“ไม่ค่ะ เกดไม่ได้ชอบคุณโน้ต”
“แน่ใจ?”
“เกดแน่ใจค่ะ ถ้าคุณนัทหมดเรื่องจะถามแล้ว...”
“แล้วฉันล่ะ”
“คะ?”
“เธอ...เกลียดฉันรึเปล่า”
“คำถามนี้เกดควรเป็นฝ่ายถามคุณรึเปล่าคะ”
“รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้เธอจะยอกย้อนเก่ง ไม่สิ เธอปากเก่งขึ้นเยอะเลยนะ” เขายกยิ้มมุมปาก ก่อนจะค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ ทว่ากลับทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูก เธอจึงได้ก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ
แต่เพราะด้านหลังของเธอเป็นเตียงใหญ่ หญิงสาวจึงได้หงายหลังลงไปอย่างช่วยไม่ได้ แต่เมื่อจะลุกขึ้นมา คนตัวใหญ่กว่าก็โถมตัวตามติดลงมาแล้วกักเธอเอาไว้ภายใต้ลำแขนแข็งแกร่งทั้งสองข้างแล้วมองสบตาเธอนิ่ง
“คุณนัทจะทำอะไรคะ หลีกไปเลยนะ” ลูกแมวน้อยขู่ราชสีห์ฟ่อๆ เล่นเอาเขาถึงกับยิ้มขัน
“แล้วเธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเธอล่ะการะเกด”
“เลิกแกล้งเกดสักทีเถอะค่ะ เกดจะกลับไปอาบน้ำเข้านอนแล้ว” เธอยกมือขึ้นดันอกเปลือยนั้น แม้ว่ามือน้อยจะสั่นจนน่าเอ็นดูเพียงใดก็ตาม
“ก็ตอบมาสิว่าเธอเกลียดฉันรึเปล่า”
“เกดไม่ได้เกลียดคุณ มีแต่คุณที่เกลียดเกดมาตลอด พอใจหรือยังคะ”
“ทำไมคิดว่าฉันเกลียดเธอ”
“แล้วคุณชอบเกดหรือไงกันคะ”
“ไม่”
คำตอบที่ไม่เสียเวลาคิดแม้สักวินาทีทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้อมาจุกที่ลำคอ
“เกดตอบในสิ่งที่คุณต้องการจะรู้แล้ว ปล่อยเกดเถอะค่ะ ถ้าใครมาเห็นเราในสภาพนี้เค้าจะเข้าใจผิดเอาได้”
“หมายถึงนายโน้ตน่ะเหรอที่เธอกลัวจะเข้าใจผิด”
“แล้วคุณโน้ตมาเกี่ยวอะไรด้วยคะ”
“เพราะว่าเธอโกหกฉันน่ะสิ”
“เกดไปโกหกอะไรคุณอีก”
“ที่บอกว่าไม่ชอบนายโน้ตไงล่ะ”
“ก็เกดบอกแล้วไงคะว่าเกดไม่ได้...”
“ฉันจะบอกให้เธอรู้เอาไว้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดถึงนายโน้ต อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอยิ้มหรือหัวเราะกับน้องชายฉันอีก ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
การะเกดยอมรับว่าเธอเจ็บปวดและเสียใจกับคำพูดที่เต็มไปด้วยการดูแคลนนั้น แต่แทนที่เธอจะเจียมเนื้อเจียมตัวหรือปฏิเสธเขาอย่างที่ควรจะเป็น ความอยากชนะในใจที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวก็ทำให้เธอเผลอท้าทายเขาออกไป
“ทำไมคะ ถ้าเกดจะยิ้มหรือหัวเราะกับคุณโน้ต คุณจะทำอะไร จะฆ่าเกดหรือไงกัน อีกอย่างคุณโน้ตเค้าก็เป็นคนน่ารักและอัธยาศัยดีค่ะ ไม่ใจร้ายเหมือนกับคุณหรอก ถ้าเกดจะชอบเค้าจริงๆ แล้วคุณจะมาห้ามอะไรเกดได้ หัวใจของเกดเป็นของเกด จะรักใครชอบใคร หรือจะ...เกลียดใคร คุณก็บังคับใจเกดไม่ได้”
“ไม่ได้งั้นเหรอ”
“ค่ะ ไม่...อื้อ...”
ดวงตาคู่งามเบิกโพลง เมื่อเขาประกบปากลงมาขยี้กับปากอิ่มอย่างไม่อ่อนโยน ทุกสัมผัสคือความเกลียดชังที่เธอรับรู้ได้เป็นอย่างดี หญิงสาวจึงได้ดิ้นรนแล้วผลักเขาออกจนสุดแรง ก่อนที่ฝ่ามือน้อยๆ จะฟาดลงบนซีกแก้มของเขาเสียงดังฉาดจนใบหน้าคมหันไปตามแรงตบนั้น
“คนเลว!”
แล้วเธอก็วิ่งออกไปจากห้องนั้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากความเจ็บปวดเพราะถูกเขาเหยียบย่ำหัวใจจนแทบไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
คีรินใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มข้างที่ถูกตบก่อนจะเหยียดยิ้มมุมปากน้อยๆ ไม่นึกเลยว่าเขาจะโดนคนที่มักจะกลัวเขาจนตัวสั่นตบเอาง่ายๆ แบบนี้
“เห็นตัวเล็กแค่นี้แต่มือหนักเป็นบ้าเลยแฮะ”
ชายหนุ่มหันไปมองถ้วยชาที่เธอวางไว้ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งแล้วยกชาขึ้นมาจิบ พลางคิดไปถึงจูบอันแสนดิบเถื่อนนั้นแล้วก็ได้แต่นึกโมโหตัวเองในใจ
นี่เขา...ทำบ้าอะไรลงไปวะเนี่ย!
การะเกดปิดประตูห้องแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงก่อนจะปล่อยโฮออกมาด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจ เธอไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เขาโกรธเกลียดกันนักหนาเขาถึงได้ดูถูกดูแคลนและตั้งแง่กับเธอได้ถึงขนาดนี้
นี่ถ้าหากไม่ติดว่าคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงท่านเมตตาส่งเสียเลี้ยงดูเธอจนเติบใหญ่ ป่านนี้เธอคงจะไปจากที่นี่นานแล้ว ไม่อยู่ให้เขาต้องชังน้ำหน้าและหาเรื่องแกล้งกันแบบนี้หรอก
หญิงสาวเอาแต่นอนร้องไห้อยู่นาน แต่เมื่อตกตะกอนในใจได้แล้วว่าต่อให้ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดเธอก็ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมนี้ได้ เธอจึงทำได้แค่ทำใจและยอมรับมัน ได้แต่หวังว่าอีกหน่อยหากเขาแต่งงานมีคู่ก็คงจะย้ายออกไปอยู่กับครอบครัวใหม่
ถึงตอนนั้น...
เธอก็คงจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับเขาบ่อยๆ แบบนี้อีก
แต่ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ เธอจะทำใจได้หรือเปล่านะ?
“ตื่นได้สักทีนะเรา”
แขไข หัวหน้าพยาบาลวอร์ดที่คุณัญญาทำงานอยู่นั่งถอนหายใจเฮือกเมื่อเห็นลูกน้องของเธอลืมตาขึ้นมาหลังจากเป็นลมไปนานก่อนหน้านี้
“พี่แข...ทำไมหนูมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะคะ”
“ก็เราเป็นลมในลิฟต์น่ะสิ ดีนะที่มีคนอุ้มมาส่ง”
“ใครอุ้มหนูมาคะ”
“ไม่รู้สิ พี่ไม่ได้ถามชื่อ เห็นว่าเป็นเด็กช่างมั้งใส่เสื้อช็อปน่ะ ผมยาวหน่อย ใส่กางเกงขาดๆ แต่ก็มีน้ำใจดี”
“แล้วเค้ายังอยู่มั้ยคะ” เธอค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งอย่างอ่อนแรง
“ไม่อยู่หรอก ไปตั้งนานแล้ว อย่าเพิ่งสนใจคนอื่นเลย มาคุยกันให้เข้าใจหน่อยดีมั้ยเรา” แม้จะทำเสียงดุ แต่เธอก็ช่วยประคองรุ่นน้องอย่างมีน้ำใจ
“พี่แข...จะคุยอะไรคะ”