พายุพูดแค่นั้นก็เดินออกไปทันที มีเพียงทอรุ้งที่ยังนั่ง จมอยู่กับความคิด มากมายที่พี่ชายพูดมันก็ถูกต้องทุกอย่าง และความจริงใจของภูผาเธอก็เห็นไม่ใช่ไม่เห็น เธอรู้จักกับเขามานานทำไม่เธอจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง
“ หรือจะให้โอกาสเขาดี ” ปากเรียวพึมพำอยู่กับตัวเอง เมื่อเงยหน้าไปมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้ ใกล้เที่ยงคืนแล้วเลยตัดสินใจไปล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง กระบอกตาสวยนอนจ้องมองไปในความมืด…ไม่นานก็หลับไป
เช้าวันใหม่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของพายุ…
ทอรุ้งตื่นมาเช้านี้ไม่ค่อยสดใสเหมือนอย่างเคยอาจเพราะนอนดึกและมีเรื่องให้คิดเยอะ สองขาเรียวเดินลงบันไดจากชั้น 2 มาก็เห็นเข้ากับภูผาที่นั่งคุยอยู่กับพี่ชายและพี่สะใภ้ของตัวเอง
ภูผาที่เห็นคนตัวเล็กหน้าตาไม่สดใสแถมไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาอีก เลยรีบลุกเดินเข้าไปหาทันที
“ ตัวเล็กไม่สบายรึป่าว แล้ววันนี้ไม่มีเรียนเหรอ“ มือหนายกขึ้นมาทาบลงบนหน้าผากมนเบาๆ ทอรุ้งยืนมองคนพี่นิ่งด้านพายุและรินลดาก็นั่งมองทุกอย่างนิ่งๆ รินลดารู้เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่เมื่อคืนเพราะพายุเป็นคนเล่าทุกอย่างให้ฟังเอง
” รุ้งไม่ได้ป่วยค่ะ รุ้งสบายดีไปกันเลยมั้ยค่ะ“ เธอรู้อยู่แล้วว่าที่เขามาเขาก็มารับเธอนี่แหละ
ทั้งสองพากันมาขึ้นรถสปอร์ตคันหรูของภูผาแล้วขับออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ของพายุทันที ภายในห้องโดยสารมีเพียงความเงียบเข้ามาปกคลุมทั้งสองนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองจนเป็นทอรุ้งที่อึดอัดกับบรรยากาศนี้เลยเอ่ยทำลายความเงียบออกไป….
“ เฮียไปส่งรุ้งที่คอนโดนะคะ รุ้งมีเรียนบ่าย” จริงๆวันนี้เธอมีเรียนบ่ายแค่ชั่วโมงเดียวและไม่ใช่วิชาหลัก วันนี้มิ้งก็ลาด้วยเธอเลยกะว่าจะไปนอนเล่นที่คอนโด
” ไปอยู่ที่บริษัทกับเฮียได้ไหมครับ “ ภูผาเอ่ยถามออกไป ใจไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้วเพราะรู้ว่าสำหรับเธอเขาไม่ได้สำคัญอะไรเลย เมื่อเห็นอีกคนเงียบใบหน้าหล่อๆก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที
ภูผากลับมาตั้งใจขับรถต่อ ภายในห้องโดยสารมีเพียงความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้งจนในที่สุด…
“ ไปก็ได้ค่ะ ” ทอรุ้งที่เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของคนพี่ก็เอ่ยขึ้น ภูผาที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อยมันดีกว่าการที่เธอเอาแต่ปฏิเสธเขา
~ 35 นาที จากคฤหาสน์ของพายุ ~
ไม่นานทั้ง 2 ก็มาถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ มือหนาจูงมือเล็กเดินเข้าไปท่ามกลางสายตาพนักงานมากมายในช่วงเช้าเวลาก่อนเข้างานบรรดาพนักงานบ้างคนก็จับกลุ่มเมาท์กันบางคนก็นั่งกินกาแฟขนมเตรียมเข้างาน ทุกคนต่างจับจ้องมายังรองประธานบริษัทกับนักศึกษาสาววันนี้เป็นวันที่ 3 ที่ภูผาพาคนตัวเล็กมา ภูผาพาคนตัวเล็กเดินผ่านพนักงานเหล่านั้นตรงไปยังร้านกาแฟ
“ ตัวเล็กเอากาแฟมั้ยครับ เอาขนมมั้ย ” ทอรุ้งทำเพียงพยักหน้าให้เพราะเธอเขินมากกับสายตาของพนักงานที่มองมายังเธอไม่วางตา คนพี่ที่เห็นมีพนักงานชายกลุ่มนึงมองคนตัวเล็กของเขาตาเป็นมัน แขนแกร่งโอบไปที่เอวเล็กทันที
” เฮียไม่ได้ฉวยโอกาสนะ เฮียแค่ไม่ชอบที่ไอ้พวกเวนนั่นมันมองตัวเล็ก “ ภูผารีบหันมาบอกอีกคนทันที เพราะกลัวว่าเธอจะด่าหาว่าเขาฉวยโอกาสอีก
” รุ้งก็ไม่ได้ว่าอะไรนิค่ะ “ ภูผาที่ได้ยินประโยคนั้นพลันต้องก้มลงไปมองอีกคนที่วันนี้มาแปลกพูดง่าย ชวนมาด้วยก็มา
“ หึ ลดลงหน่อยได้มั้ยความสวย ความน่ารักเนี่ย ไปไหนมีแต่คนมอง ”
“ คุณภูผาคะ กาแฟได้แล้วค่ะ ” ภูผาไม่ทันได้พูดอะไรต่อพนักงานร้านกาแฟก็เรียกขึ้นซะก่อน พนักงานสาวร้านกาแฟได้แต่ลอบมองทอรุ้งอยู่บ่อยครั้ง เพราะภูผาไม่เคยพาใครมาเลยนี่ครั้งแรกที่ได้เห็น
ภูผาจัดการจ่ายค่ากาแฟและพาคนตัวเล็กเดินตรงไปขึ้นลิฟท์ทันที อิฐที่เห็นเจ้านายพาหญิงสาวมาอีกก็ได้แต่ยิ้มๆ
“ สวัสดีครับท่านรอง วันนี้ไม่งานด่วน ไม่มีประชุม เชิญท่านรองตามสบายครับ “
“ ตัวเล็กด่ามันหน่อย ” ภูผาหันมาใช้ให้ทอรุ้งด่าเพื่อนสนิทที่ชอบกวนตีนเขา
“ อย่าเลยครับ ด่านายของผมดีกว่าคนนั้นน่าด่ากว่าเยอะครับ ”
“ ได้ค่ะ เดี๋ยวรุ้งด่าให้นะคะ รุ้งชอบด่า ” ทอรุ้งรับคำอย่างว่าง่าย ภูผาได้แต่ชี้หน้าเพื่อนแล้วพาคนตัวเล็กเดินเข้าห้องทำงานไปทันที
ภูผาเดินไปนั่งทำงานเงียบๆที่โต๊ะทำงาน โดยมีทอรุ้งนั่งอยู่ที่โซฟา ใจก็อยากเดินไปแหย่ไปแกล้งแต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะรำคาญ จนกระทั่ง.
Rrrrrrr Rrrrrrrr…..
เสียงมือถือราคาแพงของภูผาดังขึ้น มือหนาหยิบมันมาดูและวางกลับที่เดิมเหมือนอย่างเช่นทุกวัน ตาคมที่เห็นคนตัวเล็กนั่งมองอยู่ก็หยิบมือถือราคาแพงเดินตรงไปหาอีกคนทันที
“ เขาจะโทรมาทุกวัน แต่เฮียไม่เคยรับจริงๆนะครับ เฮียเคยบล๊อกเขาไปหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ยังใช้เบอร์อื่นโทรมา ” ในเมื่อก่อนเขาเฉยๆมากแค่เขาไม่รับก็คือจบแต่วันนี้มันกลับรู้สึกกลัว กลัวว่าคนตรงหน้าจะเข้าใจผิด นี่แค่ยังไม่ได้ทำอะไรผิดอีกคนก็เฉยชาใส่จนเขาทำตัวแทบไม่ถูกแล้ว
“ รุ้งก็ไม่ได้ว่าอะไรนิค่ะ ” แขนแกร่งดึงคนตัวเล็กข้างๆเข้ามากอดแน่น เขาเหนื่อยใจเหลือเกินกับความนิ่งของเธอ เขาไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไง
“ ตัวเล็กจะด่า จะว่าอะไรเฮียก็ได้ครับแต่อย่าเย็นชาใส่กันแบบนี้ได้มั้ย อย่าทำแบบนี้ได้มั้ยครับ” น้ำเสียงขอร้องจนแทบจะร้องไห้ของคนพี่มันทำให้ทอรุ้งนิ่งไปทันที เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอเย็นชาใส่เขาขนาดนั้นเลยเหรอ
” เฮียทำตัวไม่ถูกแล้ว มองเฮียเป็นผู้ชายคนนึงที่พยามทำเพื่อให้ได้หัวใจของผู้หญิงคนนึงได้มั้ยครับ เฮียขอมากไปไหม ” เจ็บกว่าการไม่ได้เป็นแฟนกันก็คืออาการเย็นชาของเธอที่มีต่อเขานี่แหละ นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแย่กับตัวเองมากที่สุด แต่ถึงเธอจะไม่ตกลงเป็นแฟนกับเขาๆก็จะยังเอาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆเธอแบบนี้
ทอรุ้งได้แต่นั่งฟังสิ่งที่คนพี่พูดนิ่งๆในสมองก็คิดไปต่างๆนานา นึกถึงคำพูดของพี่ชายเมื่อคืนนี้แต่เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาเขาอีกแล้วความกลัวก็เกาะกินใจดวงน้อยขึ้นมาทันที
“ แค่ตัวเล็กยิ้มกับเฮียบ้าง พูดคุยกับเฮียบ้างแค่นี้เฮียก็ดีใจมากๆแล้วนะครับ ” กระบอกตาคมรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครเลย ที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้คืออะไรเขาก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าเหมือนมีอะไรบ้างอย่างรัดที่หัวใจจนเขารู้สึกอึดอัดไปหมด
^^