อดีต

1506 Words
“ ฉันขี้เกียจมานั่งอธิบายกับคนหัวดื้ออย่างแกอีกแล้ว อย่างเดียวที่แกต้องทำคือแต่งงานกับหนูน้ำมนต์แล้วอย่าลืมกลับไปคิดทบทวนทุกอย่างดูให้ดีๆแกรู้ทุกอย่างอยู่แก่ใจ “ ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกลูกชายของตัวเองออกไป นั่นยิ่งทำให้ดินแดนสงสัยหนักเข้าไปใหญ่ เพราะความดื้อรั้น เอาแต่ใจ และมีแนวคิดแบบฝรั่งมันเลยทำให้ดินแดนไม่ฟังใคร เขาอิสระทางความคิด การใช้ชีวิตมาโดยตลอดทำให้ผู้เป็นพ่อกับแม่เบื่อที่จะพูดคุยกับลูกชายตัวเองเต็มแก่ ~ ย้อนกลับไปหลังจากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายกับปู่ภาคิน ~ @วัดแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง งานศพของปู่ภาคินถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติโดยมีท่านเตโชเป็นคนดำเนินการทุกอย่างให้เพื่อนเพียงคนเดียวของเขา ผู้คนหลังไหลกันมาร่วมแสดงความเสียใจอย่างหนาแน่นทุกคืน หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นภายในงานมีบอดี้การ์ดนับร้อยชีวิตคอยดูแลความปลอดภัยให้กับทายาทตระกูลมาเฟียนั่นคือ ดินแดน และมันก็เป็นช่วงเวลาเดี๋ยวกันกับที่ดินแดนจะต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเตรียมตัวเข้าศึกษาในชั้นอนุบาล “ ปู่คินครับ ดินจะต้องเดินทางแล้วดินโตดินจะกลับมาแต่งงานกับน้องนะครับ ” ร่างเล็กของเด็กชายในวัย 2 ขวบปลายๆ เดินไปนั่งหน้าหีบศพของปู่อีกคนของเขา พลางเอ่ยบอกออกไปโดยที่ไม่มีใครใช้ให้เขาพูดแบบนี้ เป็นดินแดนเองที่ไปพูดไปให้คำมั่นสัญญากับร่างไร้วิญญาณของปู่ “ ลูกผู้ชาย คำพูดสำคัญนะดิน ” ท่านเตโชที่อยู่ในเหตุการณ์เอ่ยพูดกับหลานชายออกไป เพราะเขาเองจะดีใจมากถ้าหากหลายชายเพียงคนเดียวของเขาทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ได้ “ ครับ ดินจำได้แต่ปู่ครับดินต้องไปเรียนนานไหม ขอดินเรียนที่นี่ได้ไหมครับ ” หลานชายที่ต้องห่างอกพ่อและปู่เอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล คุณหญิงกาญจนาจะเดินทางไปอยู่กับลูกชายแค่ระยะนึงเท่านั้นเมื่อลูกปรับตัวกับทุกอย่างได้ลูกน้องคนสนิทนั่นคือ ภูมิ ที่ในตอนนั้นมีอายุเพียง 7 ขวบปรับตัวได้ก็ต้องรับหน้าที่ดูแลดินแดนต่อจากคุณหญิงกาญจนา “ เพื่อความปลอดภัยของดิน ปู่จำเป็นต้องส่งดินไปเรียนต่างประเทศที่นั่นจะปลอดภัย เมื่อถึงเวลาสมควรดินจะได้กลับมานะลูก ” ผู้เป็นปู่เอ่ยบอกหลานชายขึ้นอีกครั้ง เพราะเหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาคนกระทำตั้งใจเก็บทั้งเขาและหลานเพียงคนเดียวของเขาๆจึงยอมไม่ได้ที่จะให้ดินแดนเป็นอะไรขึ้นมาอีกคน “ แต่ถ้าน้องคลอดออกมาดินก็จะไม่ได้เจอน้อง ” “ ดินตั้งใจเรียน เรียนให้จบกลับมาดินจะได้เจอน้องนะลูกยังมีเวลาอีกหลายปีระหว่างนี้ก็แยกย้ายกันไปเติบโต ” ท่านเตโชเอ่ยบอกหลานชายขึ้นอีกครั้ง “ ครับ งั้นดินขอไปหากรก่อนนะครับ ” เด็กน้อยสาวเท้าเดินออกไปจากปู่ไปหากรเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาในตอนนั้นด้วยรอยยิ้ม “ กร ! ” “ อือ ดินมีอะไร ? ” “ กร เราจะต้องไปต่างประเทศแล้วเราฝากนายดูแลน้องก่อนเดี๋ยวเรากลับมาเราจะมาแต่งงานกับน้อง ” ดินแดนเอ่ยบอกตามประสาเด็กน้อยและตามความเข้าใจของเขาเองซึ่งมัน ‘ ตรงกับความต้องการของผู้ใหญ่ ’ อย่างท่านเตโช “ อือ โชคดีนะดิน ” กรเอ่ยบอกเพื่อนด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเพราะทั้งสองอายุเท่ากันเล่นด้วยกันทุกวันในตอนนั้นบ้านของทั้งสองอยู่ติดกันมันเลยทำให้เด็กน้อยได้เจอกันทุกวัน “ คุณดินครับ นายใหญ่ให้มาตามถึงว่าแล้วครับ ” ชายฉกรรจ์ที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงและครูฝึกวิชาต่อสู้เดินมาเรียกดินแดน มือเล็กๆยกมือขึ้นบ๊ายบายกรและสาวเท้าเดินออกไปมีเพียงกรที่ยังยืนมองเพื่อนเดินจากไปจนสุดสายตา ~ 50 นาทีต่อมา ~ @สนามบิน ร่างเล็กของเด็กชายวัย 2 ขวบปลายๆที่มีรูปร่างสูงกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันอยู่มากเดินไปกับผู้เป็นแม่ในมือเล็กถือพาสปอร์ตเดินตรงไปยังเคาท์เตอร์เช็คอินของสายการบินชื่อดังพนักงานรีบจัดการทุกอย่างให้ไม่นานก็เสร็จ ดินแดนจะถูกสอนให้ช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งแต่ที่เขาเริ่มเข้าใจภาษาโดยมีกรที่คอยเรียนรู้ไปพร้อมๆกับเขา @เลาจน์ (Lounge) ร่างเล็กของเด็กวัย 2 ขวบปลายๆนั่งพักผ่อนอยู่กับผู้เป็นแม่ โดยมีภูมิและบอดี้การ์ดส่วนตัวอีก 2 คนเพื่อรอเวลาขึ้นเครื่องจนเวลาผ่านไป.. “ คุณกาญจนาครับได้เวลาแล้วครับ ” บอดี้การ์ดเดินมาเอ่ยบอกเมื่อใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่อง ดินแดนรีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเป้สาวเท้าเดินออกไปทันที @สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก , ประเทศสหรัฐอเมริกา ในที่สุดการเดินทางยาวกว่า 16 ชั่วโมงก็จบลงเครื่องบินขนาดใหญ่ลงจอดยังภาคพื้นอย่างปลอดภัย คุณกาญจนาพาลูกชายเพียงคนเดียวไปยังรถของบ้านที่จอดรออยู่ ดินแดนได้แต่นั่งมองเส้นทางที่รถขับผ่านนิ่ง ความนิ่งที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก “ แม่ครับ ถ้าแม่กลับบ้านไปแล้วแม่อย่าลืมส่งรูปน้องมาให้ดินดูบ้างนะครับ ” ดินแดนที่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองมาไกลน้องแล้วหันไปสั่งผู้เป็นแม่ “ ดินยังไม่ต้องคิดอะไรนะลูกๆตั้งใจเรียนหนังสือ น้องก็เหมือนกันเมื่อน้องออกมาน้องก็จะต้องเรียนหนังสือก่อน ส่วนรูปน้องแม่จะส่งมาให้ดูนะ “ ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกลูกชายยิ้มๆออกไป ไม่นานรถหรู 2 คันก็ขับมาถึงบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวภายในบ้านตกแต่งไว้อย่างหรูหรา อีกทั้งยังมีแม่บ้าน คนสวนดูแลอยู่ตลอด “ แม่ครับ ดินขอโทรหากรได้ไหมครับ ” ดินแดนเอ่ยถามผู้เป็นแม่ในมือกำมือถือราคาแพงไว้แน่น “ โทรได้แต่อย่านานนะลูกเวลาไม่ตรงกันแล้ว ” “ ครับ ” หลังจากวันนั้นมาดินแดนก็โทรหากรอยู่บ่อยครั้งในช่วงเวลาที่ว่างจากการเตรียมตัวเข้าเรียน ผ่านไปหลายเดือนที่ดินแดนเอาแต่นั่งมองรูปน้องที่ผู้เป็นแม่ส่งผ่านมือถือมาให้ดู ดินแดนมักจะชวนพี่เลี้ยงไปซื้อของส่งให้น้องอยู่ตลอดและชิ้นสุดท้ายที่ดินแดนส่งไปก่อนที่เขาจะขาดการติดต่อกับบ้านน้องและกรคือ กล่องดนตรีที่มีชายหญิงใส่ชุดแต่งงานยืนทำท่าคล้ายกับกำลังเต้นรำกันอยู่ แต่ทว่า…. เวลาผ่านไปดินแดนก็ได้ไปเผชิญโลกกว้างมีเพื่อนใหม่ มีสังคมใหม่เขาดูสนุกกับทุกอย่างเป็นอย่างมากเด็กชายวัย 2 ขวบในวันนั้นเติบโตเป็นเด็กมัธยมถึงแม้จะเที่ยวเล่น ซุกซน มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนตามประสาเด็กผู้ชายแต่การเรียนก็ยืน 1 มาตลอดจนเด็กหนุ่มเรียนจบย้ายกลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง ร่างหนาลงจากรถกระบอกตาคมกวาดสายตามองรอบบ้านหลังใหม่ที่เขาเพิ่งเคยมาเหยียบครั้งแรกหลังจากเดินทางไปต่างประเทศดินแดนก็ไม่เคยกลับมาบ้านอีกเลยแม้กระทั่งตอนที่ปู่เตโชเสียดินแดนก็อยู่ในช่วงสอบทำให้เดินทางกลับมาไม่ได้ ~ 3 เดือนผ่านไป ~ จนถึงภาคเรียนใหม่ในระดับปริญญาตรีดินแดนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังกับเพื่อนสนิทที่เรียนมัธยมด้วยกันที่ต่างประเทศนั่นก็คือ อเล็กซ์ ลูกชายทายาทสายการบินเอกชนชื่อดัง ราชันย์ ลูกชายนักธุรกิจด้านการผลิตสื่อต่างๆทั้งสถานีโทรทัศน์ วิทยุ นิตยสาร คราม ลูกชายนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์บ้าน คอนโดและโรงแรมในเครืออีกมากมายและนี่ก็คงเป็นกลุ่มเพื่อนที่เขาสนิทที่สุด ~ ปัจจุบัน ~ ร่างหนาที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านกำลังนั่งดื่มอยู่ในห้องพักผ่อนส่วนตัวที่มีเครื่องดื่มแทบทั่วโลกอยู่ร่วมกันในห้องนี้ สมองอันชาญฉลาดเอาแต่คิดในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูดนึกย้อยไปในวัยเด็กแต่คิดเท่าไหร่เขาก็คิดไม่ออกความทรงจำเดียวที่ดินแดนจำได้ก็คือ เขาสนุกสุดเหวี่ยงจริงๆตอนที่ไปเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ มือหนายกแก้วใบใสกรอกน้ำสีอำพันเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่าและพยายามกลับมานึกคิดทุกอย่างอีกครั้งเขาหวังเพียงว่า แอลกอฮอล์จะช่วยให้เขาเข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูด ^^
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD