“นิ่มมาอยู่ที่นี่เอง พี่ก็นึกว่าหายไปไหน”
เสียงพูดที่ดังขึ้นทำให้นิรดาที่กำลังคิดถึงเรื่องราวในอดีตตื่นจากภวังค์ เมื่อเห็นเป็นใบบัวรุ่นพี่ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันคนที่แนะนำให้เธอมาสมัครงานที่นี่ และเธอยังอาศัยซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์อีกฝ่ายกลับบ้านทุกวันหลังเลิกงานก็ยิ้มกว้างให้ทันที
ใบบัวเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่เธอจะไม่ลืมบุญคุณ เพราะไม่ใช่แค่หางานให้เพียงอย่างเดียว ในวันที่เธอไม่มีเงินแม้แต่จะกินข้าวก็เป็นใบบัวที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งที่ตัวใบบัวเองก็ลำบากไม่น้อย ต้องเลี้ยงดูแม่ที่กำลังป่วยและส่งน้องสาวเรียนมหาวิทยาลัย
“นิ่มมาเข้าห้องน้ำค่ะ”
“ท้องเสียเหรอ?”
“ค่ะ”
“ถึงว่าสิพี่เห็นเราหายออกมานานแล้วก็ไม่เห็นกลับเข้าไปซะที” เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรมากก็ถอนหายใจโล่งอก นิรดาก็เปรียบเสมือนน้องสาวของเธอคนหนึ่ง
“นิ่มขอโทษนะคะ”
“เฮ้ย! ขอโทษทำไม พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น ที่พี่พูดเพราะพี่เป็นห่วงกลัวว่าเราจะไม่สบายหรือว่าเป็นอะไรเพราะเห็นเราหายออกมานาน แล้วนิ่มก็ไม่ได้อู้ไม่ได้กินแรงพวกพี่ ทีหลังไม่ต้องขอโทษ” ใบบัวว่าเสียงดุ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “อ่อ... เกือบลืมแน่ะ อะ มีคนเขาฝากมาให้”
“ใครเหรอคะ?” นิรดาถามหลังจากที่เห็นสิ่งที่สาวรุ่นพี่ยื่นให้ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนส่งโน้ตให้เธอ ตั้งแต่เธอมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ก็ได้รับโน้ตแผ่นเล็กๆจากลูกค้าที่มาใช้บริการเป็นประจำแทบทุกวัน บางครั้งก็ฝากมากับพนักงานคนอื่น บางครั้งก็ได้รับมันด้วยตัวเอง
“ลูกค้าโต๊ะแปด คนสูงๆขาวๆที่หล่อกว่าเพื่อนอะ เขาบอกว่ารู้จักนิ่ม ตอนแรกพี่ก็กะจะรับมาไม่ให้น่าเกลียดแล้วค่อยโยนทิ้งไปทีหลังแต่พอนึกอีกทีเขาอาจจะรู้จักนิ่มจริงๆอย่างที่เขาบอก พี่ก็เลยเอามาให้”
ดวงตาคู่สวยของนิรดายังโฟกัสอยู่ที่กระดาษแผ่นเล็ก ก่อนจะยื่นมือไปรับ ถึงแม้ว่าลูกค้าโต๊ะแปดจะมีทั้งหมดสี่คนซึ่งทุกคนสูงขาวและหล่อเหลาสูสีกินกันไม่ลง นิรดาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าใบบัวหมายถึงใคร ใครคือเจ้าของกระดาษโน้ตแผ่นนี้
พี่พาย...
พี่ชายข้างบ้านสมัยเด็กของเธอคือเจ้าของโน้ตแผ่นนี้
“พี่เขากลับไปแล้วเหรอคะ?” นิรดาถามถึงเจ้าของกระดาษโน้ต หัวใจพองโตขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าพี่พายจำเธอได้ เธอคิดว่าเขาลืมเธอไปแล้วซะอีก
“อือ กลับไปสักพักแล้วล่ะ” ใบบัวพยักหน้าบอก ถามในเรื่องที่สงสัย “แสดงว่ารู้จักกันจริงๆ”
“รู้จักค่ะ นิ่มเคยเป็นเพื่อนบ้านกับพี่เขาตอน...เด็ก” น้ำเสียงตอนท้ายสั่นไหวจนคนฟังรับรู้
ใบบัวอาจจะไม่รู้ว่าสมัยเด็กนิรดาใช้ชีวิตยังไง สุขสบายแค่ไหน แต่ทว่าปัจจุบันเธอรู้แน่ๆว่าเด็กสาวตรงหน้าเธอมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากและน่าสงสารเพียงใด
เด็กสาววัยสิบแปดที่ต้องหาเงินส่งตัวเองเรียน มีญาติก็เหมือนไม่มี นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้วก็ยังเอารัดเอาเปรียบหลานทุกทาง เงินที่นิรดาหาได้ถ้าไม่เก็บรักษาไว้ให้ดีก็ต้องถูกคนที่ได้ชื่อว่าน้าสาวปล้นไปอย่างหน้าด้านๆ
คนละแวกนั้นเขารู้หมดว่านิรดาลำบากและน่าสงสารมากแค่ไหน จะมีก็แต่น้าสาวกับน้าเขยแมงดาของเจ้าตัวนั่นแหละที่ไม่รู้
“งั้นก็โชคดีแล้วแหละที่พี่ไม่ทิ้งกระดาษแผ่นนี้” ใบบัวถอนหายใจโล่งอก นอกจากจะโล่งอกที่ไม่ทิ้งกระดาษโน้ตแผ่นนี้แล้วก็ยังโล่งอกที่ผู้ชายคนนั้นเอากระดาษโน้ตแผ่นนี้ให้เธอ เพราะถ้าคนที่ได้โน้ตแผ่นนี้คือหลิวพนักงานเสิร์ฟอีกคนของร้านนิรดาก็คงไม่มีโอกาสได้โน้ตแผ่นนี้รวมทั้งอาจจะถูกหลิวพูดแซะอีกด้วย
ด้วยความที่นิรดาเป็นน้องเล็กของร้าน พี่ๆหลายคนก็รักและเอ็นดูในความน่ารักความมีน้ำใจและความขยันของเด็กสาว ซึ่งแน่นอนว่าพอมีคนรักมากก็ย่อมมีคนเกลียดตามมา และคนที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบนิรดาก็คือหลิว
นิรดาหลุบตามองเลขสิบตัวบนกระดาษโน้ตก่อนจะเก็บมันเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำของตัวเอง
เธอรู้จักกับพชรวิชญ์เพราะเขาคือพี่ชายข้างบ้านของเธอ แม้ว่าบ้านเราสองคนจะอยู่ติดกันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านเราจะมีขนาดเท่ากัน บ้านของพี่พายหลังใหญ่กว่าบ้านเธอมาก บ้านเขาน่าจะหลังใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านเลยก็ว่าได้
เพราะบ้านอยู่ติดกันและเราสองคนก็อายุห่างกันไม่มาก พี่พายอายุมากกว่าเธอสามปีจึงทำให้เธอติดพี่พายมาก จะเรียกว่าตามติดเขาแจเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าพี่พายจะอยู่บ้านหรือไปเล่นกับเพื่อนๆที่สนามกีฬาเด็กที่อยู่กลางหมู่บ้านเธอก็จะตามเขาไปด้วยแทบทุกครั้ง
เมื่อไปถึงสนามกีฬาพี่พายก็จะไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆในสนาม ส่วนเธอก็จะนั่งเชียร์เขาอยู่ที่ข้างสนาม รอจนกระทั่งเขาเตะฟุตบอลเสร็จก็จะเดินมาเรียกเธอเพื่อกลับบ้านด้วยกัน
แต่ก็มีบ้างที่พี่พายไปที่สนามฟุตบอลโดยไม่รอเธอ เมื่อเธอรู้ก็จะรีบตามเขาไปทันที ไม่ได้น้อยใจที่เขาไม่ชวน และทุกครั้งที่พี่พายจะกลับบ้านเขาก็ไม่ลืมที่จะเดินเข้าไปหาเธอและเรียกเธอกลับบ้านด้วยกันทุกครั้ง
‘หนูนิ่ม กลับบ้านได้แล้ว’
“ค่า”
นั่นคือประโยคฮิตที่พี่พายใช้เรียกเธอ ส่วนเธอก็จะขานรับเสียงใส แล้วลุกขึ้นวิ่งไปหาเขาทันที
ถึงจะผ่านมาหลายปี นิรดาก็จำได้ว่าชีวิตในวัยเด็กของเธอเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากแค่ไหน