ใบหน้าหล่อๆของภูผามีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ดวงตาที่เคยเศร้าหมองกลับมาสดใสฉายแววความสุขขึ้นมาอีกครั้ง …
แขนแกร่งเดินโอบเอวเล็กออกจากร้านอาหารท่ามกลางสายตาพนักงานและลูกค้า รวมถึงน้ำหวานด้วยเช่นกัน หญิงสาวได้แต่นั่งหงุดหงิดหัวเสียที่ภูผากล้าหักหน้าเธอ
ภูผาเคยเห็นพายุหวานกับน้องสาวเขาอยู่บ่อยครั้ง ได้แต่คิดในใจกูคนนึงละไม่กล้าทำแบบนี้ในที่สาธารณะแน่ๆ อายเขาตายห่า มาวันนี้เจอเขากับตัวเองกลับไม่คิดอายใครเลย กลับกันเขาพร้อมทำทุกอย่างแล้วเพื่อ รัก คำเดียวเลยจริงๆ
ภูผาพาคนตัวเล็กเดินมาขึ้นสปอร์ตคันหรูแล้วขับออกจากร้านอาหารไปทันที มือหนากุมมือเรียวไว้แน่นมืออีกข้างก็บังคับพวงมาลัยรถอย่างระมัดระวัง รถวิ่งบนถนนสายหลักตรงไปยังห้างสรรพสินค้าหรูย่านใจกลางเมือง ช่วงเที่ยงๆของวันในห้างผู้คนค่อนข้างเยอะการมาของหนุ่มสาวเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี
หนุ่มนักธุรกิจชื่อดังร่างสูงโปร่งในชุดสูทดูดีเดินจับมือมากับสาวน้อยน่ารัก
“ แก่ นั่นใช่คุณภูผามั้ยที่ลงนิตยสารบ่อยๆนะ “
” ใช่ๆ ฉันชอบเขามากเลยนะ เขาคือผู้ชายในฝันฉันเลย “
” เขาเนี๊ยบมากเลยนะ หล่อเทห์มาก ฉันอ่านบทสัมภาษณ์เขาบ่อยๆ “
” อีกไม่นานเขาก็คงได้ขึ้นเป็นประธานบริษัทแน่ๆเลย ผู้หญิงคนนั้นคือแฟนเขารึป่าว “
” จะใช่เหรอ นั่นน้องสาวเจ้าของผับหรูคุณพายุนะ ฉันเคยเห็นภาพข่าวตอนคุณพายุแต่งงานแล้วภรรยาของคุณพายุก็น้องสาวคุณภูผานะ “
สองสาวสนทนากันอย่างออกรสออกชาติตามประสาคนตามข่าวสังคมคนดัง เสียงสนทนาของทั้งสองลอยตามลมมาให้ทอรุ้งได้ยิน…
“ ไปไหนมีแต่สาวๆรู้จักนะคะ ” จู่ๆคนตัวเล็กก็เอ่ยขึ้น สองเท้าหนาที่เดินอยู่หยุดชะงักไปทันที ตาคมหันไปมองคนตัวเล็กข้างๆนิ่ง เขาแค่จะสังเกตุสีหน้าของอีกคนว่าอยู่ในอารมณ์ไหน โกรธเขาอยู่รึป่าว ไม่พอใจเขาอยู่รึป่าว ทอรุ้งที่เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของคนพี่ก็ส่งยิ้มหวานๆกลับไปให้ ภูผาเหมือนยกภูเขาออกจากอกที่เห็นรอยยิ้มหวานๆนั้น มันเป็นรอยยิ้มที่เธอยิ้มให้กับทุกคนยกเว้นเขา และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอยิ้มให้เขาแบบนี้
แขนแกร่งดึงคนตัวเล็กเข้าไปกอดแน่นกลางห้างหรูต่อหน้าผู้คนมากมาย มือหนาลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆพร้อมเอ่ย…
“ คนเดียวที่เฮียอยากให้สนใจ คนเดียวที่เฮียอยากให้รู้จักเฮียมากที่สุด คือตัวเล็กนะครับ ” ทอรุ้งได้แต่อมยิ้มอยู่ในอ้อมกอดของเขา ภูผาผละกอดจากคนตัวเล็กแล้วพาเดินต่อไปยังร้านเพชรชื่อดังทันที ร้านเพชรที่ว่าก็คือร้านเพชรของแม่คนตัวเล็กนั่นเอง ….
“ สวัสดีค่ะคุณรุ้ง ” ผู้จัดการร้านที่เห็นทอรุ้งเดินเข้ามาก็รีบปรี่ไปทักทายทันที สายตาจ้องมองไปยังชายหนุ่มนักธุรกิจคนดังที่จับมือลูกสาวคนเล็กของเจ้านายเธอเข้ามาด้วย พนักงานในร้านต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่กไปหมด
“ เออ … คุณรุ้งมาดูบัญชีร้านเหรอค่ะ ” ผู้จัดการที่เห็นลูกสาวเจ้าของร้านมาก็คิดเข้าใจว่าคงมาดูบัญชีร้านแน่ๆ
“ อะ ออ ป่าวค่ะ … เฮียมาทำไมค่ะ ” ทอรุ้งเงยหน้าไปถามคนพี่ขึ้นเธอเองก็สงสัยเขามาทีนี่ทำไมกัน
“ ขอดูสร้อยเพชรครับ ”
“ อะ อ๋อ ได้ค่ะ เชิญคุณลูกค้ากับคุณรุ้งนั่งรอด้านนี้สักครู่นะคะ ” ผู้จัดการร้านรีบพาทั้งสองไปนั่งรอและเดินไปหยิบสร้อยเพชรหลายเส้นมาให้ภูผาเลือก
“ คุณลูกค้าเลือกดูนะคะมีเส้นไหนถูกใจรึป่าวค่ะ เออ….ซื้อให้แฟนหรือว่าให้ใครค่ะ “ ผู้จัดการร้านถามออกไปเพราะจะได้หาในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
“ แฟนครับ ” ตาคมจ้องมองไปยังทอรุ้งนิ่งๆ แต่หญิงสาวก็ไม่พูดไม่เอ่ยอะไรออกมา
“ อ๋อ งั้นดูแบบนี้มั้ยค่ะ ” ผู้จัดการร้านหยิบสร้อยเพชรเส้นเล็กๆประดับด้วยจี้รูปหัวใจ ภูผาได้แต่มองสร้อยที มองคนตัวเล็กที มือหนาหยิบมันมาใส่ให้ทอรุ้งทันที สร้อยเพชรเมื่อประดับอยู่บนลำคอระหงมันสวยงามเอามากๆ
“ เหมาะกับคุณรุ้งมากเลยค่ะ ” ผู้จัดการร้านรีบเอ่ยชมขึ้นทันที
“ ของขวัญนะคะ ขอบคุณสำหรับวันนี้ ขอเฮียเข้าไปอยู่ในนี้นะคะ ” นิ้วแกร่งจิ้มไปยังหน้าอกข้างซ้ายของคนตัวเล็กพร้อมส่งรอยยิ้มหล่อกระชากใจสาวไปยังคนตัวเล็กตรงหน้า ใบหน้าขาวนวลของทอรุ้งขึ้นสีแดงระเรื่อทันที ผู้จัดการร้านที่นั่งอยู่ด้วยเขิลจนตัวบิด
“ ไม่เห็นต้องซื้อให้เลยค่ะ รุ้งไม่ได้อยากได้อะไรจากเฮียเลยค่ะ “ ทอรุ้งเอ่ยบอกออกไป เธอทั้งเขินเขา ทั้งอายพนักงานและลูกค้าในร้าน ภูผาที่เห็นแก้มนวลแดงไปหมดก็นึกเอ็นดูอยู่ไม่น้อย
” แต่เฮียอยากให้นะคะ ใส่มันไว้อย่าถอดมันคือตัวแทนของเฮียๆจะอยู่ตรงนี้เสมอ “ นิ้วแกร่งชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายของทอรุ้งอีกครั้ง พนักงานที่ยืนมองเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่แทบยืนไม่ติดที่อยากจะวิ่งออกไปกรี๊ดดังๆหน้าร้าน
” ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ครั้งก่อนคุณพายุควงคุณรินมาซื้อ ครั้งนี้หนุ่มหล่อนักธุรกิจคนดังควงคุณรุ้งมาซื้อ ทำบุญด้วยอะไรกัน ฉันอิจฉาเจ้านายไม่ไหวแล้ว “
” นั่นสิ เขาทำบุญด้วยอะไรมา “ พนักงานสาวสองคนยืนกระชิบกระชาบคุยกัน กระทั่ง…
แกร๊ก…..
เสียงประตูห้องทำงานในร้านเพชรถูกเปิดออกมาตามด้วยร่างหนาของสายลมที่หอบหิ้วเอกสารออกมามากมาย สายลมที่เห็นทอรุ้งนั่งอยู่กับภูผาก็ได้แต่ทำหน้า งง ๆ
“ เฮีย รุ้ง ไปไหนกันเหรอ ” สายลมที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเอ่ยถามขึ้น ตาคมทอดมองไปยังสร้อยเพชรหลายเส้นที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าพี่ชายอีกคนและน้องสาวของเขา คิ้วคมขมวดเข้าหากันทันที
“ พี่ลมมาเอาเอกสารให้คุณแม่เหรอค่ะ ” ทอรุ้งที่เห็นพี่ชายถือเอกสารออกมาก็เอ่ยถามขึ้น
“ ใช่ ว่าแต่สองคน….. ” สายลมหยุดคำพูดไว้แค่นั้นแล้วมองหน้าภูผาที น้องสาวตัวเองทีอย่างไม่เข้าใจ
“ ไม่เสือกสักเรื่องได้มั้ยครับ ” ภูผาหันไปพูดยิ้มๆกับสายลม
“ เห้ย ! อย่าบอกนะว่าเฮียจะมาเป็นน้องเขยผม ” สายลมเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นของภูผาก็ร้องเสียงหลงออกมาทันที สายลมตั้งท่าจะเดินไปจับแขนน้องสาวเพื่อถามในสิ่งที่ตนอยากรู้แต่แล้ว…
เพี๊ยะ !!!
มือหนาของภูผาฟาดไปแรงๆบนมือสายลม พร้อมส่งสายตาเอาเรื่องจนสายลมหลุดหัวเราะออกมา
“ ห้ามจับ สงสัยอะไรถามกูครับ ” ภูผาบอกสายลมออกไป
“ แต่…. นั่นน้องสาวผมนะเฮีย “
” น้องใครกูไม่สน คนนี้ของกู “
ฮ่า ~ ฮ่า ~ ฮ่า
สายลมระเบิดหัวเราะเสียงดังออกมาทันที การกระทำของภูผาทำให้เขานึกไปถึงพี่ชายของเขาคือ พายุนั่นเอง
” เฮีย ไปว่าพี่พายุไว้เยอะ เวรกรรมตามทันปะเนี่ย“ ภูผาที่ได้ยินประโยคนั้นของสายลมทำหน้าเลิ่กลั่กขึ้นทันที เขาลืมตัว ลืมไปหมดทุกอย่าง
” kวย ระวังแต่มึงเถอะ “ ภูผาเมื่อรู้ตัวก็ด่าสายลมออกไปทันที ภูผาจัดการชำระค่าสินค้าและจูงมือคนตัวเล็กเดินออกจากร้านไป ทิ้งให้สายลมยืนยิ้มอยู่คนเดียว สายลมสนิทกับภูผามากและสายลมก็ชอบภูผามากเช่นกัน ทั้งสองนัดเจอกันบ่อยครั้งและคุยกันถูกคอเป็นอย่างมาก มาวันนี้เห็นภูผากับน้องสาวของตัวเองก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะทุกคนมองออกกันนานแล้วว่าภูผามักจะแหย่ จะแกล้งทอรุ้งอยู่บ่อยครั้งต่างจากคนอื่นๆในกลุ่ม
มือหนาของสายลมล้วงมือถือราคาแพงในกระเป๋ากางเกงกดโทรออกทันที ในใจคิดเรื่องนี้ต้องขยาย
^^