น้ำมนต์แม้จะยิ้มรับคุณหญิงในใจได้แต่รู้สึกว่า ดวงตาสีนิลคู่นั้นมันเฉยชาแข็งกร้าวสิ้นดี ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยดุจผืนน้ำนิ่ง แถมยังนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวกับรูปปั้น…
“ คุณหญิงคะ โต๊ะอาหารพร้อมแล้วค่ะ ” ป้าศรีแม่บ้านเดินมาบอกเจ้านายทันทีที่เตรียมทุกอย่างเรียบร้อย
“ ไปทานอาหารกันเถอะนะคะ ” คุณหญิงเดือนเอ่ยชวนแขกทั้ง 3 ทุกคนพากันเดินมายังห้องอาหารที่บนโต๊ะมีอาหารหน้าตาน่าทานวางอยู่เต็มโต๊ะทุกจานถูกจัดไว้อย่างสวยงามราวกับเชฟร้านอาหาร 5 ดาวมาจัดเตรียมเอาไว้
“ นี่ฝีมือหนูน้ำมนต์หมดเลยเหรอลูก ” คุณหญิงกาญจนาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้
“ ใช่ค่ะ คุณป้าลองชิมก่อนนะคะว่าอาหารถูกปากรึป่าว ” น้ำมนต์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ดินแดนเอาแต่ยืนมองแม่กับหญิงสาวคุยกันเงียบๆ
“ เชิญครับ เชิญครับ ดินนั่งเลยลูก ” ท่านธงชัยเอ่ยบอกแขกคนสำคัญออกไป
“ ครับ ” ดินแดนรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆแม่ของตัวเอง ทุกคนนั่งประจำที่ของตัวเองด้วยเช่นกัน ทว่าในตาคมเอาแต่จ้องมองคนตรงข้ามอยู่บ่อยครั้งเขาแปลกใจมากว่า ทำไมเธอถึงดูเป็นคนสดใส อารมณ์ดี มีแต่รอยยิ้มอยู่ตลอด
“ ดินทานเยอะๆนะลูกถือว่าฉลองวันเกิดให้น้อง” คุณหญิงกาญจนาหันไปบอกลูกชายที่นั่งเงียบอยู่นาน
“ ตักอาหารให้น้องบ้างสิ ” ไม่วายบอกให้ลูกชายตักอาหารให้น้อง
“ มือเขาก็มีไหมครับ ” ดินแดนเอ่ยเบาๆแค่ให้ได้ยินกันสองคนแม่ลูก ผู้เป็นแม่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าใส่ลูกชายจอมดื้อทันที มือเรียวหยิกไปที่ข้างเอวสอบของลูกชายราวกับกำลังจะสั่งสอนกัน
“ แม่ดินเจ็บนะครับ ”
“ อย่าเสียมารยาทดิน ดูแลน้อง ” คุณหญิงกาญจนาเอ่ยบอกลูกชายขึ้นอีกครั้งทุกคนเอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาทานอาหารตรงหน้ามีเพียงกรที่อ่านปากของ 2 แม่ลูกที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา
แขนแกร่งตักผัดผักในจานตรงหน้าใส่ในจานน้องตามคำสั่งผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้าที่เย็นชา เรียบเฉยเป็นอย่างมาก
“ ขอบคุณนะคะ พี่ดินแดนทานเถอะค่ะ ” น้องเอ่ยขอบคุณออกไปด้วยความเกรงใจ
“ น้ำมนต์ไม่ชอบผัดผักนี่ กินนี่ดีกว่าปลาสามรสของโปรดเรา ” กรที่นั่งอยู่ข้างๆน้องสาวเอ่ยพูดก่อนจะตักปลาใส่ในจานน้อง
“ ขอบคุณนะคะพี่กร พี่กรทานเยอะๆนะคะ น้ำมนต์อุสาห์ตั้งใจทำ ” น้ำมนต์เอ่ยบอกพี่ชายก่อนจะคลี่ยิ้มแสนหวานให้กร ดินแดนได้แต่นั่งมองรอยยิ้มนั้นนิ่งๆ ก่อนจะละทิ้งทุกอย่างมาสนใจทานอาหารตรงหน้าต่อ
ดินแดนก้มหน้าก้มตาทานอาหารจนผู้เป็นแม่ต้องยกยิ้มชอบใจเพราะรู้จักนิสัยลูกชายดีถ้าทานเยอะแบบนี้หมายความ รสชาติอาหารถูกใจเขาแน่นอน
“ หนูน้ำมนต์ทำอาหารอร่อยทุกอย่างเลยลูก ” คุณหญิงกาญจนาเอ่ยชมออกไปอย่างใจดี
“ ขอบคุณค่ะคุณป้า คุณป้าทานเยอะนะคะน้ำมนต์ทำของหวานไว้ด้วย “ น้ำมนต์เอ่ยบอกดินแดนเอาแต่จ้องมองดวงตาคู่สวยที่ระยิบระยับไปด้วยความสุข แต่ทุกๆครั้งที่เขามองเธอมันจะมีสายตาไม่เป็นมิตรของกรคอยเอาแต่จ้องมองเขาอยู่ตลอด
จนทุกคนทานอาหารกันจนอิ่ม ร่างบางลุกออกจากเก้าอี้เดินไปหยิบขนมมาให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารจนมาถึงดินแดน
” พี่ดินแดนลองทานขนมดูนะคะ “ น้ำมนต์เอ่ยบอกคนพี่ตามมารยาทที่ถูกอบรมและเลี้ยงดูมาอย่างดี
” …… “ เงียบ คนพี่ส่งเพียงคำเงียบไปเป็นคำตอบให้กับน้อง
” อินทนิลใบเตยมะพร้าวอ่อน กลิ่นกะทิ กลิ่นใบเตยหอมมาเลยลูกอย่าบอกนะว่านี่หนูน้ำมนต์ทำเอง “ คุณหญิงกาญจนาตกใจอยู่ไม่น้อยกับเมนูขนมหวานในค่ำคืนนี้จึงหันไปเอ่ยถามคุณหญิงเดือนขึ้น
“ ใช่ค่ะ ยัยน้ำมนต์ทำเองทุกอย่าง ทุกขั้นตอนแม้กระทั่งการขูดมะพร้าว ” คุณหญิงเดือนเอ่ยตอบอย่างภาคภูมิใจในตัวลูกสาวที่เก่งรอบด้าน
“ หนูน้ำมนต์ใครสอนลูก ” คุณหญิงกาญจนาหันไปเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยความสงสัยว่าเด็กสมัยนี้ไม่น่าทำขนมแบบนี้เป็นแม้แต่เธอเองก็ยังทำไม่เป็น
“ คุณย่าค่ะ น้ำมนต์ได้ไปนอนกับคุณย่าบ่อยๆคุณย่าชอบทำขนมและชวนน้ำมนต์ทำด้วย น้ำมนต์เลยแอบจำสูตรของคุณย่ามาค่ะ แฮร่ ! ” น้ำมนต์เอ่ยตอบไปด้วยรอยยิ้ม
“ เก่งจังลูกสาวคุณหญิงน่ารักมากจริงๆนะคะ ” คุณหญิงกาญจนาเอ่ยบอกคุณหญิงเดือนขึ้นอีกครั้ง ทุกคนทิ้งความสนใจทั้งหมดไปทานขนมหวานหน้าตาน่าทาน มีเพียงดินแดนที่นั่งนิ่งเพราะเขาไม่ชอบขนมหวานเอาซะเลย
“ ดินทานสิลูกอินทนิลหาทานยากนะ หนูน้ำมนต์ทำอร่อยด้วยไม่หวานมากกำลังดีเลย ” ดินแดนได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับแม่ที่บังคับเขาไปซะทุกเรื่อง ถ้าไม่ติดกับคำขู่ที่ว่า จะถอนหุ้นเขาออกจากบริษัทเขาจะไม่ทำตามใจแม่เลย
มือหนาหยิบช้อนขึ้นมาตักขนมเข้าปากไปอย่างไม่เต็มใจนักดินแดนนิ่งไปทันทีเมื่อลิ้นรับรสของขนมกลิ่นกะทิ ใบเตยลอยอบอวนอยู่ในโพรงปากของเขา ความหวานมันกำลังดีไม่หวานจนเลี่ยน ไม่มันจนเอียน ทุกอย่างมันลงตัวมากจริงๆในความรู้สึกของเขา
“ เป็นยังไงลูกอร่อยไหม ” ผู้เป็นแม่หันไปถามลูกชายขึ้นอีกครั้ง
“ ไม่รู้สิครับ ผมไม่ชอบของหวานเลยไม่รู้ว่าอร่อยหรือไม่อร่อยเป็นยังไง ” เขาตอบคำถามผู้เป็นแม่ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยเป็นอย่างมาก น้ำมนต์ที่นั่งตรงข้ามกันกับเขาได้ยินมันชัด
“ พี่ดินไม่ชอบขนมหวานงั้นเอาผลไม้ไหมคะ น้ำมนต์ไปเตรียมให้ ”
“ ไม่ ฉันไม่ชอบ ” ประโยคแรกที่เขาคุยกับเธอ น้ำมนต์ที่ได้ยินน้ำเสียงที่ติดรำคาญนิดๆไม่พอใจหน่อยๆก็นิ่งเงียบไปทันที จนกรที่นั่งอยู่นึกสงสารน้องสาวตัวเองจนจับใจ เพราะน้ำมนต์แสนดีแบบนี้กับทุกคน เธอไร้ซึ่งพิษภัยและเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายน่ารักเอามากๆ
“ ไอ้ดินมันไม่ชอบของมีประโยชน์หรอกน้ำมนต์ มันชอบกินของไม่มีประโยชน์นะ ” กรเอ่ยบอกน้องสาวด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันไปยิ้มหยันใส่ดินแดนที่นั่งมองเขานิ่ง
“ พี่กรต้องทานให้หมดนะคะ ” น้ำมนต์ไม่เอ่ยหรือพูดอะไรเพราะเธอไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่แล้วและไม่ลืมที่จะเอ่ยบอกพี่ชายออกไป
“ พี่ต้องกินหมดอยู่แล้ววันนี้วันเกิดน้องสาวพี่นิ ” มือหนาของผู้เป็นพี่โยกหัวเล็กของน้องสาวเบาๆอย่างนึกเอ็นดู
สองพี่น้องที่รักกันมากๆทั้งสองห่างกันแค่ 2 ปีกรจะเล่นกับน้องตั้งแต่เด็กแม้ว่าน้องจะงอแงให้เล่นแต่งตัวตุ๊กตาพี่ชายอย่างเขาก็ไม่เคยขัด
ไม่นานทั้งหมดก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารเดินไปนั่งคุยกันที่ห้องรับแขกอีกครั้ง งานวันเกิดที่เรียบง่ายไม่มีเค้กให้เป่าเพราะเธอเป่าเค้กกับเพื่อนๆมาแล้วกับครอบครัวแค่ทานอาหารด้วยกันพูดคุยกันมันก็พิเศษแล้วสำหรับน้ำมนต์
“ หนูน้ำมนต์นี่ของขวัญจากป้าและคุณลุงนะลูก ป้าขอให้หนูมีความสุขมากๆสดใส น่ารักแบบนี้ตลอดไปนะลูก ” คุณหญิงกาญจนาส่งกล่องกำมะหยี่สีแดงให้กับน้ำมนต์ ก่อนจะอวยพรให้อย่างใจดี
“ ขอบคุณๆป้ากับคุณลุงมากนะคะไม่ต้องมีของขวัญมาให้น้ำมนต์ก็ได้ค่ะ แค่คำอวยพรและได้ทานอาหารด้วยกันน้ำมนต์ก็ดีใจมากๆแล้ว” น้ำมนต์เอ่ยบอกอย่างรู้สึกเกรงใจอยู่ไม่น้อย
“ ดินของขวัญน้องละ ” ผู้เป็นแม่หันไปเอ่ยถามลูกชายออกไป มือหนาล้วงเอากล่องของขวัญกล่องเล็กๆออกจากกระเป๋าเสื้อสูทที่เขาสวมใส่อยู่ก่อนจะส่งกล่องของขวัญให้กับเจ้าของวันเกิด
“ ขอบคุณค่ะ ” น้ำมนต์ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้อย่างมีมารยาทอีกครั้ง
“ ดินไม่อวยพรให้น้องหน่อยเหรอลูก ”
“ แม่ ! ”
“ ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า ” น้ำมนต์รีบเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น เพราะเธอเข้าใจดีว่าอีกคนเป็นคนพูดน้อยและดูเขาจะไม่ชอบใจสักเท่าไหร่กับการต้องมาทานข้าวในวันนี้
ทุกคนเอาแต่นั่งมองทุกอย่างเงียบๆผู้เป็นพ่อของฝ่ายชายอยากจะเริ่มพูดพูดถึงเรื่องสำคัญของ 2 ครอบครัวก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงเมื่อเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดีเอาซะเลย เพราะไอ้ลูกชายตัวดีของเขานี่แหละไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ทว่าเรื่องนี้ก็สำคัญเกินกว่าจะปล่อยผ่านไปได้จนในที่สุด..
“ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีไหมครับคุณธงชัย“ ท่านธีระมาเฟียผู้ทรงอิทธิที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น
“ ครับ ”
“ วันนี้หนูน้ำมนต์ก็อายุครบ 25 ปีเต็มตามสัญญาที่เคยพูดคุยกันเอาไว้แล้ว ” ท่านธีระเอ่ยขึ้นอีกครั้ง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น…ประโยคที่มันเกี่ยวข้องกับเธอ ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปยังผู้เป็นอย่างต้องการคำตอบ
“ น้ำมนต์ครอบครัวของเรากับพี่ดินสัญญากันไว้ว่า เมื่อหนูอายุครบ 25 ปีลูกจะต้องแต่งงานกับพี่ดิน ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกลูกสาวออกไป ใบหน้าที่เคยสดใสซี๊ดเผือดลงไปทันที
“ ไม่นะคะ แม่พ่อน้ำมนต์ไม่แต่งนะคะน้ำมนต์ไม่ได้รักพี่เขา เราจะแต่งงานกันได้ยังไงคะ ” น้ำมนต์เอ่ยปฏิเสธออกไปทันที มันเป็นตามที่ผู้ใหญ่คาดการเอาไว้แล้ว
“ แต่ยังไงน้ำมนต์ก็ต้องแต่งนะลูก ”
พรึบ !
“ น้ำมนต์ขอตัวนะคะ ” ร่างบางลุกออกไปทันทีโดยไม่คิดจะฟังอะไรจากใครอีก สองขาเรียวสาวเท้าเดินไปยังสวนหลังบ้านที่ๆเธอมาพักกายอยู่บ่อยครั้งเวลาเหนื่อยๆจากการเรียน สถานที่ๆเงียบที่เธอชอบมานั่งเล่นคนเดียว
“ ดินตามน้องไปสิ ” คุณหญิงกาญจนาเอ่ยบอกลูกชายออกไป ดินแดนที่เห็นอีกคนไม่ยอมมันเป็นจังหวะดีที่เขาและเธออาจจะไม่ต้องแต่งงานกัน ร่างหนายืนขึ้นเต็มความสูงสาวเท้าเดินตามน้องออกไป
^^