นายหัว ตอนที่ : 06 ช่วยงาน

1521 Words
#วันหยุดวันหนึ่ง “ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย ให้มันเหมือนกับอยากไปทำ” “…..” เด็กสาวมองคนข้าง ๆ แล้วก็ถอนหายใจแรง แล้วใครว่าเต็มใจกันล่ะ เธอไม่ได้เต็มใจเลยสักนิดเดียวนะ แต่เพราะโดนเขาบังคับให้ไปต่างหาก "อยู่ที่นี่ไม่ได้ทำอะไรก็ช่วยงานกันหน่อยสิ งานบ้านเธอก็ไม่ได้เรื่องหนิ" "แต่งานในสวน มันเป็นงานของผู้ชายนะคะ ดูสิมีแต่ผู้ชายทั้งนั้น" พูดพร้อมกับมองไปยังด้านหน้า ที่เต็มไปด้วยคนงานของนายหัวคาวี ซึ่งแทบจะทั้งหมดเป็นผู้ชายทั้งนั้นเลย มีผู้หญิงไปแค่ไม่กี่คนเอง น่าจะคอยไปดูแลเรื่องอาหารต่าง ๆ งานง่าย ๆ ไม่หนักมากมายก็ยกให้ผู้หญิงทำ "ก็คอยไปช่วยฉันทำงานไง" สุดท้ายเธอก็ถูกลากขึ้นรถกระบะไป ก่อนที่นายหัวคาวีจะขับรถออกไปยังสวนที่ตัวเองทำงานทุกวัน หลังจากที่เริ่มปรับตัวกับอะไรที่นี่ได้ ก็ใช่ว่าจะสบายใช่ว่าเธอจะชิน เพราะพอเริ่มปรับตัว เธอก็ถูกเขาลากมาทำงานด้วยแบบนี้ และให้เหตุผลว่ากลัวเธอจะเถลไถลไปที่อื่น เหตุผลฟังไม่ขึ้นสักนิด ! "ถึงแล้วลงมาสิ หยิบเอาสมุดลงมาด้วย" "ค่ะ" "คอยดูคนงานเขา และก็จดตามที่คนงานเขาบอก เดี๋ยวฉันจะเข้าไปข้างในนู้น อยู่ตรงนี้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี" "ค่ะ" เธออยากจะเบ้ปากใส่ นี่ถ้าไม่เกรงใจนะ ออกคำสั่งแล้วก็ไปสมกับเป็นเจ้านายจริง ๆ เลย ที่ป้าพรเตือนเอาไว้ก็ถูก เถียงกับนายหัวน่ะไม่มีวันชนะหรอก เพราะเขาเป็นเจ้านาย ก็ยังมีความแบบตัวเองถูกเสมอ จะทำอะไรก็ได้ ต่อว่าก็ได้ ตักเตือนก็ได้ เพราะตัวเองคือเจ้านาย เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ไม่ได้นับวันหรือเวลาเลย รู้แค่ว่าตื่นเช้ามาเธอต้องทำอะไรเป็นอันดับแรก เพราะต่อจากนั้นเธอก็จะรู้ว่าควรทำยังไงต่อ ที่นี่เงียบสงบ แต่ก็รู้สึกแปลกในตัว ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังคาใจ ยังอยากได้คำตอบอยู่เหมือนกัน แต่เคยถามแล้วกลับไม่ได้คำตอบอะไร เธอก็ไม่รู้ว่าจะตั้งคำถามซ้ำ ๆ ไปเพื่ออะไรเหมือนกัน ได้แต่รอคอยเวลา ที่เธอจะสามารถไปจากที่นี่ได้ และเขาจะไม่มีวันได้ใช้อำนาจคำว่าผู้ปกครองมากดเธอไว้ได้อีก ถ้ารู้ว่ามาแล้วต้องเจอเขาที่เป็นแบบนี้ เธอจะค้านหัวชนฝาตั้งแต่แรกเลย ให้ตายยังไงก็ไม่มีวันมาที่นี่เด็ดขาด 3 ชั่วโมงต่อมา พอเริ่มสายมากขึ้นบรรยากาศในสวนก็เริ่มร้อน น้ำตาลถอดหมวกที่ตัวเองสวมมาด้วยนั้นออกก่อนจะใช้ใบหมวกเป็นพัดกระพือลมให้กับตัวเองเพราะมันร้อนมาก ร้อนจนเหงื่อแตกไปหมด ร้อนอบอ้าว ร้อนจนแทบจะเป็นลม เพราะเธอไม่เคยมาทำอะไรแบบนี้เลย เนี่ย ครั้งแรกในชีวิต .. "เข้าไปพักในร่มก่อนนะคุณหนู" "ขอบคุณค่ะ ว่าแต่ที่นี่ทำไมร้อนจังคะ" เธอถามทั้งที่มือนั้นยังจับหมวกพัดใส่ตัวเองไม่หยุด มันร้อนมากจริง ๆ นะ "แถวนี้ร้อนแบบนี้เป็นปกติค่ะ" น้ำตาลรีบเดินหลบเข้าไปในร่ม ในใจก็ได้แต่คิดว่า พวกเขาทนกันได้ยังไงนะ ร้อนขนาดนี้เป็นลมได้เลยนะเนี่ย ช็อคเพราะร่างกายขาดน้ำก็ได้ด้วย บางครั้งก็แอบคิดเหมือนกันว่า เธอมาอยู่จุดนี้ได้ยังไง จากคุณหนูใช้ชีวิตสุขสบาย ชนิดที่ว่าไม่ต้องหยิบจับทำอะไรเลย เพราะมีคนคอยดูแลทำให้หมด กลับต้องมาใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ ทุกอย่างมันเหมือนความฝันนะ แต่ก็มีวูบนึงที่ทำให้เธอได้คิดว่า นี่คือเรื่องจริง พ่อแม่ของเธอจากไปแล้ว เรื่องนี้เธอพยายามทำใจให้ยอมรับ แต่มันยากจริง ๆ ทุกวันนี้ไม่ได้ร้องไห้ก็แค่ไม่ได้คิดถึงเท่านั้นแหละ “โอ้ยร้อน !! ” เด็กสาวยืนบ่นงุบงิบอย่างหัวเสีย เพราะอากาศมันร้อนจนพาลทำเอาอารมณ์หงุดหงิดไปหมด แต่หารู้ไม่ว่านายหัวคาวีนั้นยืนมองอยู่ด้านหลัง “แค่นี้ไม่ตายหรอกน่า คนอื่นเขาก็ยังทำกันได้ ไม่เห็นมีใครบ่นแบบเธอเลย” อากาศก็ร้อนอยู่แล้ว อารมณ์ก็ร้อนพอกับอากาศเลย กลับต้องมาถูกตำหนิเพียงเพราะเธอบ่นเรื่องนี้ ก็มันร้อนจริง ๆ นี่นา อีกอย่างเธอก็ไม่เคยมาทำงานแบบนี้ด้วย จะเถียงกลับก็นึกถึงคำพูดของป้าพรที่เคยเตือนไว้ สุดท้ายก็ทำได้แค่เบือนหน้าหนี “กว่าจะได้เงินแต่ละบาท ดูเอาไว้” “ดูทำไมคะ ?” “ก็ดูไว้ไง จะได้นึกถึงตอนใช้เงิน กว่ามันจะได้แต่ละบาทน่ะ มันลำบากขนาดไหน” “….” เด็กสาวถอนหายใจแรง ก่อนจะเดินหนีไปทางอื่น เพราะยิ่งเห็นหน้าเขายิ่งหงุดหงิด ตกเย็นวันเดียวกัน “กลับมาแล้วเหรอคะคุณหนู” “ค่ะป้าพร วันนี้หนูไม่กินข้าวนะคะ ขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อนค่ะ” “อ่าว…” พอลงจากรถน้ำตาลก็รีบเดินเข้าบ้านทันที ป้าพรที่ออกมารอต้อนรับด้วยความสดใสก็ทักทาย แต่เธอกลับไม่มีอารมณ์เลย เพราะวันนี้มันเหนื่อยมาก ร้อนทั้งวัน แล้วก็ถูกนายหัวคาวีใช้ทำงานอันนั้นอันนี้ไม่หยุด เหมือนถูกเขาแกล้ง จนกระทั่งนายหัวคาวีเดินตามมา “ทะเลาะกันอีกแล้วหรือนายหัว” ป้าพรถาม “หึหึ ไม่หรอกครับ เธอก็แค่ไม่พอใจ ที่ผมให้เธอไปทำงานด้วย” “คุณหนูอยู่แต่บ้านก็ดีอยู่แล้วนี่ คนงานก็เพียงพอจะให้ไปทำไม คุณหนูไม่เคยทำ ตากแดดตากลมเดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก” “…..” นั่นสินะ เขาลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย เพราะเธอไม่เคยต้องทำงานหนัก ไม่เคยต้องไปตากแดดร้อน ๆ ทำงานทั้งวัน ลูกคุณหนูหัวอ่อนแบบเธอ มาทำงานหนักแบบนี้ครั้งแรก อาจจะไม่สบายไข้แตกเลยก็ได้ “ยังไงป้าพรก็ขึ้นไปดูทีนะครับ ให้เธอกินยาดักเอาไว้เลยก็ได้” “แกล้งหรือเปล่าคะ ?” “เปล่าครับ ผมไม่ได้แกล้ง ก็แค่อยากให้เธอได้เรียนรู้อะไร ๆ พ่อแม่ไม่อยู่แล้วลำพังตัวคนเดียว จะเอาตัวรอดได้สักกี่น้ำกันเชียว” “นี่ถ้าป้าไม่รู้จักนายหัว คงคิดว่านายหัวกำลังซ้ำเติมเธอ กลั่นแกล้งเธออยู่นะคะเนี่ย” “ยังไงก็ฝากป้าพรดูแลด้วยนะครับ” “จ้ะ ๆ” หลังจากพูดคุยจบแล้ว นายหัวคาวีเองก็แยกย้ายขึ้นห้องนอนของตัวเองเช่นกัน ด้วยความที่เขาเองก็เติบโตมากับชีวิตแบบนี้ และก็ไม่เคยต้องสอนใคร สิ่งเดียวที่จะทำให้เธอเรียนรู้ได้ก็คือการเจอกับตัวเอง เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ก็เลยจะสอนเธอในแบบที่ตัวเองเป็น แต่ลืมไปเหมือนกันว่าเธอไม่เหมือนกับเขา ไม่ใช่ว่าจะปล่อยปละละเลยอะไร แต่เขาแค่ไม่รู้ว่าควรต้องทำแบบไหน ทั้งชีวิตนี้หลังจากไม่มีพ่อแม่ เขาก็อยู่ลำพังมาตลอด ชีวิตโดดเดี่ยว และอยู่กับงานของตัวเอง เลยสอนใครไม่เป็นเลย เป็นแต่ด่าคนเนี่ยแหละ งานถนัดเลย ***************** ทางด้านของน้ำตาล วันนี้เธอเหนื่อยมากจริง ๆ เหนื่อยจนกินข้าวไม่ลง พออาบน้ำเสร็จทำอะไรเสร็จสรรพเรียบร้อยเธอก็เข้านอนในทันที ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอก็พยายามปรับตัว เพื่อที่จะให้ตัวเองอยู่ที่นี่ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีปัญหากับใคร บางอย่างก็รู้สึกชินไปเพราะทำอยู่ประจำ แต่บางอย่างไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่ชิน แล้วยังจะมีเรื่องใหม่มาอีก นี่เธอต้องเจอกับอะไรอีกบ้างล่ะ บางครั้งก็เหนื่อย ท้อ เศร้า อึดอัดอยากระบายมันออกมา จนบางครั้งเธอก็แอบร้องไห้คนเดียว และก็ได้แต่นึกในใจว่า ‘น่าจะมีโทรศัพท์สักเครื่องนะที่สามารถโทรหาคนบนฟ้าได้’ เพราะเธอจะโทรหาพ่อกับแม่เธอทุกวันเลย สักวันเธอต้องรู้ให้ได้ ว่าเพราะอะไรทำไมเธอถึงถูกส่งมาที่นี่ เขาคือใครกันแน่ ทำไมถึงเป็นคนที่พ่อแม่เธอไว้ใจขนาดนั้น ที่จะให้ดูแลเธอ คำถามเหล่านี้มันคาใจ และเธอไม่มีวันลืม เธอจะต้องหาคำตอบให้ได้ !!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD