“จะทำอะไรก็เชิญ...ฉันจะไม่ร้องครางให้คุณได้ยินเป็นอันขาด” หญิงสาวกางแขน ชันขาขึ้น ดวงตามีขอบรอยน้ำตาอยู่จางๆ
“วีนัส...” เขามองด้วยความแปลกใจ
“เอาซิ...ทำเลย...เอาสักสองสามครั้งก็ได้...หรือมากกว่านั้น...ฉันจะได้เก็บเงินไว้ถ่ายตัว...ทำซิรออะไรละ...พอคุณเสร็จฉันจะไปหาคนอื่นมาทำต่อ...เอาเลย” หญิงสาวหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้ง เขาจึงลุกหนีแล้วเอาเสื้อคลุมมาใส่
“ทำไมละ...ไม่อยากรียูส...สินค้าที่คุณใช่แล้วเหรอ...หรือไม่อยากเสียเงิน...ฉันไปนอนกับคนอื่นก็ได้...พอฉันไปนั่งในบาร์ไม่แน่ว่า...อาจจะมีคนเอาฉันและให้เงินฉันก็ได้” หญิงสาวประชดประชันเขาอย่างไม่ลดละ
เขาเดินออกไปจากห้องนอน
หญิงสาวนั่งลงแล้วหลั่งน้ำตาเงียบๆ
อยากจะออกจากที่นี่เหลือเกิน...แล้วฉันจะไปไหนได้...เงินก็ไม่มี...บ้านก็ไม่มีอยู่...ทำไมโลกถึงโหดร้ายกับฉันแบบนี้
ชายหนุ่มเข้ามาในบ้านตอนเย็นมีสาวใช้เดินมาเอาเสื้อสูทกับกระเป๋าเข้าไปในบ้าน
“วิ คุณวีนัสกินอะไรแล้วหรือยัง” เขาถามสาวใช้เบาๆ
“ทานข้าวต้มกุ้งที่ท่านสั่งให้ทำแล้วค่ะ แต่ทานได้เล็กน้อยแล้วคุณนายก็เดินขึ้นบ้านไปค่ะ” วิ สาวใช้พูดด้วยความหนักใจ
“อุ่นข้าวต้มขึ้นมาให้ฉันแล้วก็น้ำส้มแก้วหนึ่ง”
“ได้ค่ะ” วิ รับคำสั่งจะเดินไป
“วิ” เขาเรียกวิสาวใช้อีกครั้ง
“ค่ะท่าน” วิเดินกลับมาหาเขา
“ถ้าคุณวีนัส เธออยากได้อะไรก็ทำให้เธอ คิดว่าเธอคือเจ้านายอีกคน แล้วถ้ามีอะไรก็โทรมารายงานฉัน อย่าให้เธอออกจากบ้านก็พอ”
“ค่ะท่าน”
หลังจากเขาออกหายไปหลายชั่วโมงจนเธอแปลกใจ แต่ก็ไม่คิดอะไร
‘คนใจร้าย...ทำร้ายใจคนได้อย่างเลือดเย็น’
“ยังไม่นอน รอผมอยู่เหรอ” เขามองหญิงสาวในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าแพรสีแดงบางเบา
“นัฐ...มานั่งนี่ซิคะ” หญิงสาวเรียกเขาเบาๆ น้ำเสียดูเซ็กซี่จนเขานึกแปลกใจ
“วีนัส...คุณเป็นอะไร” เขาถามเบาๆ
หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียง ถอดคลุมผ้าแพรออกจากตัวเองช้าๆ มันร่วงล่นบนพื้น เขามองการกระทำของเธอนิ่งเงียบ เธอจึงปลดเสื้อผ้าแพรสายเดี่ยวลายลูกไม้ออกจนได้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าประจักต่อสายตาของเขา
“เข้ามาสิคะ...นัฐ...คุณอยากได้ไม่ใช่เหรอ...และฉันก็ได้กำไรจากการขายตัวให้คุณ” หญิงสาวเดินเข้าไปหา
“ทำไมละ...ไม่เอาแล้วเหรอ...เสียดายจัง...ฉันว่าจะไปสีลมชักหน่อย” หญิงสาวเดินหันหลังกลับเดินไปที่โต๊ะเครื่องสำอางที่มีหลากหลายยี่ห้อแต่ละอย่างมาจากแบรนด์ดังทั้งสิ้น
“อย่าทำแบบนี้ได้ไหม” ชายหนุ่มมองเธอจากด้านหลัง
“คุณเห็นผู้หญิงเป็นแค่นางบำเรอ ไม่ก็โสเภณี ฉันก็รู้สึกว่าฉันก็ไม่ต่างจากนางบำเรอหรือโสเภณีเท่าไหร่เหรอนะ” หญิงสาวพูดเบาๆ แต่หนักแน่น
“อย่าคิดแบบนั้นได้ไหม...ผมไม่เคยเห็นคุณเป็นโสเภณีหรือนางบำเรอแม้นแต่น้อย” ที่เขาพูดไปเมื่อเช้านั้นแค่ประชดเธอเฉยๆ แต่เขาไม่เคยคิดว่าเธอเป็นนางบำเรอหรือโสเภณีแม้นแต่น้อย
“ถ้าเช่นนั้นฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงขัดดอกซินะ...แต่ก็ช่างมันเถอะ...ฉันก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว...ฉันจะเป็นอะไรก็ช่างแค่หาเงินมาชดใช้คุณได้ ฉันจะได้ออกไปจากที่นี่ชักที”
ก๊อก....
“เลิกพูดเรื่องนี้ซะ...” เขาเดินไปที่ประตูเปิดออก เอาถาดที่วิเอามาให้รับไว้เดินมาวางที่โต๊ะ
“เดินมากินซะ” เขามองเธอที่ใส่เสื้อคลุมแล้ว คงกลัวว่าวิจะมาเห็น
“ฉันไม่กิน” หญิงสาวเดินขึ้นเตียงนอนตะแคงหันไปฝั่งโต๊ะข้างเตียง เขาจึงยกถาดวางที่โต๊ะข้างเตียงฝั่งของเธอ หญิงสาวจึงหันข้างไปอีกฝั่ง
“ถ้าคุณไม่กินจะป่วยเอาได้นะ”
“ให้ฉันตายเสียยังดีกว่า”
“วีนัส...ผมไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครนะ” ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครกล้าต่อล้อต่อเถียงกับเขาหรือเมินหน้าหนีและที่สำคัญไม่เคยดูแลหาข้าวให้กิน ถึงแม้นวิจะเป็นคนเอามาให้ก็ตาม
“วีนัส” เขาเรียกเธออีกครั้งแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ มีเพียงเสียงลมหายที่สม่ำเสมอ เขาจึงยกถาด เดินไปที่ประตูหน้าห้อง เปิดออก วางถาดหน้าห้อง แล้วปิดประตูเข้ามา ลงนอนบนเตียงกว้างแปดฟุตเดียวกับเธอ
“ทำไมไม่ยอมรับความจริงที่ว่าเป็นเมียผม...ดื้อเป็นเด็กไปได้...” เขาลูบหัวของเธอ แล้วเอื้อมปิดไฟตรงหัวเตียงของเธอ
แสงแดดสาดส่องผ่านผ้าม่านภายในห้องนอนของนครินทร์ เขาลืมตาขึ้นช้าๆ มองข้างตัวเองไม่มีหญิงสาวนอนอยู่ด้วยแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินไปดูที่ห้องน้ำก็ไม่มีเธอ พอเดินเข้าไปที่ห้องแต่งตัว มีไม้แขวนเสื้อแขวนชุดสูทสีเทา เสื้อเชิ้ตสีดำซ่อนอยู่ด้านใน มีกางเกงสีเทาเหมือนกัน ส่วนเนคไทสีเทากับถุงเท้าสีดำวางไว้บนโซฟาสีดำ เขามองด้วยความแปลกใจว่าใครแขวนเสื้อผ้าไว้ให้วิคงไม่มาทำแบบนี้ให้หรอก
แต่ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาว่าอาจจะเป็นเธอที่ทำให้ เป็นไปได้เหรอที่เธอจะทำให้ แค่เมื่อคืน...ช่างมันเถอะ เธอคิดว่าตนเป็นคนเลวในสายตาไปแล้ว
“ไม่ต้องค่ะ คุณนายเดี๋ยววิทำเอง” วิพยายามจะช่วยหญิงสาวทำอาหาร แต่เธอกับแย้งหน้าทีไปชะหมด ถ้าคุณนัฐมาเห็นคงโดนดุแน่ ที่ให้ภรรยาท่านทำอาหาร
“วีนัส แค่ไม่อยากอยู่ว่าง แล้วอยากทำอาหารบ้าง วิจะได้ชิมฝีมือวีนัสด้วยไง” หญิงสาวยิ้มให้สาวใช้
“แค่คุณนัฐเขาจะ...”
“ไม่มีใครว่าวิหรอกเชื่อฉัน...” หญิงสาวดับไฟเตาแก๊ส แล้วเอาถ้วยใบใหญ่ใส่ต้มข่าไก่ วิจึงรับมาจากมือหญิงสาวเดินไปวางที่โต๊ะใหญ่ในห้องทานอาหารที่อยู่ติดกับห้องครัว ชายหนุ่มเดินเข้ามา วิกำลังอ้าปากทักทายเขา แต่เขาส่ายหน้าไม่ให้พูด เขาจึงเดินไปนั่งลง
“วิจ๊ะ ช่วยไปซื้อกะทิ เครื่องพริกแกง แล้วก็ปลากรายซักครึ่งกิโล วีนัสจะทำแกงเขียวหวานปลากรายให้กินกัน” หญิงสาวถอดผ้ากันเปี้อนออกแขนไว้ แล้วเดินมาที่ห้องทานอาหาร
“อรุณสวัสดิ์” เขาพูดเบาๆ ยิ้มเล็กน้อย แต่หญิงสาวกลับเดินออกจากห้องอาหาร เขาจึงเดินตามออกไป
“วีนัส” เขาเดินไปประชันชิดแล้วจับเรียวแขนเธอ
“หยุดก่อน” เขาเรียกเธอเบาๆ
“มีอะไรให้ผู้หญิงขัดดอกคนนี้รับใช้...เจ้าคะ” หญิงสาวหันหน้ามาเผชิญหน้า
“อย่าประชดประชันผมได้ไหม”
“ฉันไม่ได้ประชดประชันคุณ...ฉันพูดตามความจริงต่างหาก” หญิงสาวเชิดหน้ามองเขา
“อย่าทำตัวงี่เง่าได้ไหม” เสียงของเขาดังขึ้น
“ปล่อยฉันได้แล้ว...ฉันมีธุระที่ต้องทำอีก” หญิงสาวพูดเสียงเรียบ
“ธุระอะไร” เขาถามด้วยความสงสัย
“ไปหาคนมาซื้อ...ตัวฉันเอง...ไม่แน่อาจจะมีเสี่ยใจดีรับฉันไปเลี้ยงก็ได้”
“อย่าทำแบบนี้ได้ไหม” เขาพูดเบาลง
“ปล่อยฉัน” หญิงสาวยื่นคำขาด เขาจึงปล่อยมือเธอออก เธอจึงเดินขึ้นบนบ้านไม่มองเขา
ใครใจดีติดหัวใจ และคอมเม้นท์ให้ไรท์ด้วยนะจ๊ะ จะเป็นการสร้างกำลังใจให้ไรท์มากไรท์
กราบขอบพระคุณคนที่มาคอมเม้นท์ และกดหัวใจให้ไรท์ล่วงหน้า