“ไงไอ้เสือ กลับบ้านได้แล้วเหรอเราน่ะ”
คณิน หรือ หนุ่ย บิดาวัยห้าสิบเจ็ดปีของคีตกาลทรุดตัวลงนั่งข้างลูกชายคนเล็กก่อนจะยกมือขึ้นโอบไหล่แล้วเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
“แหม พ่อก็พูดอย่างกับว่าผมไม่เคยกลับบ้านเลยงั้นแหละครับ ผมก็มาทุกเทอมนะ”
“ใช่ มาทุกเทอม แต่เทอมละสองสามวันก็กลับ ไม่รู้ว่าแอบซุกลูกเมียเอาไว้ที่หอพักรึเปล่า” คีริน หรือ นัท วัยยี่สิบเก้าปี นั่งลงฝั่งตรงข้ามน้องชายของตน
“ผมไม่ใช่พี่นัทนะครับจะได้แอบซุกใครไว้ที่คอนโดน่ะ”
เพล้ง!
“ขอโทษค่ะ”
การะเกดรีบก้มลงหยิบเศษแก้วกาแฟที่แตกกระจายเต็มพื้นขึ้นมาไว้บนถาดทันที เห็นอย่างนั้นคีตกาลจึงได้รีบลุกไปช่วย
“ระวังหน่อยสิเกด เดี๋ยวก็บาดมือเอาหรอกนะ”
“ขอโทษค่ะคุณโน้ต เดี๋ยวเกดไปชงกาแฟมาให้ใหม่นะคะ”
“ไม่ต้องเดี๋ยวฉันไปชงเองดีกว่า เธอไปพักเถอะ”
“แต่ว่า...”
“โน้ตเค้าบอกว่าจะชงเองเธอไม่ได้ยินเหรอ จะไปไหนก็ไปสิ แล้วเรียกคนอื่นมาเก็บกวาดด้วย” เสียงเข้มดุของคีรินทำให้การะเกดแทบน้ำตาร่วง
เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่...เขาก็มีแต่ความเกลียดชังให้เธอเสมอ
“ค่ะคุณนัท ขอโทษอีกครั้งนะคะคุณโน้ต”
“ไม่เป็นไรหรอก อ้าวนั่นเศษแก้วบาดมือแล้วไม่ใช่เหรอน่ะ ไปนั่งตรงนั้นไปเดี๋ยวฉันทำแผลให้”
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเกดไปทำเองดีกว่า”
“จะทำเองได้ยังไง มานี่ เดี๋ยวทำให้” แล้วเขาก็จูงมือการะเกดไปนั่งที่มุมหนึ่งของห้อง ก่อนจะเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาแล้วนั่งลงทำแผลให้อีกคนอย่างชำนาญ เพราะเขาทำแผลให้ตัวเองเป็นประจำ
“เจ็บมั้ยเนี่ย” เขาเงยหน้ามองเธอ
“ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“แล้วทำไมซุ่มซ่ามนักถึงได้ทำแก้วแตกได้ ปกติก็ไม่เห็นเป็นแบบนี้นี่ หรือว่าไม่สบายรึเปล่า” เขายกหลังมือขึ้นแตะหน้าผากเธอ
“เอ่อ...เกด...สบายดีค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง”
“ผมขอตัวขึ้นห้องก่อนนะครับพ่อ”
คีรินลุกขึ้นแล้วเดินมาทางน้องชายก่อนจะหันไปมองการะเกด
“เดี๋ยวชงชาขึ้นไปให้ฉันด้วยล่ะ”
“ค่ะคุณนัท”
“ให้คนอื่นไปทำสิครับพี่นัท เกดเค้ามือเจ็บอยู่นะ”
“แผลแค่นี้คงไม่ตายง่ายๆ หรอกมั้ง”
บอกแล้วคนหน้าตึงก็เดินขึ้นไปบนห้องของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“เป็นอะไรของเค้าล่ะเนี่ย ช่วงนี้งานที่บริษัทเครียดมากเหรอครับพ่อ พี่นัทเค้าถึงดูตึงๆ แบบนั้นน่ะ” คีตกาลหันไปถามบิดา
“ก็เครียดเป็นปกติทุกวันนั่นแหละ สงสัยจะดื่มมากไปหน่อยมั้ง งั้นพ่อก็ไปนอนก่อนนะ แล้วนี่แกจะดื่มกาแฟทำไมตอนนี้ เดี๋ยวก็นอนไม่หลับหรอก”
“ผมจะอ่านหนังสือน่ะครับเลยอยากนอนดึกหน่อย พรุ่งนี้ค่อยตื่นสายๆ เอาละกัน”
“งั้นก็ตามใจ แต่อย่าดึกมากล่ะเดี๋ยวจะไม่สบาย”
“ครับพ่อ”
คีตกาลมองบิดาเดินขึ้นไปชั้นบนก่อนจะหันมาทำแผลให้การะเกดจนเสร็จ
“เรียบร้อย เดี๋ยวก็รีบไปชงชาให้พี่นัทแล้วกลับไปนอนพักนะ”
“ค่ะคุณโน้ต ขอบคุณมากนะคะ” เธอยกมือไหว้เขา
“อย่ามากพิธีเลย ถึงเธอจะอายุน้อยกว่าฉันปีนึงแต่ฉันก็เห็นเธอเป็นเพื่อนเสมอนั่นแหละ เวลาอยู่กับฉันสองคนไม่ต้องมีมารยาทมากก็ได้ เคยบอกเป็นร้อยรอบแล้วไม่ใช่เหรอ”
“แต่...คุณนัทเค้า...”
“พี่นัททำไม”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร งั้นเกดขอตัวไปชงชาก่อนนะคะ จะชงกาแฟให้คุณโน้ตด้วยเลย คุณไปรอบนห้องดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเกดยกไปให้ไหนๆ ก็จะต้องไปที่ห้องครัวอยู่แล้ว”
“งั้นก็ตามใจ ขอบใจนะ”
แล้วเขาก็นำอุปกรณ์ทำแผลไปเก็บ ก่อนจะกลับขึ้นห้องของตัวเองเช่นกัน ไม่นานเธอก็ยกกาแฟมาให้ ซึ่งเขาเห็นว่ายังมีชาในถาดอีกแก้ว แปลว่าเธอยกกาแฟมาเสิร์ฟเขาก่อนที่จะนำชาไปเสิร์ฟให้พี่ชาย
“ชามาแล้วค่ะคุณนัท”
ประตูห้องเปิดออกหลังจากเสียงของเธอดังขึ้นไม่นานนัก แต่แล้วหญิงสาวก็แทบลืมหายใจเมื่อคนที่ยืนอยู่หลังประตูนั้นสวมเพียงกางเกงทำงาน ทว่าท่อนบนกลับเปลือยเปล่าจนเธอต้องรีบก้มหน้างุดแล้วยื่นถาดไปตรงหน้าเขา
“เอ่อ...ชาค่ะ”
“เอาไปวางไว้ข้างเตียงฉันโน่น” เสียงดุบอกขึ้นแต่เขากลับไม่ยอมหลีกให้เธอเข้าไป
“งะ...งั้นคุณนัทก็ช่วยหลีกทางให้เกดหน่อยสิคะ ยืนอยู่ตรงนี้เกดเข้าไปไม่ได้ค่ะ”
เธอเงยหน้าบอกเขา พยายามโฟกัสแต่หน้าหล่อๆ นั้นและบอกตัวเองว่าอย่าเผลอไปมองจุดที่ไม่ควรมองอีก
“เชิญ” แล้วเขาก็ขยับไปยืนอยู่ด้านข้างให้อย่างที่เธอต้องการ หญิงสาวจึงได้รีบเดินเข้าไปแล้ววางถ้วยชาเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง แต่พอหันหลังเพื่อจะก้าวออกไป เธอก็พบว่าเขาปิดประตูห้องเรียบร้อย แถมยังยืนขวางประตูเอาไว้อีก
“รบกวนคุณช่วยหลีกทางให้ด้วยค่ะ เกดหมดหน้าที่แล้ว”
“ดูเหมือนเธอไม่อยากอยู่ใกล้ฉันเลยนะ ไม่เหมือนตอนที่อยู่กับนายโน้ต หรือว่า...เธอจะแอบชอบน้องชายของฉันกันแน่”
นอกจากเขาจะไม่หลีกทางให้ตามที่เธอขอ กลับยังเอนตัวพิงประตูแล้วกอดอกพลางจ้องหน้าเธอไม่กะพริบตาอีกด้วย
“เกดไม่กล้าคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ เกดรู้ดีว่าตัวเองเป็นแค่คนรับใช้ของคุณโน้ตเท่านั้น ไม่กล้าอาจเอื้อม...”
“เหมือนเธอจะตอบไม่ตรงคำถามนะ ฉันถามว่าเธอแอบชอบน้องชายของฉันรึเปล่า การะเกด”
ทุกครั้งที่เขาเรียกชื่อเต็มของเธอ หญิงสาวจะเข้าใจได้ทันทีว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน ซึ่งอารมณ์นั้นก็มักจะอยู่ในแง่ร้ายมากกว่าดี