับ แล้วเปิดประตูเข้ารถด้วยความไวแสง ดวงตาคมกริบจ้องมองเพื่อนสาวด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“จะจูบก็รีบจูบ ถ้าเอาแต่จ้องอยู่อย่างนี้ งั้นฉันเปลี่ยนใจนะ” ณิชาเอ่ยบอกด้วยใบหน้าแดงซ่าน เมื่อเขาเอาแต่จ้องเธอราวกับปลากัดอยู่แบบนี้
“ไม่ให้เปลี่ยนใจแล้ว” ไรเฟิลโน้มตัวเข้าไปหาณิชา เขายกมือสากจับประคองใบหน้าสะสวยไว้หลวมๆ แล้วเอานิ้วโป้งคลึงริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาก้มเอาปากหยักทาบทับริมฝีปากนุ่มนิ่ม แล้วบดขยี้กลีบปากบางหนักสลับเบา ก่อนจะสอดลิ้นร้อนชอนไชเกี่ยวตวัดลิ้นเล็กอย่างดูดดื่ม
รสหวานปานน้ำผึ้งในโพรงปากเล็ก ทำให้เขาหายอยากที่จะสูบบุหรี่ชั่วคราว แต่มันก็มีผลข้างเคียงตามมา เพราะเขาอยากจะดูดปากจิ้มลิ้มไปเรื่อยๆ เขาดูดซับความหวานอยู่แบบนั้น จนกระทั่งสะดุ้งตัวเล็กน้อย เมื่อเล็บคมจิกเล็บลงบนแขนแกร่งจนเลือดซึม เมื่อเขาจูบเธอเนิ่นนานเกินไป ทำให้หญิงสาวแทบจะขาดอากาศหายใจ
“อื้อ~”
“หวานมาก หายอยากบุหรี่ละ ช่วยฉันบ่อยๆ นะณิ” ไรเฟิลเอ่ยบอกคนตัวเล็กที่มองเขาด้วยแววตาหวั่นไหว
“ช่วยแค่ครั้งเดียวพอ เดี๋ยวซื้ออมยิ้มไว้ให้ดูด”
“จูบปากเธอมันดีกว่าดูดอมยิ้มอีกนะ โอ๊ย!!” ไรเฟิลร้องโอดโอยเสียงหลงเกินจริง เมื่อโดนณิชาฟาดมือเข้าที่แขนแกร่ง
“สมน้ำหน้า ออกรถได้แล้ว หิวข้าวแล้วนะ” ณิชาออกคำสั่งเสียงดุกลบเกลื่อนความเขินอาย
“หึๆ...” ไรเฟิลหันไปมองใบหน้าสะสวยที่หันหน้าออกไปนอกรถ เขากดยิ้มมุมปาก ก่อนที่เขาจะขับเคลื่อนรถออกจากคอนโดหญิงสาว...