“ก็ตรงที่แกไม่เคยพาออกงานด้วย แต่ทำไมพามางานนี้”
คำถามนั้นทำให้ทริสตันวางแก้วเหล้าลงกับบาร์ตรงหน้าเสียงดังกึก จากนั้นจึงหันไปมองคนช่างซักเต็มๆ ตา ชายหนุ่มเหยียดยิ้มอย่างสุภาพออกมาก่อนจะตอบคำถามอยากรู้อยากเห็นนั้น
“ไว้ให้หมาถาม”
“ไอ้เวร!”
มาเฟียหนุ่มเพื่อนสนิทสบถด่าออกมาทันที แล้ว ‘หมา’ ก็หันมามองเขาตาขวาง ขณะที่ทริสตันหัวเราะจนตัวสั่นที่ยั่วโมโหอีกฝ่ายได้ แล้วจึงย้อนถามกลับคืนบ้าง
“แค่พามาทำงาน ผิดอะไรด้วยวะ”
“ปกติแกมาแต่กับนายอาร์ตคนเดียวไม่ใช่เหรอวะ”
ราฟาเอลค่อนข้างรู้จักและจดจำอาชวินได้มากกว่า เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ช่วยที่ตามติดทริสตันมานานหลายปีแล้ว เคยแวะไปหาเขาที่อิตาลี หรือเขาแวะไปหายามเมื่อไปอเมริกาก็บ่อยครั้ง พอครั้งนี้เห็นผู้หญิงคนนี้ข้างกายทริสตันเลยจำไม่ได้ว่าเคยเจอแล้ว ก็เล่นสวยขึ้นผิดหูผิดตาขนาดนั้น
“อาร์ตติดธุระไง” ทริสตันตอบ “ก็พาคนนี้มาด้วย งานมันจำเป็นต้องมีคู่ควง ฉันก็ต้องพามา”
เขาไม่อยากถูกถามจี้จากใครก็ตามว่าทำไมยังไม่แต่งงานทั้งๆ ที่น้องชายฝาแฝดของเขาแต่งงานไปแล้ว ควงผู้หญิงมาสักคนให้ญาติห่างๆ พวกนั้นเลิกซักถาม แถมยังเอางานมาบังหน้าได้ด้วย ทำไมเขาจะไม่ทำ
“งั้นที่เขาพูดกันว่าแกเลิกกับแพมมี่แล้วก็จริงน่ะสิ”
แพมมี่ พิมพ์ประภา เขาเคยเจอผู้หญิงคนนี้ครั้งหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่ทริสตันคบมานานเป็นปี แถมยังเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนสาวของคนที่หวงความโสดตัวเองเป็นอย่างยิ่ง กลับคบกับพิมพ์ประภาได้นานที่สุด ถึงราฟาเอลจะรู้ดีแก่ใจก็ตามว่าอย่างไรทริสตันก็ต้องเลิก
เพราะเขาไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทจะดูรักพิมพ์ประภาสักนิดเลย...
“อืม...”
คนโสดหมาดๆ ได้แต่ครางในลำคอแล้วตอบรับ ไม่คิดจะปฏิเสธ
ราฟาเอลพยักหน้าหงึกๆ ใส่อีกฝ่าย ยกแก้วเหล้าในมือขึ้นชูไปตรงหน้าทริสตันแล้วจึงบอกกับอีกฝ่ายทั้งรอยยิ้มล้อเลียนว่า
“ดีใจที่กลับมาโสด ฉลองสิ”
“ฉันโสดมาตลอด” ทริสตันส่ายหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ยกแก้วตัวเองชนกับมาเฟียหนุ่ม “ไม่เห็นจำเป็นต้องฉลองอะไร”
ราฟาเอลส่ายหน้าให้คนโสด แล้วสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นร่างสูงเพรียวงดงามของคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่เดินเข้ามาใกล้จากทางด้านหลังของทริสตัน ราฟาเอลเลยยิ่งฉีกยิ้มล้อเลียนก่อนจะบอกกับอีกฝ่ายว่า
“แต่ว่าพ่อคนโสด โน่น มีคนมาหาแกว่ะ”
“หืม?”
“โน่นไง”
มาเฟียหนุ่มพยักพเยิดเป็นเชิงบอกให้ทริสตันหันหลัง และเมื่อชายหนุ่มทำตามก็พบว่าที่เบื้องหลังของเขาตอนนี้มีพิมพ์ประภากำลังยืนมองส่งยิ้มน้อยๆ ให้เขาอยู่
“แพมมี่”
ชายหนุ่มพึมพำเรียกชื่ออีกฝ่าย ขณะที่อดีตแฟนสาวของเขาส่งยิ้มหวานมาให้พร้อมกับถามว่า
“ทริสตัน แพมมี่นั่งด้วยคนได้ไหมคะ”
“ผม...”
ทริสตันทำท่าจะปฏิเสธ เลิกกันแล้วเขาก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับพิมพ์ประภาอีก ทว่าไอ้ตัวเสือกข้างๆ กายกลับโพล่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เอาสิครับ ผมกำลังจะลุกไปพอดี”
“ราล์ฟ!”
ทริสตันถลึงตาดุใส่คนเปิดทางไม่เป็นเรื่อง หมอนี่กำลังสร้างความยุ่งยากให้เขาชัดๆ ชายหนุ่มนึกอยากลงไปเตะเพื่อนตัวเองเป็นกำลัง แต่ติดที่พิมพ์ประภาขวางเอาไว้ และราฟาเอลก็ฉวยโอกาสนั้นโบกมือลาอย่างรวดเร็ว คาดว่าหมอนี่คงกลับไปหาเมียมันนั่นแหละ เห็นอย่างนี้ คนที่เคยเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงแทบจะทุกไตรมาสก็หลงเมียหนักมากนับตั้งแต่แต่งงานแต่งการไป
“ทริสตัน...”
พิมพ์ประภาเข้าไปนั่งแทนที่ราฟาเอล เธอเรียกชื่อเขาเสียงอ่อนหวานเหมือนตอนที่ยังเป็นแฟนกัน และดวงตาคู่สวยที่มองเขาซึ่งเต็มไปด้วยความรักทำให้ทริสตันได้แต่อึดอัดใจ
“ว่าไงแพม”
เขาหันมาทักหญิงสาวด้วยท่าทีเรียบเฉย ไม่ได้แสดงออกว่ายินดีที่เจอเธอ ทว่าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร เลิกกันครั้งนี้ก็เป็นเขาที่ขอเลิกด้วยซ้ำไป
ในเมื่อสิ่งที่ต้องการนั้นดูไร้ประโยชน์สิ้นดี เขาจะทนฝืนตัวเองคบกับพิมพ์ประภาไปอีกทำไม อีกอย่างก็ไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจอะไรเธอ เขาเริ่มเอะใจแล้วว่าเธอดูจะหลงรักเขาจริงๆ และทริสตันไม่ได้ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาพัฒนามากไปกว่านี้ถึงได้ชิงบอกเลิกเธอก่อน
แต่นั่นก็ผ่านไปนานถึงสามเดือน และเธอก็เงียบหายไปจากชีวิตของเขา ใครจะคิดว่าจู่ๆ เขาจะมาเจอเธออีกครั้ง
พิมพ์ประภาเองคล้ายกับจะรู้ตัวว่าเขาไม่ได้ดีใจที่เห็นเธอ หญิงสาวหลุบเปลือกตาลงมองพื้น ท่าทีน่าสงสารนั้นทำให้เขาใจอ่อนลงนิดหน่อย
“เราเป็นเพื่อนกันได้อยู่ไหมคะ”
“ได้สิ...”
ชายหนุ่มตอบคำถามนั้นได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เขากับพิมพ์ประภาคบกันแบบผู้ใหญ่ที่เข้าใจกัน ไม่ได้ทะเลาะหรือทำตัวร้ายกาจใส่กันจนเลิกกันไปด้วยไม่ดี ในเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็ไม่อยากตัดรอนเธอเสียจนเหมือนคนใจร้าย เมื่อเธออยากเป็นเพื่อนกับเขา ทริสตันก็ให้สถานะนั้นกับเธอได้
ขอแค่ไม่ใช่สถานะคนรักอีกต่อไป...เพราะใจเขาไม่เคยรักเธอเลย
“เฮ้อ...” หญิงสาวแกล้งถอนหายใจเสียงดังด้วยท่าทีโล่งใจที่ชายหนุ่มตอบรับ “แพมมี่ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนกับคุณเลยจริงๆ แต่ก็เข้าใจว่าคุณไม่ได้รักแพมมี่”
“ผม...”
ทริสตันพูดได้แค่นั้นก็หยุดไป ถึงไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ เพราะว่าพิมพ์ประภาพูดถูก
เขาไม่ได้รักเธอ...เพราะเขารักคนอื่นไปแล้ว
พิมพ์ประภาเรียกบริกรให้มาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้แก่เธอ และยังสั่งให้อีกฝ่ายเอาเหล้าแก้วใหม่ให้กับทริสตันด้วย จากนั้นเธอก็เงียบไปครู่ใหญ่แล้วจึงพูดขึ้นมา
“ถึงจะเลิกกันไปแล้ว อย่างน้อยก็ให้แพมมี่เป็นเพื่อนคุณก็ได้ ถ้าไม่มีธุระอะไร ยังไงนั่งดื่มเป็นเพื่อนแพมมี่ก่อนได้ไหมคะ”
“ก็ได้”
ทริสตันตอบรับ แล้วยอมรับเหล้าจากแก้วที่เธอสั่งมาให้ยกขึ้นจิบทีละนิด
“ขอบคุณนะคะ”
หญิงสาวยิ้มกว้างจนใบหน้าสวยนั้นดูสดใสสะดุดตา แต่มันก็แค่นั้น เพราะทริสตันไม่ได้รู้สึกอะไร
ชายหนุ่มวางแก้วเหล้าลง หยิบมือถือตัวเองที่คว่ำหน้าจอวางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาพิมพ์อะไรนิดหน่อย ระหว่างนั้นก็บอกกับพิมพ์ประภาไปว่า
“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธทั้งรอยยิ้มหม่นหมองที่เขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นพอดี “แพมมี่เข้าใจ ความรักมันห้ามกันไม่ได้นี่คะ ในเมื่อคุณไม่รักแพมมี่ อยู่กับแพมมี่ไปก็ไม่มีความสุข สู้ให้แพมมี่ปล่อยคุณไปดีกว่า”
เธอพึมพำบอกเขา ตอนท้ายน้ำเสียงเจือแววขมขื่นใจ ท่าทีร่าเริงจางหายไป เหลือแต่ความเจ็บปวดที่ทำให้ผู้คนเห็นใจเธอ และทริสตันก็ไม่เว้น เขาจึงยอมนั่งดื่มเหล้าปลอบโยน ‘แฟนเก่า’ ที่กำลังอกหัก และสาเหตุนั้นก็มาจากตัวเขาเอง
................................................