4

1393 Words
สองเดือนก่อน มาธวีมองรุ่นพี่หนุ่มด้วยสายตาหนักใจ เธอรั้งรอยังไม่ก้าวเข้าไปในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมที่เธอ อาชวิน และทริสตัน...ผู้เป็นเจ้านายได้เดินทางมาถึงเมื่อเช้าวันนี้ ตามตารางงานของทริสตัน ผู้ไม่รู้คิดอะไรอยู่ครั้งนี้ถึงได้สั่งให้เธอเดินทางมาทำงานทางเหนือกับเขาด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอติดตามพวกเขาทั้งสองคนมานอกสถานที่ มาไกลถึงทางเหนืออย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะคืนนี้เธอจะต้องเป็น ‘คู่ควง’ ให้กับเจ้านายหนุ่ม ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเพื่อนผู้หญิงเข้าไปในงานร่วมกับเขา และทริสตันซึ่งฉวยโอกาสนัดกับคู่ค้าในงานนี้จึงเลือกที่จะให้เธอเป็นฝ่ายมาทำงานนอกสถานที่นี้ไปพร้อมกันเลย อันที่จริงก็ใช่ว่าเธอจะไม่เคยออกงานกับเจ้านายมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทริสตันพาเธอมาไกลจากพื้นที่ของการจัดการอย่างโรงแรมในเขตกรุงเทพฯ เขาไม่เคยพาเธอมาไกลถึงขนาดนี้มาก่อน ถึงจะเข้าใจ ทว่ามาธวีก็ไม่ได้อยากจะตามมาด้วยสักเท่าไร ปกติเจ้านายของเธอเวลาออกงานไม่มีคู่ควงเขาก็มาคนเดียว บางทีก็พ่วงเอาอาชวินตามติดไปด้วย ไม่เห็นจำเป็นต้องสั่งให้เธอเดินทางมาด้วยเลย ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำอย่างนี้แท้ๆ มาธวีได้แต่บ่นพึมพำในใจ เธอไม่ชอบอยู่ในที่ที่ต้องพบเจอคนเยอะๆ ในสถานการณ์แบบนี้เท่าไร ปกติแล้วหน้าที่พบปะผู้คนเป็นของอาชวินเสียเป็นส่วนใหญ่ เธอเป็นแค่ผู้ช่วยของเขา ส่วนใหญ่จึงช่วยงานเขามากกว่าได้ออกไปรับหน้าแขกของเจ้านาย และแม้ในยามที่เธอต้องมาทำหน้าที่ติดตามเจ้านายอยู่ในงานเลี้ยง ปกติแล้วก็จะมีอาชวินคอยประกบด้วยอีกคน ทว่าครั้งนี้กลับเป็นครั้งแรกที่อาชวินไม่ได้ตามมา เลยทำให้เธอค่อนข้างหนักใจเป็นพิเศษ อาชวินที่มองสีหน้าไม่สู้ดีของเธอพลันหัวเราะ รุ่นพี่หนุ่มเดินเข้ามาตบศีรษะเธอเบาๆ อย่างเอ็นดูก่อนจะเอ่ยฝากฝังเธออย่างเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา “พี่ฝากผึ้งดูแลคุณทริสตันหน่อยนะ พี่ต้องรีบไปธุระแล้วละ” พูดจบเขาก็ละมือจากศีรษะของเธอแล้วพลิกข้อมือดูนาฬิกา แล้วพบว่านี่ใกล้ได้เวลานัดหมายแล้ว ถึงจะเข้าใจว่าอาชวินมีงานที่ต้องไปทำ ทว่ามาธวีก็อดโอดครวญกับเขาไม่ได้อยู่ดี “แต่ว่าพี่อาร์ต ผึ้งจะทำได้เหรอคะ” เธอเคยออกงานกับทริสตัน แต่อย่างที่บอก เธอไม่เคยเป็นตัวหลัก ส่วนใหญ่เป็นไม้ประดับข้างกายเขาอีกที บางทีทริสตันยังหันไปพูดกับอาชวินมากกว่า ทว่าครั้งนี้รุ่นพี่หนุ่มกลับติดงานต้องไปพบกับคู่ค้าของฟีนิกซ์แทนทริสตันที่จำเป็นต้องมางานเลี้ยงคืนนี้ และเธอต้องทำหน้าที่แทนอาชวิน ถึงจะเป็นลูกมืออีกฝ่ายมาสามปี มีประสบการณ์มากขึ้น แต่ใช่ว่าเธอจะทำได้อยู่ดี “ทำได้สิ” อีกฝ่ายตอบกลับมาทันควัน “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยที่ผึ้งออกงานกับคุณทริสตัน” “แต่งานก่อนๆ มันไม่...” “เอาน่า” อาชวินขัดการประท้วงของรุ่นน้องสาว “ถึงงานนี้จะงานส่วนตัวไปหน่อย แต่ก็คิดซะว่าเป็นงาน เห็นใจเขาหน่อยนะ” แน่นอนว่างานนี้เป็นงานเลี้ยงรวมญาติของคนเป็นเจ้านาย ซึ่งนี่แหละที่ทำให้เธออิดออดไม่อยากไปกับเขา ถึงทริสตันจะให้เหตุผลว่าลูกค้าที่เขานัดนั้นก็อยู่ในงานนี้เช่นกัน และเธอจำเป็นต้องเป็นคู่ควงให้เขาก็ตาม “ผึ้ง...” มาธวีหน้างออย่างไม่เห็นด้วย และนั่นทำให้รุ่นพี่หนุ่มรีบผลักไสเธอทันที เพราะเห็นแว่บๆ ว่าเจ้านายหนุ่มได้มาถึงงานแล้วเช่นกัน “จนมายืนรอหน้าประตูงานแล้ว ยังจะมาโยกโย้อะไรอีก ไปๆ รีบเข้างาน พี่จะไปจัดการเรื่องงานทางนี้หน่อย ไหนๆ ก็ขึ้นเหนือมาแล้ว เจ้านายเราเขาอยากนัดเจอเจ้าของไร่เคียงตะวัน ไม่รู้คุณภูรีจะมีคิวให้เราหรือเปล่า” คนเป็นพี่บ่นพึมพำถึงตารางของเจ้านาย วันนี้เขามีนัดคุยงานรอบแรกคร่าวๆ กับผู้ช่วยของเจ้าของไร่ที่เขาจะติดต่อ แล้วทำการนัดหมายให้เจ้านายของตนเองได้พบกับเจ้านายอีกฝ่าย เนื่องจากตารางงานที่รัดตัวทริสตัน ทำให้ทุกอย่างดูเร่งรีบไปเสียหมด “ค่ะ” มาธวีจำใจพยักหน้ารับ ขณะที่คนเป็นพี่อดมองท่าทีของคนที่ปกติมักจะเฉยชากับทุกอย่างรอบตัวด้วยความเห็นใจไม่ได้ เขาก็เข้าใจนิสัยของมาธวีอยู่หรอก แต่ทำงานแบบนี้ทำไงได้ ของบางอย่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ นี่ “ไม่ต้องเสียงหงอยขนาดนั้นหรอกน่า พี่รู้น่ะว่าผึ้งไม่ชอบออกงานกับเจ้านาย แต่ทำไงได้ เขาดันไม่มีคู่ควงนี่นา แฟนก็เลิกกันไปแล้ว เราเป็นลูกน้องก็ทำงานไป” คนเป็นพี่เริ่มเทศนา และนั่นทำให้มาธวีรีบโบกมือไล่อีกฝ่ายทันที “พี่อาร์ตเลิกบ่นผึ้งแล้วไปทำงานเลยไป” อาชวินได้แต่มองค้อนคนรู้ทัน เขาหุบปากที่เริ่มบ่นหญิงสาว แล้วจึงยอมเปลี่ยนเรื่องตามที่อีกฝ่ายต้องการ “โอเคๆ มีอะไรก็โทร.หาพี่แล้วกัน” เขาสั่งเธอ และนั่นทำให้มาธวีได้แต่กลอกตาไปมาอย่างระอาก่อนจะตอบโต้กลับไป “หวังว่าจะไม่มีอะไรให้โทร.หา” เพราะเธอก็ไม่อยากให้งานคืนนี้มีอุปสรรคจนเธอต้องขอความช่วยเหลืออีกฝ่ายหรอก อยากให้ราบรื่นแล้วเสร็จไวๆ นั่นแหละ อาชวินที่มองหน้ารุ่นน้องสาวด้วยสายตาขบขันรู้ทันก็ได้แต่เออออตามความต้องการของคนตัวเล็กกว่า แล้วจึงเดินเลี่ยงไปทำงานของเขาต่อ เนื่องจากใกล้ถึงเวลานัดหมายเข้าไปทุกทีแล้วนั่นเอง .......................................................................... ทริสตันนั่งจิบวิสกี้เงียบๆ เคล้ากับเสียงเพลงแผ่วหวานที่ดังขึ้นภายในคลับของโรงแรม ข้างกายเขาที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ตัวยาวคือร่างสูงใหญ่ของเพื่อนที่รู้จักกันมานับตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย มาเฟียหนุ่มทายาทมาเฟียใหญ่ในอิตาลีอย่าง ราฟาเอล มอนเตรามาโน ผู้ที่ขออนุญาตเมียมานั่งจิบเหล้ากับเขา อีกฝ่ายบังเอิญต้องมางานเลี้ยงเดียวกับที่เขาจำเป็นต้องเข้าร่วม นัยว่าเป็นญาติๆ ของทางฝั่งเมียตนเอง ราฟาเอลเลยติดตามเมียมา ซึ่งบังเอิญเจอเขาในงานเลี้ยงนั้น จึงได้นัดหมายเจอกันหลังเลิกงานแล้ว หลังจากจิบวิสกี้กันเงียบๆ อยู่เกือบครึ่งชั่วโมง มาเฟียหนุ่มก็หันมาถามทริสตันด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า ดวงตาสีน้ำเงินคู่สวยเป็นประกายล้อเลียน “แฟนใหม่เหรอ” ทริสตันกระตุกยิ้ม ว่าแล้วไงว่ามันต้องถามเขาเรื่องนี้ ราฟาเอลจ้องมองผู้ช่วยของเขาเขม็งเลยตอนที่เห็นมาธวีอยู่ข้างกายเขา ไม่ใช่อาชวินเหมือนเช่นทุกครั้ง “ไม่ใช่ เลขาฯ น่ะ” ทริสตันปฏิเสธ แต่มาเฟียหนุ่มเพื่อนสนิทเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก “หืม” อีกฝ่ายครางในลำคอ ฟังคล้ายเสียงหัวเราะอย่างไรชอบกล “จริงเหรอ ทำไมคนนี้ไม่เคยเห็นหน้า” สงสัยอะไรขนาดนั้น แล้วมันทำเหมือนไม่เคยเห็นมาธวีมาก่อน ทั้งๆ ที่เธอนั่งหน้าห้องทำงานเขานั่นแหละ มันก็เคยแวะมาหาเขาครั้งสองครั้งตอนวิ่งแร่เข้ามาปรึกษาเพราะทะเลาะกับเมีย ทำเป็นจำไม่ได้ ทั้งๆ ที่มาธวีก็แค่แต่งหน้าแต่งตัวหน่อยเท่านั้นเอง “ก็ไม่เคยพาไปไหนมาไหนด้วย” ไม่เคยพามาไกลถึงขนาดนี้... “แปลกๆ นะแก” อีกฝ่ายขมวดคิ้วสงสัยไม่เลิกสักที ทำเอาเขาข้องใจตามไปด้วย “แปลกตรงไหน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD