MY MAFIA. 9
เคยเกลียดหรือไม่ชอบขี้หน้าใครสักคนมากๆ แต่ทำอะไรไม่ได้มั้ยคะ? ทำอะไรไม่ได้ไม่พอ ยังต้องมาเข้าร่วมพิธีบ้าๆ นี้ด้วยกันอีก!
"ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย ไม่เห็นเหรอว่าผู้ใหญ่มองอยู่" เวกัสที่เป็นว่าที่คู่หมั้นที่สุดแสนจะเฮงซวยเอนตัวเข้ามาหาฉันแล้วกระซิบบอกเสียงเบา ก่อนจะตบท้ายด้วยการหัวเราะเย้ยหยันใส่ฉันอย่างน่าหมั่นไส้
"ยุ่ง!" ฉันพูดพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นแล้วหันไปทางอื่น บอกตรงๆ ว่าเป็นงานหมั้นที่โคตรอึดอัดเลย ตอนแรกที่ไม่รู้ว่าใครคือคนที่ตัวเองจะหมั้นด้วยก็ว่าแย่แล้วนะ แต่พอรู้แล้วกลับแย่ยิ่งกว่า
เฮ้อ
ตอนนี้ฉันก็ได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจวนไปวนมา ว่าถ้าเกิดว่าฉันรู้มาก่อนหน้านี้ว่าคนที่ฉันต้องหมั้นด้วยในวันนี้คือเขา... ฉันจะยอมมั้ย? และคำตอบที่ได้ก็คือ...ยอม ต่อให้รู้ว่าเป็นเขาฉันก็จะหมั้นอยู่ดี
เหตุผลก็เหมือนเดิม...คือเพื่อไม่ให้บริษัทของพ่อต้องตกเป็นของคนอื่น ซึ่งฉันเองก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น แม่เองก็คงจะเหมือนกัน ถึงท่านจะบอกว่าจะยอมปล่อย แต่เชื่อเถอะว่าพอถึงเวลาจริงๆ แม่รับไม่ได้หรอก
แม่กับฉันเราผูกพันและรักบริษัทนี้มาก มันเป็นเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำของครอบครัวฉันเลยก็ว่าได้ และมันก็เป็นสิ่งเดียวที่พ่อทิ้งไว้ให้เรา อ้อ! ลืมบอกไปว่าฉันมีน้องชายด้วยนะ ชื่อต้นน้ำ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ แต่อยู่ต่างประเทศ ค่าเทอมแพงมาก และต้นน้ำก็ไม่รู้ว่าที่บ้านประสบปัญหา และฉันก็ไม่อยากบอก เพราะไม่อยากให้น้องต้องมาเครียดด้วย
แล้วถ้าถามว่าตอนนี้ฉันจะทำยังไงต่อ ก็คงต้องหมั้นกับเขาไปนั่นแหละ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบเขาหรือจะเรียกว่าเข้าขั้นเกลียดไปเลยก็ได้ ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ถ้าเพื่อบริษัท...ก็คงต้องหมั้น...
"ไง" เวกัสปิดประตูห้องนอนของฉันก่อนเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงนิ่งๆ เย็นๆ เดาไม่ถูกเหมือนกันว่าเขาจะมาไม้ไหน หลังจากที่เราสองคนเสร็จจากพิธีหมั้นเมื่อสักครู่แล้ว ผู้ใหญ่ก็ขึ้นมาส่งตัวเราสองคนที่หน้าห้องนอนของฉัน ถ้าเป็นแต่งงานก็จะเรียกว่าเข้าห้องหอ แต่นี่แค่หมั้นฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาเรียกว่าอะไร และตอนที่ผู้ใหญ่พูดฉันก็ไม่ได้ฟัง เพราะมันแต่คิดอะไรไม่รู้วุ่นวายเต็มหัวไปหมด
"อะไร" ฉันมองเขาตาขวาง ส่วนเขาก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียงของฉันด้วยท่าทีสบายๆ
"เตียงนอนเธอนุ่มดีนะ ฉันชอบ"
"-_-"
"ฉันว่ามันต้องรู้สึกดีมากแน่ๆ ถ้าเราเอากันบนเตียงนี้ เธอคิดว่าไง" พูดจบเขาก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ฉัน บอกเลยถ้าเป็นผู้ชายอื่นที่หล่อแบบนี้มันคงทำให้ฉันเคลิ้ม แต่กับผู้ชายคนนี้ บอกเลยว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ฉันรู้สึกขยะแขยง สะอิดสะเอียนที่สุด
"เหอะ อย่าแม้แต่จะคิดว่าฉันจะยอมเอากับนาย แล้วก็อย่ามาพูดจาแบบนี้กับฉัน ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของนาย" ฉันพูดและเริ่มกำมือตัวเองแน่นอย่างห้ามไม่อยู่ และกำลังพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้
"แล้วไง? ฉันจำเป็นต้องทำตามที่เธอบอกด้วยเหรอ? แล้วก็นะ...อย่ามาทำเป็นเล่นตัวกับฉันไปหน่อยเลย เพราะต่อให้เล่นตัวให้ตาย ค่าตัวเธอมันก็ไม่อัพขึ้นไปมากกว่านี้แล้วล่ะ หึ" เขาพูดพร้อมกับมองฉันด้วยสายตาดูถูก ก่อนจะหัวเราะเย้ยหยันฉันในลำคอ
"หมายความว่าไง"
"ฉันจะบอกอะไรให้นะ ตอนนี้เธอน่ะ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากพวกโสเภณีที่ขายตัวแลกเงิน อ้อ! แต่เธอน่าจะดีกว่าหน่อยนะ เพราะเธอได้ค่าตัวเยอะกว่าคนพวกนั้นหลายเท่าเลยล่ะ"
"นาย!!" ฉันกัดฟันพูดออกมาพร้อมกับกำมือตัวเองไว้แน่น เกิดมาฉันยังไม่เคยโดนดูถูกขนาดนี้เลย แล้วเขาเป็นใคร? ใหญ่โตมาจากไหนถึงมาดูถูกฉันแบบนี้ได้
"หรือเธอจะเถียงฉันล่ะ ว่าที่งานหมั้นวันนี้ถูกจัดขึ้น ไม่ใช่เพราะว่าเธอขายตัวแลกเงิน?" เขาพูดพร้อมกับมองหน้าฉันนิ่ง ส่วนฉันก็จ้องหน้าเขากลับไปเหมือนกันด้วยสายตาที่โกรธจัด พร้อมกับมือที่ยังกำแน่นอยู่
พูดตรงๆ ว่าฉันเถียงเขาไม่ออก เพราะที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันเป็นอย่างที่เขาพูด ที่ฉันต้องมาหมั้นกับเขาวันนี้ ก็เพราะว่าฉันต้องการเงินของเขา...
"หึ! ถึงกับพูดไม่ออกเลยสิ?" เขาแสยะยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้นพร้อมกับมองฉันด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
"ฉันจะถอนหมั้น!" ฉันตัดสินใจพูดออกไปอย่างเหลืออด นี่ขนาดวันแรกเขายังทำให้ฉันรู้สึกทนอยู่ไม่ได้ ถึงจะถอนหมั้นไป...เรื่องบริษัทฉันก็ไม่ยอมปล่อยไปเหมือนกัน ฉันจะลองสู้อีกสักตั้ง สู้ด้วยลำแข้งของฉันเองนี่แหละ ถึงจะมองไม่เห็นปลายทางฉันก็จะสู้ เพราะมันน่าจะดีกว่าฉันต้องทนอยู่กับผู้ชายที่ดูถูกฉันขนาดนี้
"ฉันก็ไม่ติดอะไรนะ ถ้าเธอจะถอนหมั้น..."
"?"
"เพราะยังไงฉันก็ไม่เสียอะไรอยู่แล้ว แถมยังได้เงินมาใช้เล่นๆ อีกตั้งหลายล้าน" เขาพูดพร้อมกับหยิบเอกสารอะไรสักอย่างขึ้นมาเปิดดูแล้วยื่นมันมาตรงหน้าฉัน แล้วเขาก็ไหวไหล่เบาๆ ราวกับมันเป็นเรื่องชิลๆ
แต่ฉันนี่สิ! ถึงกับไปต่อไม่ถูก...เอกสารนั้น?
"นาย!?"
"หึ! ไม่ได้อ่านสินะ"
ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้อ่าน ฉันอ่านมันทั้งหมดแล้ว และก็เห็นว่ามันคงไม่มีปัญหาอะไร ฉันก็เลยเซ็นยินยอมไป แต่ที่ฉันพูดว่าจะถอนหมั้นไปเมื่อกี้ ก็เพราะความโมโหเลยทำให้ฉันไม่ได้นึกถึงเรื่องเอกสารนี้
"เลว!" ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดมันถึงจะเหมาะกับเขา เขารู้อยู่แล้วว่าคนที่เขาต้องหมั้นด้วยคือฉัน เขาก็เลยทำเอกสารสัญญาบ้าๆ นี้ขึ้นมา และฉันก็โง่เองที่ไม่ได้เอะใจอะไร
"ฉันก็ไม่เคยบอกว่าฉันเป็นคนดี หึ แล้วเธอล่ะ ดีมากนักหรือไง ถึงได้มาขายตัวให้ฉันแบบนี้"
"ถ้าฉันรู้ก่อนหน้านี้ว่าคนที่ซื้อฉันคือนาย ฉันจะไม่ยอมลดตัวลงมาขายให้นายเลย!" ฉันพูดไปอย่างเดือดพล่าน ในเมื่อหนีไม่ได้ก็จะสู้ให้มันตายกันไปข้าง
"ก็ต้องโทษความโง่ของเธอแล้วล่ะ จริงๆ แค่หาข้อมูลสักหน่อย แค่นี้เธอก็รู้แล้ว" ใช่! ถ้าฉันหาข้อมูลฉันก็รู้แล้ว...
"!!!"
"ลดตัวงั้นเหรอ? เธอกล้าพูดออกมาได้ยังไงว่าตัวเองลดตัวลงมา? ฉันสิต้องเป็นคนพูด เพราะฉันเป็นคนเสียเงินเป็นร้อยๆ ล้านเพื่อมาซื้อตัวผู้หญิงต่ำๆ อย่างเธอ"
เพี้ยะ!!
สุดท้ายฉันก็ตบหน้าเขาไปสุดแรงอย่างทนไม่ไหว ที่ฉันทนให้เขาดูถูกมาจนถึงตอนนี้ ก็ถือว่าฉันใจเย็นที่สุดแล้ว
"เธอกล้าตบฉันเหรอ!" เขาจับที่มุมปากของตัวเองเบาๆ แล้วถามพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างดุดัน
"เออ! นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร ใหญ่มาจากไหนวะ ถึงได้มีสิทธิ์มาดูถูกคนอื่นแบบนี้"
"แล้วจะทำไมวะ รับไม่ได้หรือไง? ยอมรับความจริงไม่ได้งั้นเหรอ ฉันจะบอกเธอเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่า...ไม่เคยมีใครกล้ามีใครกล้ามาตบหน้าฉันขนาดนี้...และต่อไปนี้ฉันจะทำให้เธอรู้เองว่าคนที่มันกล้ากับฉันน่ะ จุดจบมันจะเป็นยังไง!"
พรึ่บ!
"โอ๊ยย! ปล่อยนะ!" และฉันก็ต้องร้องออกมาอย่างสุดเสียงทันทีด้วยความเจ็บ เมื่อเขาเข้ามาดึงตัวฉันและผลักฉันให้นอนลงบนเตียง แล้วเขาก็ตามขึ้นมาคร่อมพร้อมกับล็อกมือฉันไว้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้มันคืออะไร
"ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าหลังจากที่เธอโดนฉัน 'เอา' แล้วยังจะปากดีแบบนี้ได้อีกมั้ย"
"ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!" ฉันพูดใส่หน้าเขาเสียงดังพร้อมกับพยายามดิ้นให้สุดแรง เพื่อที่จะหลุดออกจากพันธะการบ้าๆ นี่ และฉันไม่ได้หวังว่าถ้าร้องดังแล้วจะมีคนมาช่วย เพราะห้องของฉันมันเป็นห้องเก็บเสียง แหกปากยังไงก็ไม่มีใครได้ยินหรอก
"ไหนๆ ฉันก็ซื้อเธอมาแพงแล้ว ขอฉันลอง 'เอา' เช็กของหน่อยเป็นไง ว่ามันจะคุ้มราคาที่ซื้อมาหรือเปล่า"
"อ๊ะ!! อื้อ!!! กรี๊ดดดดดดด!!!"