คราวนี้มาธวีจำนนต่อหลักฐานแล้ว จริงสิ...เธอไม่ควรลืมไปเลยว่าที่นั่นมันเป็นกิจการของครอบครัวเขา! ทริสตันหาหลักฐานได้อยู่แล้ว เธอว่าเผลอๆ เขารู้ตั้งแต่วันนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่ทำเป็นไม่รู้เพื่อให้ทุกอย่างมันเงียบ
“ไม่ต้อง!”
มาธวีปฏิเสธอย่างรวดเร็ว เธอไม่อยากเห็นสภาพของตัวเองคืนนั้นในกล้องวงจรปิดนักหรอก เธอไม่ต้องการตอกย้ำตัวเองถึงความผิดพลาดพวกนั้น
เธอไม่อยากย้ำว่าคืนนั้นเพราะความใจอ่อนเพียงอย่างเดียว ถึงทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้
แต่ถึงอย่างนั้น ต่อให้เขาจับได้ว่าคืนนั้นคนที่อยู่กับเขาคือเธอ ทว่าเธอมั่นใจว่าทริสตันไม่มีทางรู้หรอกว่าเธอท้อง เขาก็แค่คาดเดา ไม่ได้มีหลักฐานอะไรมัดตัวเธอหรอกว่าเธอท้องจริงๆ
และ...ถึงแม้ว่าเธอจะท้อง มาธวีก็ไม่ต้องการการรับผิดชอบจากทริสตัน
เธอไม่อยากแต่งงานกับเขา ขณะเดียวกันก็ไม่คิดจะยกลูกที่เกิดขึ้นเพราะความไม่ตั้งใจนี้ให้กับเขา
เธอกับเขาไม่ได้รักกันเลย...
“ตอนนี้อยากบอกความจริงกับผมหรือยัง”
น้ำเสียงคาดคั้นของคนเป็นต่อทำให้มาธวียอมจำนนในที่สุด เพราะรู้ดีว่าหลีกเลี่ยงไปก็ไม่มีทางหลบพ้นได้อีกต่อไป
“มัน...มันไม่ควรเกิดขึ้น” หญิงสาวหลบตาเขา ไม่กล้ามองใบหน้าหล่อเหลานั้นขณะที่เอ่ยความจริงออกมา “เรา...เราสองคนเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องกัน ไม่สนิทกันเลยสักนิด ถ้าคุณไม่ลืมมัน ผึ้งก็ต้องลาออกจากที่นี่”
หญิงสาวบอกชายหนุ่มไปตามตรง เธอไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเป็นอย่างอื่น
ถ้าเกิด...ถ้าเกิดเขาจะรับผิดชอบอะไรด้วยการแต่งงาน เธอก็คงต้องออกจากที่นี่ เธอไม่อยากถูกนินทา ไม่ต้องการให้ใครจับจ้อง
และนอกจากลูกของเธอแล้ว...เธอไม่ต้องการเปิดรับใครเข้ามาในชีวิตอีก
เธอไม่อยากใช้ชีวิตอย่างน่าสมเพชจนกระทั่งตายไปเพราะผู้ชายเพียงคนเดียว
ทว่าใครจะคิดว่า พอเธอพูดไปอย่างนั้น มือใหญ่ที่กอบกุมไหล่เล็กของเธอจะเปลี่ยนเป็นกระชากร่างเธอเข้าหาตัวเขา ทริสตันรัดเอวเล็กของเธอแน่นจนเธอโผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มโดยไม่ทันตั้งตัว
มาธวีตาโต เธอดิ้นรนให้หลุดจากทริสตัน แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งกอดเธอแน่นกว่าเดิม พร้อมกับเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงดุดัน
“คุณคิดว่าผมจะปล่อยคุณไปง่ายๆ เหรอผึ้ง”
มาธวีรู้แน่แล้วว่าเธอไม่อาจดิ้นรนจากอ้อมกอดของทริสตันได้ หญิงสาวได้แต่ทาบมือกับแผ่นอกหนั่นแน่นภายใต้เสื้อสูทของชายหนุ่ม พยายามสร้างระยะห่างของเธอกับเขาให้มากที่สุดในยามที่ตอบกลับเขาไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“คุณต้องปล่อย ผึ้งไม่คิดจะสานสัมพันธ์อะไรกับคนในที่ทำงาน”
อย่าว่าแต่คนในที่ทำงาน ไม่ว่ากับใครเธอก็จะไม่ยอมสร้างสายสัมพันธ์ใดๆ ขึ้นมาโดยเด็ดขาด
ทว่าตอนนี้เว้นให้กับลูกของเธอคนเดียว
แค่ลูกเท่านั้นที่เธอจะยกเว้นให้...เธอจะเลี้ยงแกด้วยความรักและความเข้าใจ
เธอจะไม่ทำให้ลูกต้องเจอในสิ่งที่เธอเคยเจอมาโดยเด็ดขาด ถึงลูกของเธอจะขาดพ่อ...เหมือนที่เธอเคยเป็นก็ตาม
“งั้นยากหน่อยแล้วละ” ทริสตันไม่ยอมให้เธอหลบหน้าเขา ชายหนุ่มใช้มือข้างที่ว่างเชยคางเธอขึ้นให้มองสบตาเขา ดวงตาและสีหน้าของชายหนุ่มฉายชัดถึงความเอาแต่ใจ “เพราะถ้าคุณไม่ท้องผมก็คงจะเงียบให้คุณได้ แต่ตอนนี้คุณท้อง...”
น้ำเสียงและท่าทีมั่นใจนั้นทำให้มาธวีได้แต่ตัวสั่นด้วยความกลัววูบหนึ่งในใจ
หรือที่เขาพูดกับเธอเรื่องนี้ทั้งๆ ที่เงียบมาตลอดสองเดือนที่ผ่านมานั้นเป็นเพราะเขาคิดจะเอาลูกไปจากเธอ
วินาทีนั้นหญิงสาวถึงกับหนาวไปถึงขั้วหัวใจ เธอรีบปฏิเสธออกไปอย่างลนลานทันที
“ผึ้งไม่ได้ท้อง!”
“...”
“ผึ้ง...ผึ้งแค่ไม่สบาย!” เธอหาข้อแก้ตัวเมื่อเขายังมองเธอเหมือนไม่อยากจะเชื่อ “ช่วงนี้งานหนัก ผึ้งไม่ค่อยได้นอนก็เท่านั้น”
“โกหก!”
ทริสตันแทรกคำแก้ตัวของเธอทันควัน ขณะที่มาธวีพยายามอย่างยิ่งที่จะนิ่งเฉย ไม่ยอมรับว่าตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์
“ผึ้งจะโกหกคุณทริสตันไปทำไมคะ”
มาธวียังคงยืนกรานที่จะปากแข็งและปกป้องความลับของตนเองเอาไว้
เธอรู้ว่าทริสตันไม่เชื่อเธอหรอก แต่เธอไม่ยอมรับ ไม่มีทางยอมรับ ชายหนุ่มจะทำอะไรเธอได้
คราวนี้คนตัวสูงกว่าหรี่ตามองเธออย่างจับผิด ส่งผลให้บรรยากาศรอบตัวเธอกับเขาเต็มไปด้วยความอึดอัด กระทั่งชายหนุ่มเป็นฝ่ายพูดต่อมาว่า
“คุณก็โกหกผมมาตั้งหลายเรื่องอยู่แล้วนี่ผึ้ง”
มาธวีแข็งใจมองสบตากับเขา มองเมินความดุดันที่ทำให้ใจเธอสั่นไหวและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเอาไว้ และ...ไม่ยอมรับสิ่งที่เขากำลังไล่ต้อนเธออย่างสุดความสามารถ
“คุณจะมารู้ดีกว่าตัวผึ้งได้ยังไงกัน” หญิงสาวแค่นยิ้มสั่นๆ ให้เขา แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าท้าทาย “อีกอย่างนะคะ ต่อให้ผึ้งท้องจริงๆ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณทริสตันอยู่ดี”
“...”
“คุณทริสตันไม่ใช่พ่อเด็กหรอกค่ะ!”
“มาธวี!”
ทริสตันเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่แทบจะเป็นคำราม ในยามที่รั้งร่างเธอเข้าหาเขาแรงๆ ด้วยความกรุ่นโกรธที่วาบผ่านดวงหน้าหล่อเหลานั้น แรงปะทะโดยไม่ทันตั้งตัวนั้นทำให้ใบหน้าของเธอซุกเข้าหาอกแข็งนั้นเต็มๆ จนเธอต้องครางประท้วงร้องลั่น
“โอ๊ย ผึ้งเจ็บ!”
แต่ทริสตันคนร้ายกาจไม่สนใจความเจ็บของเธอ เขาใช้มืออีกข้างบังคับใบหน้าของเธอให้แหงนเงยมองเขา ปลายนิ้วเรียวยาวออกแรงบีบดวงหน้าเล็กจนเธอได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความรู้สึกเจ็บ
“อย่ายั่วโมโหผมแบบนี้” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้มจัด “แล้วบอกความจริงมาได้แล้ว คุณท้องใช่ไหม”
คราวนี้เขาถามเสียงหนัก พร้อมกับปล่อยมือออกจากใบหน้าของเธอราวกับรู้ตัวแล้วว่าเขากำลังทำให้เธอเจ็บ
ทว่าถึงอย่างนั้น มาธวีหรือจะกล้ายอมรับคำถามนั้นของเขา หญิงสาวส่ายหน้าอย่างหนักแน่น แล้วยังคงยืนกรานไม่ยอมรับต่อไป
“ไม่ใช่”
ทริสตันจะทำอะไรได้ เธอไม่ยอมรับเสียอย่าง เขาจะลากเธอไปโรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอ ซึ่งเธอไม่มีวันยอมไปกับเขาอยู่แล้ว
“อย่าโกหก” ชายหนุ่มสวนคำพูดเธอขึ้นมาทันควัน ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูหงุดหงิดที่ไล่ต้อนเธอให้จนมุมไม่ได้ “ผมสังเกตอาการคุณทุกวัน”
“...”
“แถมเมื่อวานผมเห็นกับตาว่าคุณเข้าไปคลินิกหมอสูติฯ คุณไปตรวจครรภ์มาใช่ไหม”
ประโยคนั้นทำให้มาธวีตัวชาขึ้นมาอีกครั้ง หัวใจเธอเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว
ทริสตันตามเธอเหรอ...เขาแอบสะกดรอยตามเธออยู่ตลอดหรือเปล่าตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น