ภาระ

1352 Words
~ เช้าวันใหม่ ภายในบ้านพักของดินแดน ~ คนที่เพิ่งตื่นนอนอาบน้ำแต่งตัวสาวเท้าลงมาจากชั้น 2 ของบ้านเพื่อเตรียมตัวไปทำงานอย่างเช่นทุกวัน “ นายครับทำไม… ” ภูมิเอ่ยถามเมื่อเห็นสภาพนายเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน “ กูนอนไม่หลับ ไอ้เหี้ยปวดหัวชิบหาย ” มือหนายกขึ้นมาคลึงๆนวดๆที่ขมับตัวเองกว่าเขาจะได้ขึ้นไปนอนก็เกือบเช้าของอีกวันในสมองมันมีแต่ภาพน้ำมนต์จนทำให้เขานอนไม่หลับ “ นายเครียดเรื่องที่จะต้องแต่งงานเหรอครับ” ภูมิเอ่ยถามอย่างนึกเป็นห่วง “ ไม่ แม่ให้แต่งกูก็จะแต่ง ” ดินแดนเอ่ยบอกภูมิ เพราะเขารู้ดีว่ายังไงพ่อกับแม่ก็ต้องไม่ยอม “ ก็ดีงั้นวันนี้ลูกไปรับหนูน้ำมนต์พาน้องไปบริษัทด้วย ” ดินแดนรีบหันไปมองตามเสียงก็เห็นผู้เป็นแม่เดินเข้ามาในบ้าน ” ทำไมต้องพาไป ? “ ดินแดนเอ่ยถามด้วยความสงสัยแค่ให้แต่งงานด้วยก็แย่พอทนนี่ให้พาไปบริษัทด้วย คืออะไร ” พาน้องไปทุกคนในบริษัทจะได้รู้จักน้อง “ ” จะต้องรู้จักทำไมครับ พาไปทำอะไรก็ไม่เป็นพาไปก็เป็นภาระเกะกะ “ ดวงตาที่เริ่มเหี่ยวย่นจ้องมองลูกชายอย่างเอาเรื่องทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น “ ครับ ครับ ครับ เดี๋ยวผมไปรับเลย “ ดินแดนรีบเอ่ยขึ้นเมื่อสีหน้าผู้เป็นแม่เปลี่ยนไป ร่างหนารีบเดินผ่านหน้าแม่ออกไปด้วยความไม่เต็มใจ “ แม่ไปรอที่บริษัทนะดิน! ” ไม่วายตะโกนตามหลังลูกชายออกไปด้วยรอยยิ้ม “ คุณหญิงว่าจะดีเหรอครับ ? ” ภูมิที่ยืนอยู่เอ่ยถามคุณหญิงอย่างนึกเป็นห่วง “ เรื่อง ? ” “ ก็เรื่องที่จะให้นายแต่งงาน ” “ ดีสิ หนูน้ำมนต์น่ารักจะตายไปสักวันเจ้าดินจะต้องหลงรักเชื่อฉัน ” คุณหญิงเอ่ยบอกและเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ทันที ก่อนมาเธอโทรหาลูกชายหลายต่อหลายครั้งแต่เจ้าลูกชายตัวดีก็ปิดมือถือไม่ยอมเปิดเธอเลยต้องตามมาถึงนี่ “ เฮ้อ…กว่าจะหลงรักจะฆ่ากันตายก่อนไหมวะ ” ภูมิถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะเขารู้จักนิสัยเอาแต่ใจ ไม่ยอมใครของนายตัวเองดี รถสปอร์ตคันหรูขับมาด้วยความเร็วสูงมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านน้ำมนต์เพื่อมารับหญิงสาวตามคำสั่งผู้เป็นแม่ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งตึงเป็นอย่างมากและทั้งยังนึกโมโหน้ำมนต์ที่เหมือนเป็นภาระให้กับเขา เอี๊ยด! รถหรูขับเขามาจอดยังโรงรถของบ้านคิ้วคมขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นที่จอดรถว่างราวกับไม่มีคนอยู่ สองขาแกร่งสาวเท้าเดินลงจากรถ “ มาทำไมวะ ” กรเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นอดีตเพื่อนเดินหน้าตึงเข้ามา “ ทำเหมือนกูอยากมา ” “ ไม่อยากมามึงก็กลับไปดิวะ ใครเชิญ ” กรเอ่ยไล่ออกไปทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้นของดินแดน “ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่บังคับให้กูมารับน้องมึงกูก็คงไม่มาเหยียบ “ ” รับไปไหน “ กรเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อมันเกี่ยวข้องกับน้องสาวเขา ” ไปบริษัท ไปตามน้องมึงมากูไม่อยากเสียเวลารอ“ ดินแดนเอ่ยขึ้นมันบอกให้กรรู้ว่าอีกคนฝืนใจเป็นอย่างมากที่ต้องมารับน้องสาวของเขา ” ไอ้กร ทำไมตอนเรียนมึงไม่เคยบอกใครเลยวะว่ามีน้องสาว “ ดินแดนที่ยังไม่ละทิ้งความสงสัยเอ่ยถามกรออกไป ” ทำไมกูต้องบอก “ กรเลิกคิ้วถามคนตรงหน้าอย่างต้องการคำตอบ ดินที่เห็นคนตรงหน้าแสดงสีหน้ากวนๆก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา ” กับอีกแค่ไม่มีเงินมาจ่ายหนี้บ้านกูถึงกับต้องยกน้องมึงให้มาแต่งงานกับกูเลยเหรอวะ “ ขวับ! กรหันขวับไปมองยังอดีตเพื่อนทันที่ตาคมดำขลับลงไปใจในใจพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ทำรุนแรงกับคนตรงหน้า… ” มึงควรไปทบทวนความเข้าใจของมึงซะใหม่นะไอ้ดิน บ้านกูเหรอจะไปเป็นหนี้บ้านมึงเข้าใจผิดมึงก็ไปเข้าใจซะใหม่ “ นิ้วแกร่งชี้หน้าดินพลางเอ่ยบอกออกไปอย่างเหลืออด ” มึงก็บอกกูดิวะว่ากูเข้าใจอะไรผิด “ ดินแดนเอ่ยถามเมื่อคำพูดของคนตรงหน้าคล้ายๆกับคำพูดของพ่อเขาไม่มีผิด ” ถึงเวลานี้มึงก็ไม่ควรต้องรับรู้อะไรแล้วคนหัวดื้ออย่างมึงจะยอมรับฟังใครได้วะ ถ้าเขาอยากบอกคุณลุงกับคุณป้าเขาคงบอกมึงนานแล้ว มึงไม่รู้อะไรก็ดีเหมือนกันเพราะสักวันอดีตจะคือบทเรียนที่สั่งสอนมึงเอง “ กรเอ่ยบอกแล้วกันหลังจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ” พี่กร ไปค่ะน้ำมนต์เสร็จแล้ว “ เสียงใสของน้ำมนต์เอ่ยเรียกพี่ชายเสียงดังมาจากด้านในก่อนจะวิ่งมาหาพี่ชายที่ยืนอยู่หน้าบ้าน เท้าเรียวต้องหยุดฝีเท้าของตัวเองลงทันทีเมื่อเห็นดินแดนยืนอยู่กับพี่ชายด้วย ” พี่ดินแดน สวัสดีค่ะ “ มือเรียวยกมือขึ้นไหว้คนตรงหน้าอย่างมีมารยาท ” เราจะไปกันเลยไหมคะ “ น้ำมนต์ไม่คิดจะสนใจดินแดนหันไปเอ่ยถามพี่ชายด้วยรอยยิ้ม ” เธอจะไปไหนแม่ให้ฉันมารับเธอไปบริษัท“ ดินแดนเอ่ยถามน้ำมนต์ ” วันนี้น้องกูจะต้องไปหาหมอคงไปกับมึงไม่ได้” “ เป็นอะไรต้องไปหาหมอ ” เป็นอีกครั้งที่ดินแดนเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย “ ไม่ใช่เรื่องของมึง ” “ แต่แม่ให้กูมารับยัยนี่ ถ้ามึงไม่บอกก็ไม่ต้องไปหาหมอ ไปบริษัทกับกู ” “ กะ…. ” “ ไม่เป็นไรค่ะพี่กรน้ำมนต์ยังมียาน้ำมนต์กินยาไปแล้วอาการก็ดีขึ้นแล้วค่ะ อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ“ แขนเรียวกอดรอบเอวสอบของพี่ชายก่อนจะเงยหน้าไปบอกผู้เป็นพี่ เธอไม่อยากให้พี่ชายต้องอารมณ์เสียและไม่อยากให้ทั้งสองต้องทะเลาะกัน ดินแดนได้ยืนมองอีกคนที่ออดอ้อนพี่ชายนิ่ง ก่อนจะชักสายตาหันไปมองทางอื่น “ หายแล้วแน่นะน้ำมนต์ ” มือหนาอังไปที่หน้าฝากน้องเพื่อเช็คอุณหภูมิ “ หายแล้วตัวไม่ร้อนแล้วเห็นไหมคะ พี่กรไปทำงานเถอะเดี๋ยวน้ำมนต์ไปหาคุณป้ากับพี่ดินแดน ” ” ก็ได้ งั้นเดี๋ยวเลิกงานพี่รีบไปรับ “ มือหนาลูบไปที่เรือนผมของน้องสาวเบาๆพลางเอ่ยบอกออกไป ” ค่ะ “ “ อย่าให้กูรู้ว่ามึงรังแกน้องกู ” กรเอ่ยบอกดินแดนด้วยความเป็นห่วงน้อง อีกคนก็เอาแต่เงียบใส่ไม่เอ่ยหรือพูดอะไรออกมา ใบหน้านวลสวยหันไปมองยังดินแดนเพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธอพร้อมไปกับเขาแล้ว ดินแดนไม่คิดจะเอ่ยพูดอะไรสาวเท้าเดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่ทันที น้ำมนต์ได้แต่เดินตามหลังคนพี่มาเงียบ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อกลิ่นน้ำหอมของคนตรงหน้าลอยตามลมมาเข้าจมูกเธอ ” กลิ่นคุ้นๆ ได้กลิ่นที่ไหนนะ “ เรียวปากสวยเอ่ยพึมพำออกมาเบาๆแต่เบาของเธอทำให้คนหูดีด้านหน้าได้ยิน ดินแดนรู้ว่าน้ำมนต์ต้องได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาในคืนนั้นที่ผับที่เธอเดินชนเขาแน่นอน ทั้งสองขึ้นมานั่งประจำที่บนรถสปอร์ตหรูดินแดนไม่รอช้ารีบขับรถออกจากบ้านน้ำมนต์ไปทันที เขาไม่เอ่ยถามคนด้านข้างสักคำว่าป่วยเป็นอะไร ไหวรึป่าว แต่ต่อให้เธอไม่ไหวมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องสนใจ ^^
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD