วันต่อมา
อัยวาลืมตาตื่นขึ้นมาภายในห้องพักฟื้น ดวงตาที่ถูกปิดคลอบเอาไว้ทำให้เธอรู้สึกสับสนกับชีวิต แต่สิ่งที่ทำให้หญิงสาวเจ็บที่สุดคือความมืดที่มองไม่เห็นอะไรเลยในเวลานี้ ไม่มีแม้แต่เงาของแสงจาง ๆ ที่พร่าเลือนเหมือนก่อนหน้า มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเธอกันแน่นะ
“หมอคะ หมอ มีใครอยู่แถวนี้บ้างหมคะ หมอ…”
ไม่มีเสียงตอบรับหรือปฏิเสธ มีเพียงเสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่เดินเข้ามาใกล้ กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นจมูก ทำให้เธอรู้ได้แบบไม่ต้องเดาว่าเขาเป็นใครหรือชื่อว่าอะไร
“คุณธีร์ นั่นคุณใช่ไหมคะ?”
น้ำเสียงสั่นเครือรีบถามขึ้น หวาดกลัวกับชีวิตที่มืดและมองไม่เห็นในเวลานี้มาก มันไม่คุ้นชิน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรและไม่รู้เลยว่ามันยังจะกลับมาหายดีได้อีกครั้งหรือเปล่า แต่ทุกอย่างรอบตัวของเธอในตอนนี้ยังคงเงียบ มีเพียงเสียงลมหายใจเบา ๆ ดังให้ได้ยิน เธอมั่นใจมากว่าต้องเป็นเขา ผู้ชายที่ดูเย็นชาและน่าหวาดกลัวเวลาที่ได้เจอกัน
ธีร์ธัชนิ่งเงียบไปพักใหญ่ เขาไม่ได้เข้าไปยืนใกล้ ๆ เธออย่างที่ควรจะเป็น ไม่แม้แต่จะเดินไปแตะมือหรือสัมผัสคนที่เขาเคยโอบกอดเมื่อหลายปีก่อน เพราะเธอคืออดีตและเป็นอดีตที่ไม่น่าจดจำ อดีตที่ชวนให้ต้องเจ็บใจเวลาที่ได้นึกถึงมันเสมอ
“อัยรู้ว่าเป็นคุณ ยัยหนูล่ะคะ อัยอยากกอดเขาแค่ครั้งเดียว คุณธีร์ให้อัยได้สัมผัสเขาหน่อยได้ไหม อัยขอล่ะ นิดเดียวก็ได้”
อัยวาเหมือนคนที่นั่งพูดคุยอยู่กับตัวเองคนเดียวเลยตอนนี้ เขาไม่ได้ตอบโต้ใด ๆ ออกมา แถมยังยืนกอดอกมองจ้องเธอด้วยความรู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยซ้ำ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันเหนือการควบคุมของเขา มันผิดมาตั้งแต่เลือกไข่ผิดใบแล้ว จนกระทั่งตอนนี้ที่ดวงตาของเธออาจจะมืดบอดไปตลอดชีวิต
เขายังจำคำพูดของหมอได้เป็นอย่างดีว่าเธอมีภาวะครรภ์เป็นพิษเฉียบพลันรุนแรงระหว่างคลอด ทำให้เส้นเลือดในตาแตกเสียหายอย่างหนัก ผลข้างเคียงที่ได้รับค่อนข้างรุนแรงมากกว่าปกติที่เคยพบเจอ ไม่ใช่ทุกคนจะเกิดภาวะแบบนี้ขึ้นได้ แต่วันนี้มันก็เกิดขึ้นกับอัยวาแล้ว เธออาจเป็นหนึ่งในคนที่ไม่โชคดี เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยนึกถึงกับทุกผลกระทบที่มันกำลังจะตามมาเลย
แต่อีกใจหนึ่งมันก็แอบคิดว่าเขาใช้เงินจ้างเธอมาแล้วนะ เขาไม่ต้องรู้สึกผิดเพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันอาจเป็นเวรกรรมของเธอเอง ไม่ใช่ความผิดของเขาเลยสักนิด และสิ่งที่อัยวาร้องขอในตอนนี้มันมากเกินกว่าที่เขาจะให้เธอได้จริง ๆ แม้จะรู้ว่าเธอคือแม่ของลูกก็เถอะ แต่ผู้หญิงอย่างเธอก็ไม่ควรจะได้แตะต้องลูกเลย
อัยวานั่งยิ้มทั้งน้ำตาเหมือนคนที่หมดหวังกับชีวิต ตอนนี้เธอไม่รู้หรอกว่าใครที่ยืนอยู่ในห้องนี้ แต่ความรู้สึกมันบอกว่าเป็นเขา ใช่เขาแน่น ๆ เขาที่เธอพบเจอกี่ครั้งก็รู้สึกกลัวสายตา เขาคนที่เธอเคยรักและทำลายความรักนั้นด้วยตัวเธอเองมาแล้ว แต่เหมือนกรรมที่ทำร่วมกันมามันยังตัดขาดกันไม่หมด เลยทำให้ชีวิตของเธอและเขาต้องกลับมาพัวพันกัน ในฐานะนายจ้างที่จ่ายเงินกับแม่อุ้มบุญที่ทำทุกอย่างเพื่อเงินเหมือนอย่างตอนนี้
“ได้ยินไหมคะคุณธีร์ อัยขอแค่ได้สัมผัสเขาสักนิดก็พอ ถึงอัยจะมองไม่เห็นอะไรเลยในตอนนี้ แต่อัยรู้ว่าเขาต้องตัวเล็กมากแน่ ๆ ต้องน่ารักน่ากอด ตัวต้องหอมมากเลยใช่ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยร้องขอขึ้นอีกครั้ง
“เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นได้เธอก็รู้ เขาไม่ใช่ลูกเธอนะ อย่าคิดทำเกินหน้าที่สิอัยวา เธอลืมข้อตกลงที่เธอเซ็นไปแล้วหรือไง อย่าลืมสิว่าเธอแค่คนที่รับงานแลกเงิน แลกกับการอุ้มท้องแทนเมียของฉันเพียงเท่านั้น!”
น้ำเสียงเย็นชาพูดขึ้นชวนให้คนฟังสะอึก อัยวารู้ดีว่าตัวเธอเองไม่มีสิทธิ์ร้องขออะไรทั้งนั้น แค่สัมผัสนิดเดียวก็ไม่ได้อย่างนั้นเหรอ เธอไม่ได้อยากทำอะไรที่มากเกินกว่านี้เลยสักนิด เขาจะใจร้ายใจดำกับเธอไปถึงไหนกัน
ธีร์ธัชนิ่งเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะวางซองสีน้ำตาลลงบนโต๊ะข้างเตียงให้อัยวาอีกครั้ง ใบหน้าคมเข้มยังคงดูเรียบเฉย ไม่มีใครเดาความรู้สึกของเขาได้ ไม่มีใครเดาความคิดของเขาออกเลยสักนิด
“นี่คือเงินพิเศษที่ฉันจ่ายเพิ่มให้เธอ จำนวนเงินมันมากพอที่จะทำให้เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไหนก็ได้ ที่ที่เธออยากไป ซื้อในสิ่งที่เธออยากได้ เงินมันสำคัญกับชีวิตเธอมากไม่ใช่หรือไง รับไปซะจะได้ไม่มีอะไรให้ติดค้างกันอีก”
“คุณธีร์..อัยไม่ได้ต้องการเงินพิเศษเพิ่มเลยนะคะ ถ้าอัยขออะไรจากคุณได้ ตอนนี้อัยขอแค่ได้อุ้มเขาสักครั้งก็พอค่ะ อัยไม่ได้อยากได้เงินจำนวนมากของคุณเลยนะ วันนั้นมันอาจจะจำเป็นและสำคัญมากสำหรับอัย แต่วันนี้มันไม่จำเป็นอีกแล้ว อัยไม่จำเป็นต้องใช้เงิน อัยแค่อยากกอดเขาดูสักครั้ง สักครั้งก็พอแล้วค่ะถ้าคุณจะกรุณา” หญิงสาวพยายามเอื้อมมือคว้าหาตัวของชายหนุ่มเพื่อขอร้อง แต่สิ่งที่พบเจอกลับเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ชวนให้รู้สึกเศร้า เธอคว้าได้เพียงแค่อากาศ เขายืนอยู่ตรงไหนเธอก็ไม่อาจจะรู้ได้
“ลืมทุกอย่างซะ หน้าที่ของเธอจบสิ้นลงแล้วอัยวา มันเป็นกฏของแม่อุ้มบุญที่รับเงินค่าจ้างไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องอยากมาเรียกร้องในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ เธอรู้ไหมว่ามันน่ารำคาญ!” เสียงเขาตอบกลับอย่างไร้เยื่อใยอีกครั้ง อัยวาทำได้เพียงนั่งหน้าเศร้าสลด ยอมรับกับคำต่อว่าจากปากของเขาที่ทำให้ใจเจ็บปวด
“อัยทราบค่ะ แต่อัยก็ผูกพันกับเด็กในท้องมาก ตอนเซ็นสัญญาอัยไม่เคยคิดว่าความรู้สึกความเป็นแม่มันจะมีมากมายขนาดนี้ อัยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่แม่อุ้มบุญ แต่อัยคิดกับเขาเหมือนลูกของตัวเองแท้ ๆ คุณธีร์ช่วยเมตตาเห็นใจอัยสักนิดเถอะนะคะ ขอให้แม่อุ้มบุญคนนี้ได้มอบกอดแรกแทนความรักที่มีให้สักครั้งก็พอ ครั้งเดียวก็พออัยจะไม่ขออะไรอีก” น้ำเสียงที่สั่นสะท้านร้องขอความเห็นใจจากเขาเป็นครั้งที่สามแล้ว
“ไม่! เขาไม่ใช่ลูกเธอ เขาเป็นลูกของฉันกับวริษา เธอก็แค่แม่อุ้มบุญอย่าคิดว่าตัวเองเป็นแม่จริง ๆ นะอัยวา เพราะเธอมันไม่ใช่ ผู้หญิงแบบเธอมันไม่คู่ควรจะเป็นแม่ของใครทั้งนั้น!”
เสียงฝีเท้าค่อย ๆ ก้าวห่างออกไปเรื่อย ๆ จนได้ยินเสียงประตูห้องพักถูกปิดลงเสียงดังอีกครั้ง เขาจากไปแล้ว ทำให้อัยวาร้องไห้จนตัวสั่น ฝ่ามือเรียวยกขึ้นแตะสัมผัสตรงหัวใจที่ยังเต้นและสั่นไหว มันเจ็บจุกจนพูดอะไรไม่ออกแล้วในตอนนี้ เธอรู้ว่าเธอไม่ควรรู้สึกอะไรเกินหน้าที่ แต่ทุกวันที่ผ่านมาเธอรักเด็กน้อยในท้องเหมือนกับลูกตัวเองมาตลอด
ก่อนจะขยับฝ่ามือค่อย ๆ เลื่อนลงไปกอบกุมหน้าท้องที่ยุบตัวลงในวันนี้ ไม่มีอีกแล้วเด็กน้อยที่คอยดิ้นหรือคอยขยับ คนที่คอยทำให้ยิ้มและทำให้มีความสุขเหมือนวันวานที่ผ่านมา แม้จะรู้ว่าเป็นแค่แม่อุ้มท้องให้ลูกของเขากับภรรยาเท่านั้น แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะแย่งคุณหนูตัวน้อยไปจากเขาเสียเมื่อไหร่กันล่ะ แค่อยากสัมผัส อยากโอบกอดความบริสุทธิ์ที่แสนน่ารักนั้นดูสักครั้ง แต่ถ้าเขาให้ในสิ่งที่เธอต้องการไม่ได้ เธอก็จะต้องทำใจยอมรับกับความเป็นจริงทุกอย่างให้ได้