ตอนที่1 ความลับที่จะไม่มีใครรู้
ภายในห้องคลอดฉุกเฉินของโรงบาลเอกชนชื่อดัง เสียงร้องโอดครวญของหญิงสาวยังคงดังก้องให้ได้ยินอยู่เช่นเดิม ‘อัยวา’ กำลังนอนอยู่บนเตียงทำคลอด ขาทั้งสองข้างฉีกอ้ากว้างออกด้วยความเจ็บปวดทรมานสุดชีวิต ร่างกายเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ ฝ่ามือทั้งสองข้างกำผ้าปูเอาไว้แน่นจนตัวสั่นระริกพร้อมกับเสียงหวีดร้องจากความเจ็บปวดทรมาน ที่เธอไม่เคยคิดเคยฝันว่าชีวิตความเป็นแม่มันต้องแลกมาซึ่งหยาดน้ำตาและความทรมานแบบนี้
“หายใจเข้าลึก ๆ แล้วเบ่งค่ะคุณอัย อีกนิดเดียว อีกครั้งนะคะ”
เสียงพยาบาลพูดดังใกล้ ๆ หู เป็นคำพูดเดิมซ้ำ ๆ ที่เธอเองก็จำไม่ได้ว่าได้ยินแบบนี้รอบที่เท่าไหร่แล้ว แต่สิ่งที่อัยวาทำได้ก็คือพยักหน้ารับ ก่อนจะกัดฟันแน่นและหลับตาลงอีกครั้ง แล้วออกแรงเบ่งจนสุดกำลังเท่าที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะทำได้เสียงกรีดร้องที่ดังลั่นถูกปล่อยออกมาด้วยความทรมานสุดชีวิต ไม่ใช่แค่เจ็บแต่เพราะรู้สึกว่าเหมือนคนกำลังจะหมดแรงแล้วในเวลานี้
“หัวเด็กออกมาแล้ว เบ่งอีกนิดนะคะ เบ่งค่ะ”
แรงฮึดสุดท้ายที่เหลืออยู่ยังต้องเบ่งคลอดอีกครั้ง ทั้งที่ก็ผ่านมามากกว่าหกชั่วโมงแล้ว แต่ทำไมลูกสาวยังไม่ยอมออกสักที จะทรมานแม่ไปถึงเมื่อไหร่กันนะ และไม่กี่วินาทีต่อมาก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัวขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนสติกำลังถูกดูดออกจากร่าง แต่ความรู้สึกนั้นมันมาพร้อมกับเสียงร้องไห้แหลมของเด็กหญิงแรกคลอดที่ดังขึ้นชวนให้น้ำตาไหลอีกครั้ง
อุแว้! อุแว้! อุแว้! เป็นเหมือนกับเสียงสวรรค์ที่ทำให้แม่อุ้มบุญเช่นเธอต้องร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ความเจ็บปวดที่มีก่อนหน้าแทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันรู้สึกแบบไหน แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันโล่ง คล้ายกับชีวิตเหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่อีกครั้งเลย
“ยัยหนู ลูก”
เสียงพึมพำเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากที่ซีดเผือด อัยวาพยายามจะเอื้อมมือไปสัมผัสกับลูกน้อย แต่แขนของเธอกลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำแบบนั้นได้เลยสักนิด
“เด็กปลอดภัยดีค่ะ”
พยาบาลอุ้มทารกน้อยแรกคลอดที่ถูกห่อตัวในผ้าขาว ออกไปหลังม่านกั้นเพื่อให้ใครอีกคนได้เห็นหน้าเป็นครั้งแรก
“ให้แม่น้องดูหน้าหน่อยไหมคะ?”
พยาบาลสาวหันมาถามหมอ แต่หมอกลับชะงักไม่กล้าตอบ เพราะตัวเองไม่ใช่ผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้แทนใครทั้งนั้น
“คุณธีร์ให้คนมารอรับเด็กข้างนอกแล้วค่ะ”
เสียงของใครบางคนกระซิบกับพยาบาลเบา ๆ แต่ก็ดังมากพอที่จะทำให้อัยวาได้ยินคำบอกเล่านั้นเต็มสองหู
“เอาเด็กออกไปให้คุณธีร์เลย” หมอผู้ทำคลอดเอ่ยขึ้นเสียงดังฟังชัด ก่อนที่พยาบาลจะพยักหน้ารับและทำตามคำสั่งนั้นทันที
“เดี๋ยวค่ะ ขออัยดูหน้าหน่อยได้ไหมคะคุณพยาบาล นิดนึงก็ยังดี?”
เสียงที่หอบหายใจแรงพูดออกมาอีกครั้ง พยายามจะเอ่ยปากขอร้อง ขอแค่ได้มองหน้า ขอแค่มองเห็นมือเล็ก ๆ นั้นสักครั้งก็เพียงพอแล้ว แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่ใช่แม่ แต่เธอก็อุ้มท้องมานานตั้งเก้าเดือน รู้สึกรักและผูกพันเหมือนกับลูกของตัวเองในทุก ๆ วัน
“คงไม่ได้หรอกค่ะ เราได้รับคำสั่งจากคุณธีร์ว่าห้ามให้คุณแตะต้องเด็ก เราแค่ทำตามหน้าที่ ขอโทษด้วยนะคะ”
เสียงร้องไห้ของเด็กหญิงยังคงดังจ้าระหวั่นอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น อัยวาน้ำตาร่วงหล่นลงอาบแก้มอีกครั้ง เธอรู้ดีว่าหน้าที่ของเธอสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ ต้องยอมรับแม้จะไม่อยากยอมรับกับความจริงนั้นเลยก็เถอะ น้ำตาหยดสุดท้ายร่วงหล่นลงทางหางตา ก่อนที่สติทั้งหมดจะดับวูบ เป็นความรู้สึกตัวครั้งสุดท้าย ที่เธอไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าตัวเองจะตายหรือจะยังมีชีวิตรอดได้อยู่ต่อในวันพรุ่งนี้
ติ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“เอาเด็กออกไปก่อน”
เสียงร้องไห้ของทารกแรกเกิดดังลั่นไปทั่วห้องคลอดอีกครั้ง ท่ามกลางความโกลาหลและสีหน้าที่ดูกังวลของทีมแพทย์ ที่หันไปมองจ้องหน้าสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย
ในขณะที่ทีมแพทย์พยายามยื้อชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียง อ้อมแขนของพยาบาลอีกคนก็รีบอุ้มทารกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกออกไปภายนอกห้องนั้น เหมือนกับวินาทีสุดท้ายที่ชีวิตค่อย ๆ ขาดสะบั้นออกจากกันตลอดกาล
20 นาทีต่อมา
หมอธนัทเดินเร่งรีบเข้ามาหาเพื่อนสนิท สีหน้าหมอเคร่งเครียดเหมือนกับคนแบกบาปเอาไว้ทั้งชีวิตเลยในตอนนี้
“ธีร์ กูมีเรื่องต้องสารภาพกับมึง”
“สารภาพว่าอะไรวะไอ้หมอ?” ธีร์ธัชคิ้วขมวดด้วยความสงสัย จ้องมองหน้าเพื่อนตาไม่กระพริบเลยสักนิดเดียว
“เอ่อ....คือ..มึงจะไม่โกรธกูใช่ไหม?”
“โกรธเรื่องอะไร แล้วจะอ้ำอึ้งทำไมฮะหมอ มึงก็รีบพูดมาสิ!”
“คือ…คือกูจะบอกว่าไข่ที่เราใช้ในการทำอุ้มบุญวันนั้นมันไม่ใช่ของวริษาว่ะมึง แต่มันเป็นไข่ของอัยวา”
คำพูดของหมอทำให้ ‘ธีร์ธัช’ยืนนิ่งเหมือนร่างถูกสาปให้ต้องกลายเป็นหินทันทีในตอนนั้น มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร ทำไมมันต้องผิดพลาด แล้วทำไมถึงเพิ่งมารู้ว่าพลาดในวันที่ลูกคลอดออกมาแล้วแบบนี้
“มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงฮะ! มึงพูดเล่นหรือซีเรียสไอ้หมอ!”
ธีร์ธัชถึงกับกำมือแน่น ดวงตาคมจ้องมองหน้าเพื่อนอย่างไม่อยากเชื่อหู หัวใจเขาปั่นป่วนเหมือนพายุกำลังโหมกระหน่ำเข้าหา เขาเพิ่งได้เป็นพ่อแต่มีลูกกับผู้หญิงที่เคยทรยศความรักเขาอย่างนั้นหรือ
“มันเป็นไปแล้ว มันคือความผิดพลาดของห้องแล็บ ระบบจัดเก็บผิดพลาดตั้งแต่ต้น กูตรวจสอบด้วยตัวเองแล้วนะธีร์ ยืนยันด้วยผลตรวจ DNA แล้วเรียบร้อย เด็กที่เพิ่งคลอดเป็นลูกแท้ ๆ ของมึงกับอัยวา”
ยังเป็นคำบอกกล่าวที่ชวนอึ้ง เขาไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าชีวิตจะต้องมาเผชิญอะไรกับเรื่องแบบนี้
“เรื่องนี้มีใครคนอื่นรู้อีกไหมไอ้หมอ?” หมอธนัทส่ายหน้าปฏิเสธทันที
“ไม่มี มีแค่กูกับมึง”
“มึงห้ามพูดนะกูขอร้อง เก็บเรื่องนี้ให้เป็นความลับ ให้มันตายไปกับเราเลยถ้าเป็นไปได้”
“แต่แม่เด็กเขาควรจะรู้ไหมว่าเด็กที่เขาอุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือนเป็นลูกของเขาจริง ๆ มึงทำแบบนี้มันจะไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอวะธีร์?”
หมอธนัทถึงกับถามกลับ เพราะรู้สึกสงสารหญิงสาวที่จะไม่มีวันรับรู้ว่าตัวเองอุ้มท้องเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองมาตั้งแต่ต้น ไม่ใช่แค่อุ้มบุญให้ลูกคนอื่นอย่างที่เธอเข้าใจมาตลอด
“มันไม่จำเป็นที่จะต้องบอก เขาเป็นลูกสาวของกูและจะต้องมีแม่ชื่อวริษาเท่านั้น”
“แล้วมึงคิดว่าเรื่องนี้มันจะเป็นความลับไปได้ตลอดเหรอไอ้ธีร์?”
“มึงไม่พูด กูไม่พูด มันจะไม่มีใครรู้กูมั่นใจมาก เว้นเสียว่ามึงจะหักหลังกูก่อนไอ้หมอ!” ธีร์ธัชถึงกับถลึงตาใส่ข่มขู่เพื่อนเอาไว้อีกครั้ง
“มึงจะบ้าเหรอ มึงก็รู้ว่ากูไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้วไอ้ธีร์!”
“เออ! ให้มันเป็นปัญหาของกูเถอะ หมดหน้าที่ของมึงแล้ว ขอบใจที่ช่วยทำคลอดให้ลูกสาวกู” ฝ่ามือหนายกขึ้นตบบ่าขอบคุณเพื่อนรัก เพื่อนที่เป็นคนทำให้เขาได้มีลูกสาวสมใจแล้ววันนี้
หมอธนัททำแค่เพียงพยักหน้ารับ แม้จะไม่ได้รู้สึกเห็นด้วยกับเรื่ิองนี้เลยสักนิด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของตัวเองอยู่แล้ว แม้จะเป็นคนที่ดูแลอัยวามาตั้งแต่ต้น เขารู้สึกสงสารทั้งหญิงสาวและเพื่อนสนิทของตัวเองมากไม่ต่างกันเลย ธีร์ธัชที่ดูเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง แต่ชีวิตของเขากลับมีแต่ความตึงเครียดตลอดมา ตั้งแต่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักคนนั้นแล้วด้วยซ้ำ
ดวงตาของธีร์ธัชมองจ้องไปทางประตูห้องคลอดนั้นอีกครั้ง มันเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย วันนั้นเขาแค่ต้องการมีทายาทเพื่อธุรกิจ เพราะลูกสาวคือสิ่งเดียวที่จะทำให้เขาได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ ธุรกิจ ตำแหน่งและอำนาจตามข้อตกลงของมารดาที่ยื่นเสนอมาให้ เขาต้องแลกและต้องเลือก แม้จะแต่งงานกับภรรยาที่ไม่เคยรักกันเลยมานานถึงสองปีแล้ว แต่เพราะเธอที่ไม่สามารถมีลูกเองได้ ไม่สามารถตั้งท้องเองได้และเขาที่ไม่คิดจะแตะต้องเธอเลย ทางเดียวที่พวกเขาต้องหาทางออกคือหาแม่อุ้มบุญมาช่วยอุ้มท้องให้แบบนี้
เขารู้ว่า ‘วริษา’ คงจะไม่มีวันยอมรับกับความผิดพลาดนี้ที่เกิดขึ้นแน่ ๆ แต่ความลับมันก็คือความลับ จะไม่มีใครรับรู้เรื่องนี้ไปมากกว่าที่มีอยู่อีกเลย