ตอนที่มาธวีซึ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้วและกำลังจะก้าวขึ้นเตียงนอนเพื่อพักผ่อน ถึงพรุ่งนี้ทริสตันจะแจ้งแล้วว่าเป็นวันหยุดของเธอ แต่ตามเจ้านายมาทำงานไกลถึงขนาดนี้ เธอจะไปกล้าปล่อยตัวเองพักผ่อนได้ไง ก็ยังคงต้องคอยทำงานล่วงเวลากับเขาอีกอยู่ดี เพราะทริสตันนั้นได้ชื่อว่าเป็นคนบ้างานที่พร้อมจะทำงานตลอดเวลาอยู่แล้ว
มาธวีสะบัดผ้าห่ม ดึงหมอนอีกใบเอาไว้สำหรับกอดนอนคืนนี้และกำลังจะปิดโคมไฟข้างหัวเตียง หญิงสาวก็ต้องสะดุ้ง เปลี่ยนไปจับโทรศัพท์มือถือที่สั่นครืดคราดเบาๆ เป็นสัญญาณว่ามีข้อความส่งเข้ามาหาเธอ มาธวีเลยเปลี่ยนไปจับโทรศัพท์แทน แล้วพบว่าเป็นทริสตันที่ส่งมา
‘มาธวี อีกสิบห้านาทีช่วยลงมาหาผมที่คลับของโรงแรมด้วย’
หญิงสาวอ่านข้อความที่เขาส่งมาออกเสียงเบาๆ มองเวลาที่โชว์ตรงมุมโทรศัพท์ก็พบว่าตอนนี้เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ปกติทริสตันไม่เคยใช้งานเธอช่วงเวลานี้ แต่นั่นแหละ นี่ก็ไม่ใช่ช่วงปกติอยู่แล้ว มันไม่ปกติตั้งแต่เขาสั่งให้เธอมาทำงานนอกสถานที่กับเขานั่นแหละ
“อ้าว เกิดอะไรขึ้น”
หญิงสาวพึมพำ เธอได้แต่สงสัย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจขัดคำสั่งนั้นได้ จากที่กำลังจะเข้านอน มาธวีเลยลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกรอบ คราวนี้หญิงสาวเลือกสวมเดรสสีเรียบๆ ที่สวมใส่ง่ายๆ จากนั้นจึงตรงไปยังคลับของโรงแรมตามที่คนเป็นเจ้านายสั่งเมื่อพบว่าใกล้ถึงเวลาสิบห้านาทีที่เขาบอกเอาไว้แล้ว
..............................................
มาธวีตรงไปยังคลับของโรงแรม กวาดตามองเพียงรอบเดียวก็สามารถหาเจ้านายของตนเองเจอได้ทันทีท่ามกลางผู้คนมากมาย ไม่ใช่เพราะเขาเด่นสะดุดตา แต่เป็นเพราะทริสตันที่กำลังโดนประคองจากนางแบบสาวแฟนเก่าของเขาต่างหาก และอีกฝ่ายกำลังพยุงทริสตันหมายจะพาเดินออกไปจากที่นี่
เชื่อเถอะ เธอไม่ได้โง่พอจะไม่รู้ว่าพิมพ์ประภาจะพาเจ้านายเธอไปไหน และทริสตันคงรู้ตัวแน่ๆ ถึงคิดจะใช้เธอเป็นไม้กันหมาแยกนางแบบสาวออกจากเขา เพราะสองคนนี้เลิกกันไปแล้ว
แน่นอนว่าเธอย่อมรู้ดี เพราะเธอคือคนส่งของขวัญตอนเลิกกันจากทริสตันไปให้พิมพ์ประภาเองกับมือ
มาธวีตรงดิ่งไปยังพิมพ์ประภา เห็นได้ชัดว่าทริสตันดูเมาจนแทบจะยืนไม่อยู่ เธอไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มดูไร้สติขนาดนี้มาก่อน ถึงจะยังไม่หลับแต่ก็ดูพร้อมจะพับไปทุกเมื่อ เขาเงียบกริบ แทบจะไม่มองหน้าเธอแล้วเอาแต่ยืนโงนเงนไปมาโดยมีพิมพ์ประภาช่วยประคองเอาไว้
และนั่นทำให้มาธวีรู้หน้าที่ของตนเองทันที ถึงจะแปลกใจว่าแยกกันไปไม่ถึงชั่วโมง ทริสตันที่มีสติและคอแข็งเสมอเหตุใดจึงดูเมาเร็วถึงขนาดนี้
แต่ในเมื่อเธอคือหนึ่งในเลขาฯ ของเขา ทุกข์สุขของเจ้านายย่อมต้องมีเธอคอยดูแล หญิงสาวจึงรีบเข้าไปแทรกกลางระหว่างพิมพ์ประภากับทริสตัน เบียดนางแบบสาวให้กระเด็นออกไปจากเจ้านายหนุ่ม ก่อนจะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงและสีหน้าขึงขังจริงจังว่า
“ขอโทษด้วยนะคะคุณแพมมี่ คุณทริสตันสั่งไว้น่ะค่ะว่าให้ผึ้งมาหาเขา พอดีมีงานด่วนต้องคุยกัน พี่อาร์ตก็รออยู่”
เธออ้างไปถึงอาชวินซึ่งเป็นเลขาฯ หมายเลขหนึ่งของทริสตัน และเป็นคนที่ลงมือกำจัดสาวๆ ที่กีดขวางไม่ให้เจ้านายของเธอได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมานักต่อนัก
มาธวีไม่ค่อยได้ลงมือเองหรอก แต่ก็เห็นฝีมือของอาชวินที่กีดกันสาวๆ ไปจากทริสตันในยามที่เขาไม่ต้องการให้คนมาวุ่นวายอยู่หลายครั้ง จึงได้พอจดจำนำมาใช้งานจริงได้ในเวลานี้อย่างไม่ติดขัดอะไร
พิมพ์ประภาคราแรกเหมือนจะปฏิเสธ แต่พอได้ยินชื่ออาชวินจึงหรี่ตามองเธออย่างจับผิด แล้วไม่ได้เข้ามาแย่งตัวทริสตันกลับคืนไปเหมือนแต่แรก
“เธอไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม”
“ผึ้งจะโกหกได้ยังไงล่ะคะ” มาธวีรีบพูดขึ้นมาทันที แน่นอนว่าเธอย่อมโกหก แต่เรื่องอะไรจะปล่อยเจ้านายไปกับพิมพ์ประภา เพราะถ้าทริสตันรู้ว่าเธอทำอย่างนั้นทั้งๆ ที่เขาสั่งให้เธอมาแยกเขาออกจากแฟนเก่า เธอได้ตกงานแน่ๆ “เรื่องงานจริงๆ ช่วงนี้คุณทริสตันต้องประชุมทางไกลกับฝั่งอเมริกาทุกวันเลยค่ะ ทางฟีนิกซ์กำลังปรับโครงสร้างการบริหารกันอยู่ นี่ใกล้ได้เวลาประชุมแล้ว เดี๋ยวผึ้งต้องรีบหาทางปลุกให้เขาหายเมาด้วย”
เธอเอาเรื่องงานเขามาอ้าง เรื่องจริงผสมเท็จแบบนี้พิมพ์ประภาไม่รู้หรอก ในเมื่อมันเป็นเรื่องภายในองค์กร อีกอย่างฟีนิกซ์ปรับโครงสร้างจริง แต่ไม่ได้ประชุมอะไรกันทุกวัน ขืนทุกวันทริสตันก็ตายไปแล้ว เขาไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ทำงานโดยไม่หลับไม่นอนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอก เธอก็แค่หาข้ออ้างส่งๆ ไปอย่างนั้น
“งั้นเธอก็ไปยกเลิกประชุมซะ คุณทริสตันไม่มีทางหายเมาหรอกคืนนี้”
พิมพ์ประภาเอ่ยหลังจากมีสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นจึงพยายามจะดึงทริสตันไปหาตัวเอง ทว่ามาธวีรีบดึงตัวเจ้านายของเธอหลบนางแบบสาวเสียก่อนพร้อมกับตอบ
“ไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงก็ต้องหายเมาให้ได้”
เธอแสร้งทำสีหน้าร้อนอกร้อนใจ ขณะที่พิมพ์ประภาดูเหมือนจะกังวลหนักขึ้น หล่อนเหลือบมองทริสตันด้วยท่าทีมีเลศนัยโดยคิดว่ามาธวีจะมองไม่เห็น
“งั้นฉันช่วยเอง”
อีกฝ่ายเข้ามาหมายจะช่วยประคองทริสตัน แต่เป็นอีกครั้งที่มาธวีรีบปฏิเสธ และไม่ยอมให้นางแบบสาวแตะต้องเนื้อตัวทองคำของคนเป็นเจ้านาย
“อุ๊ย ไม่รบกวนคุณแพมมี่ดีกว่าค่ะ คุณแพมมี่ก็รู้นี่คะว่าคุณทริสตันเรื่องมากแค่ไหน ถ้าเขารู้ว่าผึ้งไม่ทำตามที่สั่ง ผึ้งโดนไล่ออกแน่ๆ ผึ้งยังไม่อยากตกงาน”
ตอนท้ายเธอรีบบอกนางแบบสาวด้วยสีหน้าอ้อนวอนเห็นใจ ส่งผลให้พิมพ์ประภามีสีหน้าไม่พอใจที่โดนปฏิเสธ
“เธอ!”
ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกตินั้นยิ่งทำให้มาธวีแน่ใจว่าเธอปล่อยทริสตันไปกับพิมพ์ประภาไม่ได้
“หรือมีอะไรคะ”
มาธวีถามนางแบบสาวกลับด้วยความสงสัย และนั่นทำให้พิมพ์ประภาปฏิเสธออกมาโดยเร็วทันที
“มะ...ไม่! ไม่มีอะไร!”
มาธวีไม่สนใจแล้วว่าพิมพ์ประภาจะขัดใจแค่ไหน ในเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าไม่มีอะไร งั้นเธอก็พาทริสตันกลับไปได้ใช่ไหม “งั้นผึ้งพาคุณทริสตันกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวถามหล่อนซ้ำอีกครั้ง ขณะที่คนตรงหน้ามองเธอด้วยสีหน้าขัดเคืองผสมกรุ่นโกรธ แต่ก็ยอมกัดฟันตอบรับออกมา พร้อมกับกำชับว่า
“เอาเขาไปส่งแล้วรีบออกมาเลยล่ะ”
“คะ?”
คำสั่งแปลกประหลาดนั้นทำให้มาธวีถึงกับร้องเสียงสูงคล้ายกับจะถาม อีกฝ่ายเลยไม่ตอบอะไร เอาแต่โบกมือไล่ให้เธอรีบไปจากที่นี่โดยเร็ว
“ไป รีบๆ พาคุณทริสตันไปพักผ่อนได้แล้ว”
“ได้ค่ะ”
มาธวีประคองทริสตันออกไปในทันที โชคดีที่ชายหนุ่มยังพอเดินได้อยู่ ตลอดเวลานั้นเขานิ่งเงียบจนเหมือนไม่มีสติ แต่เมื่อเธอถามอะไรเขา ทริสตันก็เหลือบตามามองและยังพยักหน้าให้เธอน้อยๆ ซึ่งท่าทางนั้นเห็นได้ชัดว่าทริสตันอาจจะไม่ได้เมามากอย่างที่คิด แต่เขาคงกำลังแสดงละครเพื่อตบตาพิมพ์ประภาแฟนเก่าอยู่ก็เป็นได้
เฮ้อ...ลำบากเธอแท้ๆ เชียว เล่นอะไรกันก็ไม่รู้
..............................................