- 11:20 น. -
ดินแดนที่นอนอยู่บนโซฟาตื่นขึ้นเพราะแสงแดดในเวลาใกล้เที่ยงสาดส่องมาแยงตาเขาจนนอนต่อไม่ได้ทั้งที่ความเป็นจริงเขาสุดแสนจะง่วง
ร่างหนาลุกขึ้นนั่งก่อนจะสะบัดใบหน้าไล่อาการงัวเงียออกไปตาคมมองไปยังน้ำมนต์ที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง กรที่มาเยี่ยมน้องตั้งแต่เช้าก็กลับไปทำงานแล้ว หมอธันมาตรวจน้ำมนต์เดินเข้าเดินออกในห้องพักไปหลายรอบแต่ดินแดนก็ยังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใคร
“ พี่ดินแดนไปนอนต่อในห้องพักญาติก็ได้นะคะ ” น้ำมนต์เอ่ยบอก ดินแดนก็นิ่งไปทันทีและนึกไปว่าทำไมเขาไม่ไปนอนในห้องพักญาติจะมานอนเหนื่อยที่โซฟาทำไมวะ
“ ถ้าไม่นอนไปล้างหน้าสิค่ะ น้ำมนต์สั่งข้าวมาให้แล้ว ” นิ้วเรียวชี้ไปยังถุงอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ
พรึบ!
ร่างหนายืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะหยิบเสื้อยืดราคาแพงของตัวเองที่แขวนอยู่เดินเข้าห้องน้ำไปโดยที่เขาไม่พูดอะไรกับน้ำมนต์เลยสักคำทั้งที่คนป่วยอุสาห์สั่งข้าวมาให้เพราะกลัวว่าอีกคนจะตื่นมาแล้วโมโหหิวใส่เธออีก
Rrrrr..Rrrrr
ระหว่างที่น้ำมนต์กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆเสียงมือถือราคาแพงที่วางอยู่ก็ดังขึ้น
สายเรียกเข้า
แพรวา…
“ แพรว่าไงคิดถึงน้ำมนต์เหรอ อิอิ ” น้ำมนต์เอ่ยถามอย่างหยอกล้อ
“ ยะ! นี่ป่วยก็ไม่บอกกันเลยนะ เป็นห่วงรู้ไหมแพรกำลังไปหาใกล้ถึงแล้วจะเอาอะไรไหม อยากกินอะไรรึป่าว ” แพรวาตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อรู้ว่าน้ำมนต์ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล
“ เดี๋ยวนะแพรแปปนิ่งอย่างเพิ่งวาง ” มือเรียววางมือถือลงแล้วรีบลงจากเตียงเดินตรงไปยังห้องน้ำ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
แกร๊ก..
กรี๊ด!!!
“ พี่ดินแดน พี่ดินแดนคะ ” มือเรียวเคาะประตูห้องน้ำดินแดนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเปิดประตูออกมาทันที ดวงตาสวยเบิกกว้างขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องเมื่อเห็นร่างหนามีเพียงผ้าขนหนูพันอยู่รอบเอวกับลำตัวแกร่งที่เปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำ มือเรียวรีบปิดตาตัวเองและหันหลังให้ดินแดนทันที
“ ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนละคะ ” น้ำมนต์เอ่ยถามด้วยความตกใจ
“ เคาะเหมือนมีใครตายใครจะไปทำทันวะ“ ดินแดนเอ่ยขึ้นเขาตกใจเหมือนกันที่อีกคนรัวเคาะประตู
” น้ำมนต์แค่จะถามว่าพี่ดินแดนจะเอากาแฟไหมเพื่อนน้ำมนต์กำลังมาน้ำมนต์จะฝากเขาซื้อ“ น้ำมนต์เอ่ยถามทั้งที่มือก็ยังปิดตาอยู่
“ อือ เข้มๆไม่น้ำตาล ทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้ ” ดินแดนเอ่ยขึ้น
“ งื้อ…ก็น้ำมนต์ไม่เคยเห็นจริงๆนี่ค่ะพี่กรยังไม่เคยประเจิดประเจ้อแบบนี้เลย “ คำพูดประโยคนั้นของน้ำมนต์ทำเอาดินแดนนิ่งไปทันทีเพราะเขาปักใจเชื่อไปแล้วว่าน้ำมนต์กับเพื่อนที่ชื่อณดลต้องเป็นแฟนกันแน่นอนจากที่เขาเห็นอาการของณดลในคืนนั้นที่ผับ
น้ำมนต์รีบสาวเท้าเดินไปหยิบมือถือที่ค้างสายกับเพื่อนขึ้นมาพูดคุยอีกครั้ง
“ แพรน้ำมนต์เอากาแฟดำเข้มๆไม่น้ำตาลนะซื้อชาเขียวหวานน้อยมาให้น้ำมนต์ด้วยได้ไหม “
“ ไม่ป่วยอยู่ห้ามกิน ”
“ แพรน๊าแก้วเดียวเองน้ำมนต์อยากกิน ” ดินแดนที่ไม่ได้ปิดประตูยืนเช็ดตัวอยู่ในห้องน้ำคอยฟังเสียงน้ำมนต์ที่พูดคุยออดอ้อนเพื่อนอยู่ในห้องน้ำเงียบๆ
“ ไม่ แค่นี้นะแพรขับรถอยู่ ” แพรวากดตัดสายเพื่อนไปเพราะถ้าขืนคุยต่อเธอก็แพ้ลูกอ้อนของน้ำมนต์อีกเพราะเพื่อนของเธออ้อนเก่งยืน 1
“ เห้อ! ใจร้ายจังเพื่อนรักกันจริงปะเนี่ย ” น้ำมนต์เอ่ยพึมพำออกมาและสาวเท้าเดินขึ้นไปนั่งบนเตียงรอเพื่อน ดินแดนสวมใส่เสื้อยืดกับกางเกงวอร์มเนื้อดีเดินออกจากห้องน้ำมา คนป่วยเอาแต่ลอบมองคนใจร้ายที่รู้สึกแปลกตาเมื่อเห็นเขาแต่งตัวแบบนี้ ร่างหนาทิ้งสะโพกลงนั่งบนโซฟาที่เดิมก่อนจะหยิบงานขึ้นมาทำเพื่อฆ่าเวลา แม้เขาจะดูเป็นคนไม่เอาไหนในสายตาใครๆแต่จริงๆแล้วดินแดนค่อนข้างขยันและชาญฉลาดในด้านธุรกิจเป็นอย่างมาก
- ครึ่งชั่วโมงผ่านไป -
แกร๊ก…
เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามาในมือเรียวถือข้าวของขนมมาเต็มไม้เต็มมือ น้ำมนต์รีบดีดตัวเองลงจากเตียงเดินไปช่วยเพื่อนถือข้าวของอย่างเช่นทุกครั้ง
“ น้ำมนต์ของแค่นี้เองแพรถือได้อยู่นิ่งๆบ้างได้ไหมนี่ป่วยจริงปะเนี่ย ” แพรวาเอ่ยต่อว่าเพื่อนทว่าเธอต้องหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างหนาที่แสนคุ้นตานั่งอยู่บนโซฟาในห้องพักเพื่อน
“ สะ สวัสดีค่ะ “ แพรวาเมื่อได้สติก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยทักทายดินแดนอีกคนก็เอาแต่นิ่งใส่ไม่ตอบสนองสิ่งใดออกมา
“ น้ำมนต์ทำไมคุณดินแดนเขา… ”
“ บ้านเรารู้จักกับพี่ดินแดนนะอย่าสนใจเลย“ น้ำมนต์เอ่ยบอกมือเรียวถือแก้วกาแฟไปวางไว้บนโต๊ะกลางที่ดินแดนนั่งอยู่
” กาแฟค่ะ “ น้ำมนต์เอ่ยบอกแล้วเดินกลับไปหาเพื่อนทันที
” หึ! ทำไมเธอไม่บอกเพื่อนเธอไปว่าเธอจะแต่งงานกับฉันในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว “ ดินแดนหัวเราะเบาๆในลำคอและเอ่ยพูดเสียงดังออกมา
” ห๊ะ! แต่งงาน! “ แพรวาร้องเสียงหลงออกมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้นของดินแดน
“ น้ำมนต์แพร งง นี่มันอะไรกัน ? ”
“ นี่แพรซื้อชาเขียวมาฝากเราจริงๆด้วย น่ารักที่สุดเลย ” น้ำมนต์ทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่เพื่อนถามมือเรียวหยิบแก้วชาเขียวขึ้นตั้งท่าจะดูด
“ หยุด! นี่ของแพร ของน้ำมนต์อันนี้ชาร้อนกินไปแล้วมาคุยกันอย่าเนียน ” มือเรียวดึงเพื่อนไปนั่งยังโต๊ะกินข้าวดวงตาคู่สวยจ้องมองหน้าเพื่อนอย่างต้องการคำอธิบาย
“ เห้อ! ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้วสินะ แพรมันไม่มีอะไรหรอกแค่น้ำมนต์จะต้องแต่งงานกับพี่ดินแดนตามสัญญาของคุณปู่นะ อย่าไปสนใจเลย ” น้ำมนต์เอ่ยบอกเพื่อนใบหน้านวลสวยดูซึมลงไปทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี้เธอไม่อยากพูดถึงมันเลย
ดินแดนที่นั่งทำงานอยู่ได้แต่ลอบฟังการสนทนาของทั้งสองเงียบๆเขาเองก็ไม่คิดจะบอกใครเรื่องนี้เหมือนกันมันจะเป็นความลับไปตลอดที่ต้องบอกเพื่อนเธอก็เพราะอีกคนมารู้มาเห็นบอกซะให้มันจบๆ
“ อย่าเครียดเลยน้ำมนต์เรามาคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า ” แพรวาที่เห็นเพื่อนมีสีหน้าไม่สู้ดีก็เอ่ยตัดบทออกไป
“ แพรรู้ได้ยังไงว่าน้ำมนต์อยู่ที่นี่ ”
” พี่กรไง แพรเจอพี่กรที่ร้านข้าวเมื่อเช้า “
” อ๋อ..แพรอย่าเพิ่งรีบกลับนะอยู่เป็นเพื่อนน้ำมนต์ก่อน “ น้ำมนต์เอ่ยบอกเพื่อน
” อืม แต่เย็นๆต้องกลับนะเพราะเรามีนัด “
” อีกแหละ นัดกับคนในความลับอีกแหละ“ น้ำมนต์เอ่ยพูดอย่างรู้ทันเพื่อน
” ณดลรู้ยังว่าน้ำมนต์ป่วย ? “ คำถามของแพรวาทำเอาดินแดนที่นั่งตั้งใจเซ็นเอกสารอยู่ต้องหยุดมือไปทันที
” ไม่รู้ ห้ามบอกนะแพร “
” ทำไมกลัวณดลมา ? “
” ไม่ต้องกลัวหรอกมาแน่น้ำมนต์ไม่อยากเจอนะ“ สองสาวเอ่ยกระซิบกระซาบกันเบาๆจนดินแดนนึกสงสัยว่าสองคนคุยอะไรกัน จนถึงเวลาเที่ยงพยาบาลสาวเดินถือถาดอาหารเที่ยงเข้ามาให้คนป่วย
“ กินข้าวกินยาก่อนนะคะหมอธันติดเคสเดี๋ยวเสร็จแล้วจะแวะเข้ามาตรวจอีกทีนะคะ ถ้าไม่มีไข้แล้วคงจะได้กลับบ้านเลยค่ะ ” พยาบาลสาวเอ่ยบอกออกไป
“ ค่ะ ขอบคุณนะคะ ” พยาบาลเดินกลับออกไปเมื่อทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จ
“ มากินข้าวกินยาก่อนน้ำมนต์ ” แพรวาเดินไปดึงโต๊ะมาให้เพื่อนและเอ่ยเรียกเพื่อนที่ยังนั่งอยู่เดิมให้มากินข้าว แพรวาเองก็เอาแต่ลอบมองดินแดนอยู่บ่อยครั้งกับความนิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเขาใจก็นึกสงสารเพื่อนที่ต้องแต่งงานกับคนเย็นชาหน้านิ่งคนนี้
^^