“ไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ แต่เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่นๆ ฉันต้องลงโทษเธอ”
แม้เสียงทุ้มที่เอ่ยจะดูราบเรียบ หากแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ไม่มีแววล้อเล่น
“ค่ะ”
ปาริมารับคำก่อนจะหลุบสายตาลงต่ำ แต่ฟาบิโอไม่ยอมให้หญิงสาวได้ทำแบบนั้น
“อย่าหลบสายตาฉัน”
น้ำเสียงเข้มห้วนที่ออกปากสั่ง ทำให้ปาริมารีบดึงสายตากลับมาที่เดิม ดวงตากลมโตไหวระริก แม้อยากจะเลี่ยง แต่ก็ไม่อาจขัดคำสั่งคนตรงหน้าได้
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันจะให้เธอมาทำหน้าที่แทนวริษา”
“อะ อะไรนะคะ”
ปาริมาร้องถามจนเสียงหลง ใจหนึ่งหญิงสาวก็ภาวนาว่าสิ่งที่เธอได้ยินอาจจะผิดไป
“ฉันบอกว่านับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันจะให้เธอมาทำหน้าที่แทนวริษา”
ร่างเล็กแข็งทื่อไปพักหนึ่งเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าวแจ่มชัด หญิงสาวทราบดีว่าหน้าที่ของวริษาคืออะไร แต่จะให้เธอรับใช้เขาใกล้ชิดมากขนาดนั้น เธอจะทำได้อย่างนั้นหรือ
เธอกลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะรักษาความลับเอาไว้ไม่ได้
“แต่ว่า…”
หญิงสาวพยายามจะค้าน แต่เป็นอีกครั้งที่ฟาบิโอไม่อนุญาตให้เธอได้ทำแบบนั้น
“ไม่มีแต่”
เสียงทุ้มเข้มห้วนดุดัน นัยน์ตาสีเทาอ่อนจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอเป็นเชิงปราม ทำให้หญิงสาวต้องหุบปากฉับ กลีบปากเรียวเม้มเข้าหากันแน่น แม้กล้ามเนื้อในอกซ้ายจะเต้นแรงจนเจ็บอกก็ตาม
“ไปเตรียมน้ำอุ่นให้ฉันด้วย ฉันจะอาบน้ำ”
“ตอนนี้เลยเหรอคะ”
“ใช่ ตอนนี้ และเธอก็ต้องคอยดูแลฉัน ตอนที่ฉันกำลังอาบน้ำด้วย เพราะมันคือหน้าที่”
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ริมฝีปากสีเรื่อเผยอออกจากกัน หัวใจดวงน้อยพลันเต้นถี่รัวเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
เตรียมน้ำอุ่นน่ะพอไหว แต่จะให้เธอคอยดูแลเขาขณะที่เขาอาบน้ำ มันจะไหวจริงๆ อย่างนั้นหรือ
‘ต้องดูแลขนาดไหนกันนะ’
สีหน้าลำบากใจและอาการนั่งไม่ติดของปาริมาอยู่ในสายตาฟาบิโอตลอดเวลา แต่เขาไม่คิดจะมอบความเมตตาให้เธอหรอก ในเมื่อเจ้าตัวอยากหลบหน้าหลบตาเขาดีนัก ถามอะไรก็ไม่ยอมปริปาก โดนแบบนี้ก็เหมาะสมดีแล้วละ
“ไปสิ หรือเธอจะให้ฉันไปจัดการด้วยตัวเอง”
“ดะ เดี๋ยวผิงจัดการให้เองค่ะ”
เมื่อรู้ว่าอย่างไรก็เลี่ยงไม่ได้ ปาริมาจึงรับคำเสียงสั่น ก่อนจะค่อยๆ ลุกจากเก้าอี้ ขยับเท้าออกจากห้องทำงานของฟาบิโอ โดยมีสายตาคู่คมมองตามแผ่นหลังบอบบางไปจนลับสายตา
ใบหน้าหล่อเหลาขยับยิ้มเล็กน้อย ดวงตาคู่คมเป็นประกายเจิดจ้า แต่ก็เพียงแวบหนึ่งก่อนจะเลือนหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จากนั้นร่างสูงจึงขยับตัวลุกจากเก้าอี้ สาวเท้าออกจากห้องทำงาน ก่อนจะหยุดเท้าที่หน้าห้อง พูดคุยกับบอดี้การ์ดคนสนิทอย่างติอาโก้
“นายไปพักเถอะ เปลี่ยนให้คนอื่นมาเฝ้าแทน”
“ครับ”
ติอาโก้ก้มศีรษะลงต่ำเล็กน้อยเพื่อรับคำสั่ง แม้ในใจจะสงสัยอยู่หลายส่วนตอนที่เห็นปาริมาออกมาจากห้องทำงาน หญิงสาวส่งยิ้มจืดเจื่่อนให้เขาก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ห้องนอนของฟาบิโอ นั่นทำให้เขารู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย
แต่นั่นเป็นเรื่องของเจ้านาย ไม่ใช่เรื่องของเขา
ติอาโก้มองตามแผ่นหลังของคนเป็นนายที่หายเข้าไปในห้องนอน หลังจากที่ประตูไม้สีน้ำตาลเข้มถูกปิดลง บอดี้การ์ดหนุ่มจึงขยับเท้าไปที่ห้องของตัวเองซึ่งอยู่ทางปีกซ้ายของคฤหาสน์
ปาริมาก้าวเข้ามาในห้องนอนของฟาบิโอได้เพียงสองก้าว เท้าเล็กก็หยุดอยู่ตรงนั้น ภาพเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นลอยวนเข้ามาในหัวของหญิงสาวซ้ำๆ จนเธอไม่สามารถสลัดภาพดังกล่าวให้หลุดออกจากหัวได้ ความรวดร้าวค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่กลางอกจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บแปลบ จังหวะนั้นเองที่ความอุ่นร้อนชนิดหนึ่งเกิดขึ้นด้านหลังของเธอ
“ทำไมยังไม่ไปเตรียมน้ำให้ฉันอีก”
เสียงทุ้มราบเรียบที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังทำให้หญิงสาวสะดุ้งตัวน้อยๆ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง เท้าเล็กขยับไปข้างหน้าอีกสองสามก้าว ก่อนจะค่อยๆ หมุนตัวหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของห้อง
“ขอโทษค่ะ ผิงจะไปเดี๋ยวนี้”
ปาริมาบอกแล้วขยับเท้าไปที่ห้องน้ำทันที โดยมีสายตาของฟาบิโอมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวไปจนร่างแบบบางหายเข้าไปในห้องน้ำด้วยสายตาเคลือบแคลง
ก่อนหน้านี้เขาแค่สงสัยว่าเธออาจจะกลัวเขา แต่ไอ้การที่แค่ได้ยินเสียงเขาแล้วสะดุ้งแบบนั้น มันจะไม่มากไปหน่อยหรือไรกัน
ดี
ถ้ากลัวเขามากขนาดนั้น จะแกล้งให้หัวใจวายตายไปเลยคอยดู
ฟาบิโอคิดอย่างพาลๆ เขาไม่ชอบใจเลยสักนิด ผู้หญิงคนอื่นเห็นเขามีแค่อยากจะเข้าหา แต่กับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างปาริมากลับมีแต่จะวิ่งหนี
เขาไม่ยอมให้เธอได้ทำแบบนั้นหรอก
ไม่มีทาง
หลังจากที่จัดการเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างจากุซซี่จนถึงระดับที่พอเหมาะ ปาริมาก็จัดการหมุนปิดก๊อกน้ำพร้อมใส่ครมอาบน้ำลงไปจนเกิดฟอง ร่างเล็กขยับตัวลุกขึ้นตอนที่ได้ยินเสียงบานประตูไม้ถูกเลื่อนดังครืด ไม่ต้องเสียเวลาเดาเลยสักนิดว่าคนที่เข้ามาใหม่คือใคร
ร่างแบบบางถอยกรูดจนแผ่นหลังบอบบางชนขอบเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ใบหน้าเล็กก้มลงต่ำ มือทั้งสองข้างประสานกันเอาไว้ด้านหน้า แต่ไออุ่นจางๆ ที่เข้าปะทะผิวกายของหญิงสาว ทำให้เธอทราบว่าคนเป็นเจ้าของห้องคงอยู่ใกล้เธอมาก
“ถอดเสื้อคลุมให้ฉันด้วย”
“...”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอเล็กน้อย ใบหน้าที่เคยก้มลงต่ำแหงนเงยขึ้นเพื่อมองใบหน้าของเจ้าของคำพูด
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดงั้นเหรอ”
“ดะ ได้ยินแล้วค่ะ”
ปาริมาละล่ำละลักบอก มือบางที่กำลังสั่นไหวน้อยๆ เอื้อมไปปลดสายเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มแบบผ้าลื่นที่ฟาบิโอสวมใส่เอาไว้ ค่อยๆ ปลดเสื้อคลุมที่อยู่บนเรือนกายสูงใหญ่ออก พยายามจดจ้องสายตาอยู่ที่ปลายคางของคนที่สูงกว่าเท่านั้น
“เรียบร้อบแล้วค่ะ”
ปาริมาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเรือนกายสูงใหญ่ของฟาบิโอยังมีกางเกงบ็อกเซอร์หลงเหลืออยู่อีกหนึ่งชิ้น เปลือกตาทั้งสองข้างของหญิงสาวแทบจะปิดสนิทตอนที่ขยับเท้าถอยออกมาเพราะไม่กล้ามองสำรวจเจ้าของเรือนกายสูงใหญ่ที่เธอคิดว่าคงไม่มีอาภรณ์ใดๆ หลงเหลืออยู่บนตัวเขาอีกแล้ว มือเล็กจับเสื้อคลุมของฟาบิโอเอาไว้แน่น เท้าเล็กขยับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งสะโพกชนเข้ากับขอบเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าอีกครั้ง