ตอนที่ 6 อาบน้ำไง

1383 Words
เช้าวันศุกร์ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะฝนตกหนัก ชายหนุ่มลืมตาช้าๆ ด้วยอาการปวดหัวอย่างหนัก แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงจับหน้าผากใกล้เส้นผมมีรอยเบตาดีนอยู่ แต่คิดไม่ออกว่าตัวเองไปโดนอะไรมา เพราะเมื่อคืนเมาหนักมาก เขาไม่เคยเมาแบบนี้มาก่อน เพราะตัวเองเป็นคนคอแข็งจึงไม่เคยเมา แต่เมื่อคืนนี้เมาแบบชนิดที่ว่าขาดสติจริงๆ มองไปยังโต๊ะหัวเตียง มียาวางไว้หนึ่งแก้ว และแก้วน้ำเปล่าหนึ่งแก้ววางไว้คู่กัน ทำให้เขาอมยิ้ม..มีข้อความเขียนว่า ‘ไม่อยากตายก็กินเข้าไป...ถ้าอยากตายก็ไม่ต้องกิน’ วีนัส...ผมจำลายมือคุณได้...ขนาดเกลียดยังเป็นห่วงอีก...ถ้ารักกันจะเป็นอย่างไงนะ เดินไปยังตู้กระจกเห็นหน้าผากตัวเองมีรอยเบตาดีนอยู่ คิดว่า ‘เธอนั้นละเป็นคนทำให้’ เสียงประตูเปิดดังเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับกลิ่นข้าวต้มเหมือนพึ่งทำใหม่ นครินทร์เอนตัวนอนลงอีกครั้ง แล้วหลับตาลง รัมภาเอาถาดข้าวต้มกุ้งวางบนโต๊ะข้างเตียง แล้วรินน้ำใส่แก้วจึงเดินไปอังหัวของนครินทร์ว่ามีไข้หรือเปล่า รู้ว่าไม่มีไข้จึงชักมือออก...จังหวะนั้น “ปล่อยนะ” เธอจะสะบัดข้อมือ แต่เขาพลิกตัวเธอนอนลงบนเตียง จับมือเธอทั้งสองข้าง “เป็นห่วงผมเหรอ” เขายิ้มให้เธอ “ใครเป็นห่วงคุณ...ฉันแค่กลัวคุณจะตาย...แล้วฉันจะไม่มีเงินไว้ใช้หนี้คุณ” หญิงสาวพูดกระแทกหน้าเขา เขาปล่อยมือเธอเป็นอิสระ เธอจึงยืนขึ้นแต่ต้องชะงักกับคำพูดของเขา “ของคุณนะ...ที่ดูแลผม” เขาพูดแล้วยิ้มให้เธอ แต่เธอไม่ได้มองเขาและเดินออกไป รัมภาจึงเดินออกไปจากห้องแอบอมยิ้มเล็กน้อย หญิงสาวนั่งอยู่ในห้องรับแขก มองทีวีที่อยู่ตรงหน้า หลังจากที่นครินทร์ออกไปทำงานแล้ว “คุณนายค่ะ” วิเอาน้ำส้มวางไว้ให้เธอบนโต๊ะ “ขอบใจจ๊ะ” “เดี๋ยวท่านจะมารับคุณนายออกไปข้างนอกนะคะ อีกประมาณสิบหน้านาทีค่ะ” “ไปไหนเหรอ” รัมภาถามด้วยความสงสัย “ไปงานครบรอบห้าสิบปีของบริษัท...ท่านไม่ได้บอกไว้หรือคะ” “ทำไมต้องไปด้วย” หญิงสาวพูดเหมือนอารมณ์เซ็ง เพราะคุยกันไม่ถึงสองคำต้องหาเรื่องทะเลาะกันเรื่อย “ไม่ไปไม่ได้นะคะ...นี้เป็นงานใหญ่ของบริษัท...แล้วท่านไม่เคยพาหญิงคนไหนไปออกงานด้วย” วิพูดตามความจริง เธอเป็นแม่บ้านมาสิบปีไม่เคยเห็นเขาพาใครไปไหน และไม่เคยถ่ายรูปกับผู้หญิงคนไหนให้เป็นข่าว “ฉันไม่ไป” หญิงสาวยืนกราน แต่มีบุคคลที่สามเดินเข้ามา วิจึงเดินออกไป “ถ้าไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า...ผมจะเปลี่ยนให้เอง” เขาไม่พูดเปล่าเดินมานั่งข้างเธอ เธอจึงเด้งตัวลุกขึ้น “ฉันไปก็ได้” หญิงสาวจึงเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอน “รีบลงมานะ...ที่รัก” เขาตะโกนขึ้นไป เธอเดินเหมือนวิ่งเร็วมากกว่า “ขึ้นรถ” เขามองหญิงสาวที่เหมือนลังเลที่จะขึ้นรถลัมโบกินนี่คันกลางโดยมีรถเอาดี้ปิดหน้าหลัง เธอใส่เสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีน ขณะที่เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงสแล็คสีดำ นี่แต่งตัวไม่เป็นหรืออย่างไง “กลัวโดนข่มขืนหรือไง” ชายหนุ่มยิ้มให้เธอ หญิงสาวชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นรถ ส่วนเขาก็ขึ้นรถเหมือนกัน “ปล่อยมือฉันได้แล้ว...กลัวฉันจะเดินหนีคุณหรือไง” หญิงสาวสลัดมือเขาออกจากมือ ขณะที่เดินเข้ามาในห้าง “ไม่ได้กลัวแต่แค่อยากจับ” เขายิ้มให้เธอ “ปล่อยได้แล้ว” หญิงสาวใช้มืออีกข้างแกะ “รู้ว่าไม่มีประโยชน์ แต่ก็อยากทำเน๊อะ” เขาจับมือเธอแน่น แล้วพาเธอเดิน เขาพาเธอเข้าร้านชุดราตรี มีให้เลือกหลากหลายสวยงามแต่ราคานี่จับไม่ลงเลยทีเดียว “สวัสดีค่ะ ให้สาริน รับใช้ค่ะ” หญิงสาวที่ชื่อสารินเดินออกมาจากในร้าน “สารินวันนี้เธอต้องไปงานครบรอบของบริษัท...ดูชุดที่เหมาะกับวีนัสให้หน่อย...ถ้าเลือกเองคงไม่ได้เรื่อง” เขานั่งลงบนโซฟา “ได้ค่ะ...คุณนัฐ...คุณวีนัสค่ะ...เชิญทางนี้ค่ะ...ร้านของเรามีชุดราตรีให้คุณเลือกมากมาย...” สารินอธิบายชุดแต่ละชุด...บางชุดก็ดูโป้ไป เพราะเธอชอบใช่เสื้อยืดกางเกงยีนมากกว่า “คุณวีนัสค่ะ...รูปร่างของคุณมีโค้งมีเว้า...บั้นท้ายใหญ่สวย...ชุดผ่าข้างถึงเอวสวย...ปังสุด” สารินหยิบไม้แขวนที่แขวนชุดราตรีสีเทาผ่าข้างเป็นผ้าไหมแนบเนื้อเป็นเทามีผ้าซีทรูให้เห็นโค้งเว้าให้เธอดู “มันโป้ไปไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยความไม่มั่นใจกับชุด “ลองดูก่อนนะคะ...ด้านในห้องลอง...แล้วออกมาให้ฉันดูอีกที” สารินยิ้มให้เธอ รัมภาเดินเข้าไปในห้องลองพร้อมกับชุด “มีอะไรก็เรียกได้นะคะ” รัมภาเข้าไปนานพอสมควร เธอเดินออกมาด้วยความประหม่าที่รู้สึกเหมือนว่ามันโล่งๆ “สวยมากเลยค่ะ...คุณวีนัส” สารินมองรัมภาแล้วยิ้ม ทำให้นครินทร์ที่อยู่กับไอแพดมองเธอด้วยความตกตะลึง เหมือนกับว่าลืมหายใจไปชั่วขณะ “คุณนัฐดีไหมคะ” รัมภาเอ่ยถามเขา เขาจึงหลุดจากความคิด “ก็ดี...ดูเป็นคนขึ้นมาหน่อย...เท่าไหร่เดี๋ยวผมเขียนเช็คให้เลย” “สามหมื่นสองพันค่ะ” “ฉันไม่เอาเงินคุณหรอก” หญิงสาวยื่นบัตรเครดิตให้กับสาริน “ไม่ต้องสาริน...เอาของผมไป” นครินทร์รับสมุดเช็คจากสิงห์ที่เดินเข้ามาในร้าน แล้วเขียนจำนวนเงินและเซ็นชื่อส่งให้สาริน สารินรับไว้รู้ว่าเวลาเขาไม่พอใจอะไร ร้านเธอคงอยู่ไม่ได้ “เอาบัตรคุณเก็บไว้ชะ...ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน...” เขาบอกเธอ “เดี๋ยวฉันจะซื้อให้คุณไม่เหลือชักบาท” “ผมรวยพอ...ให้คุณผลาญเล่นไม่รู้จักเบื่อเลย” หญิงสาวเดินสะบัดเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยความไม่พอใจ เขาขับรถกลับมายังบ้าน เธอเดินจ้ำเอ้าขึ้นไปบนบ้าน เขาได้แต่ยิ้มและเดินตามเข้าไป วิเอาถุงใหญ่ในรถเดินตามเข้าไป นครินทร์เดินเข้ามาในห้อง ปลดกระดุมออกทีละเม็ด ขณะที่หญิงสาวในชุดคลุมสีเทากำลังเดินเข้าห้องน้ำ “คุณจะทำอะไร” หญิงสาวร้องด้วยความตกใจ ตอนนี้เขาถอดเข็มขัดเรียบร้อยแล้ว “อาบน้ำไง...ถามแปลกๆ” เขารูดซิปกางเกงสแล็คลงมากองที่ปลายเท้า ความเป็นชายของเขาตื่นตัวอย่างรวดเร็ว “ถ้าคุณจะอาบก่อน...ฉันอาบที่หลังก็ได้” หญิงสาวเดินมาที่หน้ากระจก แต่เขาดึงแขนเธอเข้ามาในอ้อมอก “ได้เวลาแล้ว” เขาโอบกอดเธอไว้ “ได้เวลาอะไร...ปล่อยนะ” หญิงสาวดันแขนเขาที่โอบกอดเธออยู่ “อย่าถามเยอะ...ผมไม่อยากตอบ” เขาจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ แล้วขบบนเส้นเลือด มืออีกข้างหนึ่งขยำเบาๆ ให้เธอระทวยในอ้อมกอด “อืมม์...ปล่อยนะ...” หญิงสาวหายใจติดขัด มือของเธอจากที่ไล่ไสส่งเขา จึงจับแขนเขาไว้ “จะปฏิเสธตัวเองทำไม...ทั้งที่ต้องการ” นครินทร์ใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้สะโพกของเธอ แต่หญิงใช้แรงที่มีอยู่ ผลักเข้าให้ถอยห่าง แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าห้องน้ำไป เขามองเธอลอบอมยิ้ม ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน....ที่ทำให้เขาอยากอยู่ใกล้ได้เท่าเธอมาก่อน ใครใจดีติดหัวใจ และคอมเม้นท์ให้ไรท์ด้วยนะจ๊ะ จะเป็นการสร้างกำลังใจให้ไรท์มากไรท์ กราบขอบพระคุณคนที่มาคอมเม้นท์ และกดหัวใจให้ไรท์ล่วงหน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD