บทที่ 7 เลี้ยงอาหารตอบแทน 1/2

968 Words
“หากท่านหวังเหล่ยไม่รังเกียจ...” “ข้าย่อมไม่รังเกียจ” “....” นางยังไม่ทันได้พูดจบเขาก็แทรกขึ้นมาเสียดื้อ ๆ แบบนี้จะไม่ให้ชื่นชมได้อย่างไร บุรุษผู้ใจดีเช่นนี้ ข้านึกอยากเป็นนางร้ายที่ได้กับพระรองได้หรือไม่ พระเอกน่ะเหรอนางมิสนใจ กี่ร้อยกี่พันเรื่องพระรองย่อมแสนดีกว่า ปล่อยให้เฉินเฟยอี้ไปได้กับแม่ดอกบัวขาวซูหลันฮวานั่นเถอะ น่าจะเหมาะสมดี ขณะที่กำลังคิดอยู่ คนที่บอกว่าไม่รังเกียจเดินไปจนถึงหน้าบ้านของนางแล้ว ที่แปลกใจคือเขารู้ได้อย่างไรว่าบ้านนางอยู่ที่ใด หรือว่าเขาให้คนมาแอบดูแล้ว? แต่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน นางเพิ่งมาอยู่ได้ไม่กี่วัน เขาต้องสนใจนางขนาดนี้เชียวหรือ นางสลัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นทิ้งแล้วก็เดินตามเขาไปที่บ้านของตัวเอง เหม่ยเหรินออกมาต้อนรับท่านหวังเหล่ยอยู่ด้านหน้าก่อนแล้ว ส่วนนางและลูกสาวเดินตามมาสมทบทีหลัง นางเชิญเขาเข้าไปนั่งในบ้านแล้วอาเหม่ยก็จัดน้ำชามาต้อนรับท่านหวังเหล่ย และผู้ช่วยของเขาฉางชุน ใบหน้าสาวใช้ของนางแดงก่ำ คงเป็นเพราะกำลังอยู่ในวัยแรกแย้มสินะ เวลาที่เข้าใกล้บุรุษจึงออกอาการเช่นนั้น นางไม่เปิดเผยนางแต่เลือกจะเงียบไว้ ปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมชาติของหนุ่มสาว “ได้ยินว่าเจ้าผัดหมี่อายุยืนแจกชาวบ้านอย่างนั้นหรือ ช่างใจดีเสียจริง ขอข้าชิมผัดหมี่เจ้าได้หรือไม่” ซื่อจื่อโยวหวังเหล่ยได้กลิ่นหอมจากห้องครัวที่ยังไม่จางไปนัก ทำให้อยากลิ้มรสอาหารฝีมือนางยิ่ง “ผัดหมี่ข้าเพิ่งแจกหมดไปแล้ว หากท่านอยากทานเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่” ‘แน่นอนว่าใครจะทำผัดหมี่ให้เขาทานกัน สำหรับคนพิเศษย่อมมีสิ่งที่พิเศษมากกว่านั้น นั่นมันแค่ผัดมาม่าธรรมดา แต่ข้าจะแสดงฝีมือการทำราดหน้าหมี่กรอบให้เขาได้ชิมต่างหาก’ นางคิดอย่างหมายมาด เสน่ห์ปลายจวักผัวรักผัวหลงเพี้ยง!!!! ที่จริงคือผักคะน้ามันเหลือแล้วนางก็ขี้เกียจผัดแล้ว แค่นางซื้อบะหมี่สีเหลืองทอดกรอบออกมา แล้วก็ทำน้ำราดจบเลย ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก “ต่อให้เป็นฝีมือเจ้า สิ่งใดก็ได้” หวังเหล่ยไม่ได้ต้องการมาชิมอาหารฝีมือนาง เพียงแต่อยากมาดูหน้านางต่างหาก ใบหน้าหวานเยิ้มส่งไปหาเจ้าของเรือนอย่างไม่ปิดบัง ทำเอาฉางชุนต้องลอบยิ้มให้กับซื่อจื่อวัยกลัดมันที่อยากเอาใจสตรีที่หมายปอง “ต้านอา...ต้านมองต้านแม่ข้าราวกับจะกลืนกิน ต้านกินต้านแม่ข้าไม่ได้” ‘ไห่มี่เฟิงอยากเอามือปิดปากลูกสาวนัก ให้เขามองไปเลยลูก แม่ชอบ ฮ่า ฮ่า ฮ่า’ แต่นางพูดไม่ได้เพียงฉีกยิ้มเต็มใบหน้าให้กับความไร้เดียงสาของลูกสาวของนางแทน ยู่ถิงของแม่ช็อตฟีลแม่มาก อะอื้ม...! เสียงกระแอมของซื่อจื่อทำให้เด็กน้อยหรี่ตามองเขาอย่างจับผิด “ยู่ถิงน้อย เจ้าตาฝาดไปแล้วกระมัง ข้าไม่ได้จะกลืนกินแม่เจ้าสักหน่อย ข้าเพียงแต่หิวข้าวไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานต่างหาก” โหยวหลังเหล่ยแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แต่สายตาคนที่หวงแม่กอดอกตาเขียวมองบุรุษหนุ่มที่มาเกี้ยวท่านแม่ “ต้านโกหก...ต้านไม่มองหน้าข้า” “....” ฉางชุนหลุดหัวเหราะก๊าก เชื่อเลยว่าซื่อจื่อผู้เกรียงไกรออกรบร้อยศึกชนะร้อยศึกจะพ่ายให้กับแม่หนูน้อยคนนี้ ไห่มี่เฟิ่งเห็นว่ายู่ถิงมีเพื่อนแล้ว นางและเหม่ยเหรินจึงเข้าไปในครัว จัดการทำอาหารสำหรับทุกคนในเช้าวันนี้ อาหารควรจะหนักมื้อหน่อยก็เป็นราดหน้าถึงจะดี นางเอาเส้นใหญ่ที่ซื้อในร้านค้าระบบแมวผู้ช่วยออกมา หนึ่งห่อ สำหรับยู่ถิงน้อย ส่วนอีกสามคนเป็นหมี่เหลืองที่ทอดแล้ว วางใส่จาน ส่วนของนางเป็นเส้นหมี่ขาว เพราะนางชอบกินเส้นนี้ที่สุด เหม่ยเหรินไม่ได้สงสัย ว่านายหญิงเอาของพวกนี้มาจากไหน แต่รู้ว่าควรจะเป็นผู้ช่วยนายหญิงก็เท่านั้น นางสับกระเทียมให้ละเอียดตามที่นายหญิงสั่ง ส่วนเตาไฟยังคงมีถ่านอยู่ แค่ใส่ฟืนเข้าไปไฟก็ลุกแล้ว เนื้อหมูถูกนำมาหั่นแล้วก็หมักด้วยน้ำเกลือพริกไทย น้ำตาลปี๊บที่นางซื้อมาเช่นกัน แล้วขยำให้เข้าเนื้อ ตอนนี้รอเพียงกระทะได้ที่นางก็จะตั้งกระทะผัดเส้น “เหม่ยเหรินเจ้ารู้หรือไม่ เส้นสีเหลืองกรอบ ๆ นี่คืออะไร” มี่เฟิ่งถามสาวใช้ แต่คำตอบคือการส่ายหน้าก็รับรู้ได้ทันทีว่าสมัยนี้คงไม่รู้จักการเอาเส้นไปทอดในน้ำมันเดือด ๆ “นี่ก็คือบะหมี่เหลืองหรือบะหมี่ไข่ตามร้านทั่วไปที่เราไปนั่งกินในเมืองนั่นแหละ เพียงแต่เอาไปทอดให้เหลืองกรอบในน้ำมันเดือด เมื่อทานคู่กับน้ำราดที่ข้าจะทำให้เจ้าทาน รับรองว่าอร่อยเด็ดอย่างบอกใคร” ไห่หมี่เฟิ่งอวดความสามารถของนาง ที่มีอันน้อยนิด แต่ด้วยสกิลผงนัวขั้นเทพที่มีในร้านค้าระบบแมวผู้ช่วยทำให้นางทำอะไรก็อร่อย แน่นอนว่าเคล็ดลับคือผงวิเศษพวกนั้น!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD