~ เช้าวันใหม่ ภายในบ้านพักของดินแดน ~
คนที่เพิ่งตื่นนอนอาบน้ำแต่งตัวสาวเท้าลงมาจากชั้น 2 ของบ้านเพื่อเตรียมตัวไปทำงานอย่างเช่นทุกวัน
“ นายครับทำไม… ” ภูมิเอ่ยถามเมื่อเห็นสภาพนายเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน
“ กูนอนไม่หลับ ไอ้เหี้ยปวดหัวชิบหาย ” มือหนายกขึ้นมาคลึงๆนวดๆที่ขมับตัวเองกว่าเขาจะได้ขึ้นไปนอนก็เกือบเช้าของอีกวันในสมองมันมีแต่ภาพน้ำมนต์จนทำให้เขานอนไม่หลับ
“ นายเครียดเรื่องที่จะต้องแต่งงานเหรอครับ” ภูมิเอ่ยถามอย่างนึกเป็นห่วง
“ ไม่ แม่ให้แต่งกูก็จะแต่ง ” ดินแดนเอ่ยบอกภูมิ เพราะเขารู้ดีว่ายังไงพ่อกับแม่ก็ต้องไม่ยอม
“ ก็ดีงั้นวันนี้ลูกไปรับหนูน้ำมนต์พาน้องไปบริษัทด้วย ” ดินแดนรีบหันไปมองตามเสียงก็เห็นผู้เป็นแม่เดินเข้ามาในบ้าน
” ทำไมต้องพาไป ? “ ดินแดนเอ่ยถามด้วยความสงสัยแค่ให้แต่งงานด้วยก็แย่พอทนนี่ให้พาไปบริษัทด้วย คืออะไร
” พาน้องไปทุกคนในบริษัทจะได้รู้จักน้อง “
” จะต้องรู้จักทำไมครับ พาไปทำอะไรก็ไม่เป็นพาไปก็เป็นภาระเกะกะ “ ดวงตาที่เริ่มเหี่ยวย่นจ้องมองลูกชายอย่างเอาเรื่องทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“ ครับ ครับ ครับ เดี๋ยวผมไปรับเลย “ ดินแดนรีบเอ่ยขึ้นเมื่อสีหน้าผู้เป็นแม่เปลี่ยนไป ร่างหนารีบเดินผ่านหน้าแม่ออกไปด้วยความไม่เต็มใจ
“ แม่ไปรอที่บริษัทนะดิน! ” ไม่วายตะโกนตามหลังลูกชายออกไปด้วยรอยยิ้ม
“ คุณหญิงว่าจะดีเหรอครับ ? ” ภูมิที่ยืนอยู่เอ่ยถามคุณหญิงอย่างนึกเป็นห่วง
“ เรื่อง ? ”
“ ก็เรื่องที่จะให้นายแต่งงาน ”
“ ดีสิ หนูน้ำมนต์น่ารักจะตายไปสักวันเจ้าดินจะต้องหลงรักเชื่อฉัน ” คุณหญิงเอ่ยบอกและเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ทันที ก่อนมาเธอโทรหาลูกชายหลายต่อหลายครั้งแต่เจ้าลูกชายตัวดีก็ปิดมือถือไม่ยอมเปิดเธอเลยต้องตามมาถึงนี่
“ เฮ้อ…กว่าจะหลงรักจะฆ่ากันตายก่อนไหมวะ ” ภูมิถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะเขารู้จักนิสัยเอาแต่ใจ ไม่ยอมใครของนายตัวเองดี
รถสปอร์ตคันหรูขับมาด้วยความเร็วสูงมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านน้ำมนต์เพื่อมารับหญิงสาวตามคำสั่งผู้เป็นแม่ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งตึงเป็นอย่างมากและทั้งยังนึกโมโหน้ำมนต์ที่เหมือนเป็นภาระให้กับเขา
เอี๊ยด!
รถหรูขับเขามาจอดยังโรงรถของบ้านคิ้วคมขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นที่จอดรถว่างราวกับไม่มีคนอยู่ สองขาแกร่งสาวเท้าเดินลงจากรถ
“ มาทำไมวะ ” กรเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นอดีตเพื่อนเดินหน้าตึงเข้ามา
“ ทำเหมือนกูอยากมา ”
“ ไม่อยากมามึงก็กลับไปดิวะ ใครเชิญ ” กรเอ่ยไล่ออกไปทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้นของดินแดน
“ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่บังคับให้กูมารับน้องมึงกูก็คงไม่มาเหยียบ “
” รับไปไหน “ กรเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อมันเกี่ยวข้องกับน้องสาวเขา
” ไปบริษัท ไปตามน้องมึงมากูไม่อยากเสียเวลารอ“ ดินแดนเอ่ยขึ้นมันบอกให้กรรู้ว่าอีกคนฝืนใจเป็นอย่างมากที่ต้องมารับน้องสาวของเขา
” ไอ้กร ทำไมตอนเรียนมึงไม่เคยบอกใครเลยวะว่ามีน้องสาว “ ดินแดนที่ยังไม่ละทิ้งความสงสัยเอ่ยถามกรออกไป
” ทำไมกูต้องบอก “ กรเลิกคิ้วถามคนตรงหน้าอย่างต้องการคำตอบ ดินที่เห็นคนตรงหน้าแสดงสีหน้ากวนๆก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
” กับอีกแค่ไม่มีเงินมาจ่ายหนี้บ้านกูถึงกับต้องยกน้องมึงให้มาแต่งงานกับกูเลยเหรอวะ “
ขวับ!
กรหันขวับไปมองยังอดีตเพื่อนทันที่ตาคมดำขลับลงไปใจในใจพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ทำรุนแรงกับคนตรงหน้า…
” มึงควรไปทบทวนความเข้าใจของมึงซะใหม่นะไอ้ดิน บ้านกูเหรอจะไปเป็นหนี้บ้านมึงเข้าใจผิดมึงก็ไปเข้าใจซะใหม่ “ นิ้วแกร่งชี้หน้าดินพลางเอ่ยบอกออกไปอย่างเหลืออด
” มึงก็บอกกูดิวะว่ากูเข้าใจอะไรผิด “ ดินแดนเอ่ยถามเมื่อคำพูดของคนตรงหน้าคล้ายๆกับคำพูดของพ่อเขาไม่มีผิด
” ถึงเวลานี้มึงก็ไม่ควรต้องรับรู้อะไรแล้วคนหัวดื้ออย่างมึงจะยอมรับฟังใครได้วะ ถ้าเขาอยากบอกคุณลุงกับคุณป้าเขาคงบอกมึงนานแล้ว มึงไม่รู้อะไรก็ดีเหมือนกันเพราะสักวันอดีตจะคือบทเรียนที่สั่งสอนมึงเอง “ กรเอ่ยบอกแล้วกันหลังจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน
” พี่กร ไปค่ะน้ำมนต์เสร็จแล้ว “ เสียงใสของน้ำมนต์เอ่ยเรียกพี่ชายเสียงดังมาจากด้านในก่อนจะวิ่งมาหาพี่ชายที่ยืนอยู่หน้าบ้าน เท้าเรียวต้องหยุดฝีเท้าของตัวเองลงทันทีเมื่อเห็นดินแดนยืนอยู่กับพี่ชายด้วย
” พี่ดินแดน สวัสดีค่ะ “ มือเรียวยกมือขึ้นไหว้คนตรงหน้าอย่างมีมารยาท
” เราจะไปกันเลยไหมคะ “ น้ำมนต์ไม่คิดจะสนใจดินแดนหันไปเอ่ยถามพี่ชายด้วยรอยยิ้ม
” เธอจะไปไหนแม่ให้ฉันมารับเธอไปบริษัท“ ดินแดนเอ่ยถามน้ำมนต์
” วันนี้น้องกูจะต้องไปหาหมอคงไปกับมึงไม่ได้”
“ เป็นอะไรต้องไปหาหมอ ” เป็นอีกครั้งที่ดินแดนเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย
“ ไม่ใช่เรื่องของมึง ”
“ แต่แม่ให้กูมารับยัยนี่ ถ้ามึงไม่บอกก็ไม่ต้องไปหาหมอ ไปบริษัทกับกู ”
“ กะ…. ”
“ ไม่เป็นไรค่ะพี่กรน้ำมนต์ยังมียาน้ำมนต์กินยาไปแล้วอาการก็ดีขึ้นแล้วค่ะ อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ“ แขนเรียวกอดรอบเอวสอบของพี่ชายก่อนจะเงยหน้าไปบอกผู้เป็นพี่ เธอไม่อยากให้พี่ชายต้องอารมณ์เสียและไม่อยากให้ทั้งสองต้องทะเลาะกัน ดินแดนได้ยืนมองอีกคนที่ออดอ้อนพี่ชายนิ่ง ก่อนจะชักสายตาหันไปมองทางอื่น
“ หายแล้วแน่นะน้ำมนต์ ” มือหนาอังไปที่หน้าฝากน้องเพื่อเช็คอุณหภูมิ
“ หายแล้วตัวไม่ร้อนแล้วเห็นไหมคะ พี่กรไปทำงานเถอะเดี๋ยวน้ำมนต์ไปหาคุณป้ากับพี่ดินแดน ”
” ก็ได้ งั้นเดี๋ยวเลิกงานพี่รีบไปรับ “ มือหนาลูบไปที่เรือนผมของน้องสาวเบาๆพลางเอ่ยบอกออกไป
” ค่ะ “
“ อย่าให้กูรู้ว่ามึงรังแกน้องกู ” กรเอ่ยบอกดินแดนด้วยความเป็นห่วงน้อง อีกคนก็เอาแต่เงียบใส่ไม่เอ่ยหรือพูดอะไรออกมา
ใบหน้านวลสวยหันไปมองยังดินแดนเพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธอพร้อมไปกับเขาแล้ว ดินแดนไม่คิดจะเอ่ยพูดอะไรสาวเท้าเดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่ทันที น้ำมนต์ได้แต่เดินตามหลังคนพี่มาเงียบ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อกลิ่นน้ำหอมของคนตรงหน้าลอยตามลมมาเข้าจมูกเธอ
” กลิ่นคุ้นๆ ได้กลิ่นที่ไหนนะ “ เรียวปากสวยเอ่ยพึมพำออกมาเบาๆแต่เบาของเธอทำให้คนหูดีด้านหน้าได้ยิน ดินแดนรู้ว่าน้ำมนต์ต้องได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาในคืนนั้นที่ผับที่เธอเดินชนเขาแน่นอน
ทั้งสองขึ้นมานั่งประจำที่บนรถสปอร์ตหรูดินแดนไม่รอช้ารีบขับรถออกจากบ้านน้ำมนต์ไปทันที เขาไม่เอ่ยถามคนด้านข้างสักคำว่าป่วยเป็นอะไร ไหวรึป่าว แต่ต่อให้เธอไม่ไหวมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องสนใจ
^^