“ท่านลุงกู้นี่เจ้าค่ะเงินค่าจ้างของท่านวันนี้” ไห่มี่เฟิงนอกจากหยิบเงินในกระเป๋าเก็บเงินออกมาจ่ายค่าซื้อบ้านแล้ว ยังหยิบเงินค่าจ้างของท่านลุงกู้ออกมาด้วย
“ขอบใจมากอาเฟิ่ง เจ้าใจดีกับข้านัก แต่เจ้าไม่ต้องให้เงินลุงอีกแล้วนะ แค่นี้เยอะเกินไปแล้ว มีสิ่งใดให้ลุงช่วยเหลือก็รีบบอกมาเถิด” ลุงกู้ขับเกวียนวัวรับส่งคนมากมายกว่าจะได้ 1 ตำลึงเงิน แต่ไห่มี่เฟิ่งกลับให้เขาโดยง่าย
“ถือเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ท่านมีให้พวกเราเจ้าค่ะ หากไม่ได้ท่านข้าก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ตัวคนเดียวกับลูกสาวอีกต่างหาก ข้าอยากเดินดูรอบ ๆ หมู่บ้านสักหน่อยท่านลุงกู้ช่วยพาข้าเดินหน่อยได้หรือไม่”
“ย่อมได้ ย่อมได้” ลุงกู้พามี่เฟิ่งเดินรอบ ๆ หมู่บ้านทั้งบอกว่าบ้านนี่ชื่ออะไร แต่ยามนี้เป็นช่วงบ่าย ชาวบ้านล้วนออกไปทำงานยังไม่กลับเข้าบ้านกัน จึงไม่ค่อยมีคนมาทักทายนัก คิดว่าอีกสักวันสองวันเดี๋ยวท่านหัวหน้าหมู่บ้านก็พาไปแนะนำให้กับทุกคนรู้จัก
ไห่มี่เฟิ่งกลับมาถึงบ้าน ลูกสาวของนางก็หลับไปแล้ว คงจะอ่อนเพลียจากการเดินทาง นางจึงอุ้มเข้าห้องไป แล้วก็จัดการหยิบของจากห้องเก็บของ ทั้งซื้อของที่จำเป็นเข้าบ้านทั้งอาหารแห้ง ส่วนอาหารสดนางเก็บไว้ในช่องแช่เนื้อจะได้สดตลอดเวลา
เหม่ยเหรินแปลกใจ ว่าไอ้ช่องเล็ก ๆ ของนายหญิงนั้นบรรจุของได้เยอะขนาดนั้นเชียวเหรอ แต่ก็ไม่กล้าถามจนมี่เฟิ่งหันมาเห็นว่านางแอบมองอยู่ แต่เหม่ยเหรินเหมือนจะรู้จึงรีบผินหน้าหลบ คิดว่าเรื่องนี้เป็นความลับของเจ้านาย
“เจ้าคงสงสัยใช่หรือไม่ว่าข้าทำได้อย่างไร”
“บะ...บ่าวมิกล้าสงสัยเจ้าค่ะ” เหม่ยเหรินกลัวว่าจะเสียมารยาทจนทำให้นายหญิงไม่พอใจ รีบก้มหน้าทันทีราวกับกลัวความผิด
“เจ้าอย่าทำเหมือนกลัวข้าเช่นนั้นเลย ข้ารู้สึกไม่ค่อยดี เจ้าทำตัวตามสบายเถอะ ข้าเพียงบอกเจ้าได้แค่ ข้ามีวิธีเอาของใส่เข้าไปแล้วก็นำออกมาก็แล้วกัน เจ้ารู้แค่ที่ข้าบอกก็พอ ที่เหลือมีหน้าที่แค่ทำตามที่ข้าสั่ง และเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”
เมื่ออยู่ด้วยกันนางก็ต้องบอกว่าสิ่งใดพูดได้ สิ่งใดพูดไม่ได้ จะได้เข้าใจซึ่งกันและกัน เหม่ยเหรินเองก็รับรู้ได้ว่าเจ้านายไม่อยากพูดมาก นางก็ทำตามก็พอ และนำของต่าง ๆ ที่เจ้านายนำออกมาไปเก็บ
บ้านที่จับด้วยฝุ่นก็ถูกทำความสะอาดด้วยน้ำยาสีชมพู กลิ่นหอมสดชื่นนัก ทั้งอุปกรณ์หน้าตาประหลาดที่นายหญิงหยิบออกมาจากช่องเก็บของ ช่วยให้นางทำความสะอาดได้เร็วและทุ่นแรงได้เยอะ
“เขาเรียกว่าไม้ถูพื้น” เสียงของมี่เฟิ่งบอกกับสาวใช้ของตนเอง แล้วนางก็ไปจัดการกับในครัว เลือกซื้อของที่มันเข้ากับยุคนี้คงหนีไม่พ้นเครื่องปั้นดินเผาสินะ นางเลือกมาสองสามชิ้นกับจานชามสำหรับใส่อาหาร
พวกอาหารเครื่องปรุงนางก็ซื้อมาแล้วก็เลือกภาชนะที่ใส่ให้มันเข้ากับยุคสมัย มองดูเตาฟืนที่สำหรับหุงข้าว และถ่านก็คิดว่าพอจะใช้ได้ อีกอย่างที่นางขาดไม่ได้เรื่องห้องน้ำ และที่อาบน้ำ แต่ดูเหมือนบ้านหลังนี้จะสร้างไว้เสร็จสรรพแล้ว นางก็ไร้กังวลไปอีกเรื่อง เหลือแต่ต้องหาบน้ำเข้ามาเติมในตุ่มที่ใส่น้ำกินน้ำใช้
เหม่ยเหรินเมื่อทำความสะอาดห้องของตัวเองที่เลือกฝั่งตรงข้ามกับนายหญิง แล้วก็เครื่องนอนที่นายหญิงเอามาให้นาง มันนุ่มมากเสียจนคิดว่านอนอยู่บนปุยเมฆก็ไม่ปาน เมื่อจัดการเรื่องของตัวเองเสร็จแล้ว นางก็เดินมาสมทบกับนายหญิงด้านหลัง
“จะหาบน้ำหรือเจ้าคะ นายหญิง”
“ใช่...คงต้องช่วยกันก่อนวันนี้” นางหยิบถังไม้ที่สำหรับตักน้ำแล้วเหม่ยเหรินก็ทำตาม จนทั้งคู่ช่วยกันหาบน้ำเต็มตุ่ม เรียกได้ว่าใช้แรงกันไปเยอะทีเดียว
“เฮ้อ...เสร็จเสียที เดี๋ยวไปทำกับข้าวก่อน ค่อยอาบน้ำทีเดียว นี่สบู่เอาไว้ฟอกตัว จะได้หอม ๆ ” มี่เฟิ่งมองดูของที่นายหญิงยื่นให้ นางดมดูแล้วรู้สึกว่ามันหอมมาก ๆ
“นี่หอมจังเจ้าค่ะนายหญิง”
“อื้อ...หอมไกลเชียวแหละ สบู่นกแก้ว” ยี่ห้อนี้แม่นางใช้มานานมาก ตอนนี้มีไอเทมที่ซื้อได้เลเวลธรรมดา ยังไม่สามารถซื้อพวกของพรีเมี่ยมได้ ก็ใช้แบบธรรมดาไปก่อน คิดว่าหากปลดล็อกฟังก์ชันสูง ๆ คงมีสินค้าราคาแพง หรือพวกแรร์ไอเทมให้เลือกซื้อ
“เห็นพื้นที่ตรงนั้นไหม...ข้าอยากปลูกผักขาย หลาย ๆ อย่าง เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะช่วยกันทำแปลงผัก” นางบอกภารกิจต่อไปของทั้งนางและเหม่ยเหรินทันที แล้วก็ยิ้มอย่างยินดี เมื่อสาวใช้ของนางแข็งขันอยากทำงานนัก
“ข้าจะช่วยนายหญิงสุดฝีมือเจ้าค่ะ” เหม่ยเหรินคิดว่านายหญิงเป็นครอบครัวของนางแล้ว นางจะช่วยทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้
“บ้านเราขาดแรงงานผู้ชาย ไว้เข้าเมืองคราวหน้า ข้าจะซื้อบ่าวชายมาไว้ที่เรือน งานพวกหาบน้ำ พวกนี้ทำทุกวันข้าว่าแขนข้าจะหลุดเสียก่อน”
“บ่าวหาบได้เจ้าค่ะนายหญิง”
“ไม่จำเป็นต้องทำงานหนัก เพียงอยู่ให้สบายก็พอเรื่องหาเงินเป็นหน้าที่ข้า” มี่เฟิ่งตบหน้าอกอย่างมาดแมนสุด ๆ เหมือนตัวเองต้องรับผิดชอบชีวิตสองชีวิตด้วยลำแข้งตัวเอง ทำให้เหม่ยเหรินยิ่งกว่าศรัทธาแทบจะกราบไหว้นางแล้วยามนี้