“ ใจถึงนะเนี่ย เพื่อนอาจารย์คงจะชอบมึงมากเลยนะไอ้Djน่านน้ำ ถึงกับจองโต๊ะVip คงจะอยากให้มึงใช้ปากป้อนลูกอมมากหละสิถึงได้จองใกล้ขนาดนั้น ”
พระพายรีบหันมามองน่านน้ำทันที อยากจะรู้ปฏิกิริยาของเขาว่าจะเป็นยังไง แล้วน่านน้ำก็นั่งนิ่งๆไม่ได้มีทีท่าแสดงอาการอะไรออกมาเลย
มีแค่หยิบบุหรี่ออกมาจุดแล้วเดินออกจากกลุ่มเพื่อนไปด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย พระพายก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากำลังคิดอะไรกันอยู่ แต่เธอรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงทำให้เธอหงุดหงิด ยิ่งเห็นตอนที่น่านน้ำพูดถึงผับที่จะไปเปิดเพลงยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“ ก็แค่โต๊ะ Vipแกจะเอาทั้งร้านยังได้เลยแพรไหม ชิ!อยากให้Djน่านน้ำใช้ปากป้อนลูกอม ฝันไปเถอะ แกคอยดูนะพรุ่งนี้โต๊ะVIPทุกโต๊ะจะถูกจองในชื่อของฉันหมด ”
“ แกจะทำอะไรพระพาย !?”
แพรไหมนั่งทำหน้างงๆ แต่ไม่ใช่แพรไหมคนเดียวที่ทำหน้างงๆ ภาคินที่นั่งอยู่ด้วยก็งงเหมือนกัน อย่าบอกนะว่าเธอจะแกล้งเพื่อนอาจารย์ เพราะพระพายไม่ชอบการน้อยหน้าที่สุด อะไรที่ทำแล้วเธออยู่เหนือคนอื่นเธอจะยิ้มสะใจอย่างผู้ชนะ
เรียกได้ว่าเป็นคุณหนูที่เอาแต่ใจมากที่สุดก็ว่าได้ ไม่ว่าเธออยากได้อะไรเธอต้องได้ เพราะเธอสามารถซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงิน และครั้งนี้ก็เช่นกันแค่โต๊ะ VIP ในผับแค่นั้นทำไมเธอจะซื้อไม่ได้
“ ไม่น่าถามเลย ฉันก็บอกแล้วไงว่าโต๊ะ VIP ทุกโต๊ะพรุ่งนี้ต้องเป็นของฉัน แล้วพวกแกก็ต้องไปด้วยฉันมีอะไรสนุกๆเล่นแก้เบื่อพอดี ชวนเพื่อนในห้องไปด้วยสิพรุ่งนี้วันเกิดไอ้น่าน แต่อย่าบอกให้มันเด็ดขาด ”
“ เออจริงด้วยพรุ่งนี้วันเกิดไอ้น่านหนิ แกจะเซอร์ไพรส์มันใช่ไหม ?”
แพรไหมดูท่าทางจะตื่นเต้นและดีใจที่จะได้ไปที่ผับดังLeft On Read แต่ก็แอบสงสัยอยู่ว่าพระพายจะเซอร์ไพรส์น่านน้ำจริงๆหรอ
ปกตินางไม่ชอบน่านน้ำหนิ แถมยังหาเรื่องกลั่นแกล้งมันสารพัด ทั้งด้อยค่าเขา ทั้งควงผู้ชายมาอวดต่อหน้าต่อตาคู่หมั้นอย่างน่านน้ำ
แต่ไอ้น่านก็ยังยอมให้เธอทำแบบนั้นกับตัวเอง ไม่รู้ว่ามันจะยอมทำไมทั้งๆที่มันสามารถใช้สิทธิ์ในการเป็นคู่หมั้นได้ แต่มันก็ไม่ยอมทำเอาแต่ตามใจพระพายจนเธอไม่เห็นค่าแล้ว
“ เซอร์ไพรส์แน่ฉันจะชวนพี่กรไปด้วย แล้วเรื่องนี้พวกแกก็ห้ามบอกกับไอ้น่านเด็ดขาด เดี๋ยวจะไม่เซอร์ไพรส์ ”
“ พระพาย !”
แพรไหมกับภาคินได้แต่นั่งส่ายหน้าให้กับความคิดของพระพาย คงหนีไม่พ้นที่จะทำให้น่านน้ำเสียใจตามเคย
น่านน้ำเดินกลับเข้ามาหากลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งพักอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะ ก่อนจะมีสาวๆกลุ่มนึง4-5คนเดินเข้าในกลุ่มของน่านน้ำ
ทุกคนต่างมองไปที่น่านน้ำด้วยสายตาเดียวกันหมด เพราะดูเหมือนนี่จะเป็นกิจวัตรประจำวันของมันเลยก็ว่าได้ ว่างเมื่อไหร่สาวๆเข้ามาขอcontact เพียบ
“ พี่น่านน้ำคะ ขอcontactของพี่ได้ไหมคะ ”
“ ได้ครับ แต่พี่มีไว้ให้ติดตามดูงานเท่านั้นนะ ถ้าใครทักแชทมาคุยเรื่องส่วนตัวพี่ขอบล็อกนะครับ พี่แจ้งไว้ก่อนถ้ารับได้ก็ตกลงแต่ถ้ารับไม่ได้ก็เลิกตามพี่ได้นะ ”
“ เพราะพี่เป็นคนตรงๆแบบนี้ไงพวกเราถึงอยากติดตามพี่ ขอให้พี่ถูกค้นพบมากๆและตกคนได้เยอะๆนะคะ พี่จะได้ดังๆ พวกหนูจะคอยซัพพอร์ตพี่นะคะ ”
คำพูดของรุ่นน้องพวกนี้ทำให้น่านน้ำยิ้มกว้างออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีความสุขเมื่อพูดถึงการเป็นDjเปิดเพลงสร้างความสุขให้กับอีกหลายๆคน
“ เป็นเด็กเป็นเล็กตั้งใจเรียนหนังสือให้มากๆก็พอ จะมาsupport อะไรพี่ครับ หาตังค์เองเป็นแล้วหรือไง หืมม ”
“ พี่น่านน้ำนี่หน้าตาหล่อไม่พอ ใจยังหล่ออีก ขอบคุณนะคะ งั้นพวกหนูไปแล้วนะไว้เจอกันที่Left On Read นะคะ บ๊ายบาย ”
“ ครับ ”
หลังจากที่สาวๆออกไปน่านน้ำก็โดนเพื่อนแซวทันที โดยเฉพาะภาคิน
“ เดี๋ยวนี้สาวๆมาขอcontact เยอะเลยนะ ขอให้พี่ถูกคนพบมากๆตกคนได้เยอะๆนะคะ เดี๋ยวพวกหนูจะคอย support พี่ เดี๋ยวนี้มึงมีเด็กๆมา support ด้วยหรอวะชักจะดังใหญ่แล้วนะมึง ”
“ ดังอะไรของมึง ยังไม่ดังขนาดนั้นสักหน่อยรอให้มีคนมาจ้างกูไปเล่นที่ต่างประเทศก่อนเถอะค่อยมาว่าดัง ”
ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเรื่องการเป็นดีเจของน่านน้ำ จะมีอยู่คนนึงที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆแพรไหม และไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สีหน้าบ่งบอกอย่างเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง
แพรไหมกับภาคินก็พึ่งจะสังเกตเห็นว่าเพื่อนตัวเองกำลังนั่งหน้าบึ้งอยู่ไม่รู้ว่าไปโกรธให้ใครมา หรือว่าจะโกรธที่ป่านนี้นายกรยังไม่มา
พระพายมองหน้าน่านน้ำแล้วยิ่งรู้สึกโมโหเข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าน่านน้ำไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจเข้า แค่หันมาเจอหน้าของเขาเธอก็นั่งหายใจฟึดฟัดขึ้นมาทันที
“ แกเป็นอะไรพระพาย ”
“ เปล่า!”
“ เปล่าแต่เสียงสูงมาก ตกลงแกกำลังโมโหให้ใครอยู่ หรือว่าโมโหที่สาวๆพวกนั้นเข้ามาขอcontact น่านน้ำ ”
แพรไหมก็พูดแซวๆพระพายไปงั้นๆแหละ เพราะเธอรู้ว่ายังไงพระพายก็ไม่ได้หึงน่านน้ำอยู่แล้ว แล้วไอ้นี่ก็อีกคนนั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ได้ตกลงพวกมัน 2 คนเป็นอะไรกันวะเหมือนกับโกรธกันอยู่ยังไงยังงั้น
น่านน้ำรู้ว่าที่เขานั่งหน้าบึ้งอยู่แบบนี้เป็นเพราะกรยังไม่มาหาเธอ ทั้งที่ปกติเวลาพักแบบนี้เขาไม่เคยพลาดที่จะมาหาพระพาย
“ อย่าพูดจามั่วๆอีกนะแพรไหม หน้าแบบไอ้น่านน้ำเนี่ยนะจะทำให้ฉันโมโหที่มีผู้หญิงมาขอคอนแทคมัน ถ้าเข้ามาขอคอนแทคพี่กรก็ว่าไปอย่าง รายนั้นถ้าฉันเจอฉันจะวีนให้มหาลัยแตกเลย ”
“ หึ!มึงคงจะเห็นหรอกมันสับรางเก่งขนาดนั้น ป่านนี้แล้วทำไมยังไม่เห็นโผล่หัวมาหละ หรือมัวแต่ไปล่อสาวที่ไหนอยู่ ”
น่านน้ำอดหมั่นไส้ไม่ได้ที่จะพูดแซะขึ้นมา เพราะคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าไม่ฟังที่เขาเตือนเลย ไม่รู้จะชอบอะไรนักหนาผู้ชายที่ทำตัวเจ้าชู้แบบนั้น
อยากจะรู้จริงๆว่าถ้าเจอเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นแล้วจะร้องไห้ฟูมฟายแค่ไหน ถึงวันนั้นแล้วอย่าร้องไห้มากอดเขาก็แล้วกัน
“ นายอย่ามาว่าให้พี่เขาแบบนั้นนะ โกรธที่ฉันสนใจพี่เขามากกว่าหละสิถึงได้หาเรื่องใส่ร้ายเขาไม่หยุด นับวันแกยิ่งทำให้ฉันผิดหวังมากขึ้นทุกวันเลยนะน่านน้ำ ถ้านายทนไม่ไหวก็ไปถอนหมั้นซะ ”
“ ไม่มีทาง กูบอกแล้วไงว่ามึงยิ่งอยากถอนหมั้นเท่าไหร่กูยิ่งอยากแต่งงานกับมึงมากเท่านั้น ”
ยิ่งพระพายไล่เขาเขายิ่งอยากเอาชนะเธอมากขึ้น ต่อให้เธอจะเกลียดเขาก็ตามเขาจะไม่มีทางปล่อยพระพายไป
แล้ววันนี้ก็ไม่เห็นหน้าคนที่พระพายเรียกว่าแฟนมาหาเธอ พระพายโทรหาเขาทั้งวันก็ไม่รับยิ่งทำให้เธอโมโหฟาดงวงฟาดงาใส่น่านน้ำ ไม่ว่าน่านน้ำจะทำอะไรก็ดูจะขวางหูขวางตาเธอไปหมด
“ กลับบ้านได้แล้วพระพาย วันนี้พี่กรของมึงไม่มาหรอกจะมานั่งรอมันทำไม เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็หาข้อแก้ตัวมาคุยกับมึงเอง ”
“ น่านน้ำ!นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดให้พี่กรแบบนั้น จะไปไหนก็ไปเลยนะ ไปให้พ้นๆหน้าฉันยิ่งดียืนขวางลูกตาฉันอยู่ได้รำคาญ ”
แพรไหมรีบดึงพระพายออกมาจากน่านน้ำ ขืนปล่อยให้สองคนนี้อยู่ด้วยกันมีหวังได้ทะเลาะกันแน่ ไม่ใช่แค่ทะเลาะหรอกแต่สงสารน่านน้ำมากกว่า ยอมให้พระพายเหวี่ยงอารมณ์ใส่ทั้งวัน
รู้ทั้งรู้ว่าเธอโมโหไม่ชอบให้ตัวเองเข้าไกล้ น่านน้ำก็ยังไปแขวะแฟนเขาหาเรื่องให้พระพายด่า มันไม่เจ็บบ้างเลยหรือไงที่เขาด่าแบบนี้ทุกวัน
“ น่านน้ำ กูถามมึงจริงๆว่าทำไมมึงต้องทนด้วยวะ ทำไมมึงต้องชอบให้เขาด่า ชอบให้เขาไล่เหมือนหมูเหมือนหมามึงมีความสุขรึไง ”
ภาคินอดไม่ได้ที่จะถามน่านน้ำ เพราะตลอดตั้งแต่รู้จักกันมาเขาเห็นน่านน้ำยอมให้พระพายด่า ยอมให้เขาไล่ แล้วยังจะยอมให้เธอควงผู้ชายต่อหน้าอีก
ก็เข้าใจว่าน่านน้ำรักพระพายแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยอมถึงขนาดนั้น ถ้าเป็นเขาเขาคงต่อยหน้าไอ้กรให้หน้าหงายไปหลายครั้งแล้ว แต่นี่เขาอดทนมากมากจนบางครั้งคิดว่าน่านน้ำโง่
“ มึงไม่เข้าใจหรอกว่าตอนเป็นเด็กพระพายติดกูแค่ไหน เวลากูจะไปไหนมาไหนต้องเดินตามกูตลอด ชอบอ้อน ชอบขอให้กูทำนู่นทำนี่ให้กูอยากย้อนเวลากลับไปเหมือนตอนนั้นจังเลยว่ะภาคิน ”
“ ไอ้น่านเอ๊ย ”
น่านน้ำที่กำลังมองแผ่นหลังของพระพายที่เดินนำหน้าเขาอยู่กับแพรไหม เมื่อย้อนนึกถึงตอนเป็นเด็กพระพายน่ารักมากสำหรับเขา
#พระพายวัย5ขวบ
พระพายชอบตามพูมพี่ชายฝาแฝดของเธอมาเล่นที่บ้านน่านน้ำบ่อยๆ เพราะพูมกับน่านน้ำเป็นเพื่อนกัน แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิงพูมจึงไม่ค่อยอยากให้น้องมาเล่นด้วย
ผู้หญิงกับผู้ชายจะเล่นด้วยกันได้ไง เพราะพระพายชอบเอาแต่ใจอยากให้เล่นตุ๊กตาเป็นเพื่อน แต่พูมไม่อยากเล่นตุ๊กตาด้วยจึงมาหาน่านน้ำที่บ้านเพราะรำคาญเด็กเอาแต่ใจอย่างพระพาย
“ ฮึก~พี่พูม รอพระพายด้วย ฮึก~ฮือๆ ”
พระพายวิ่งตามพูมมาทำให้หกล้มมีแผลที่เข่า เธอนั่งกอดเข่าร้องไห้พอเห็นน้องล้มพูมก็รีบวิ่งเข้ามาหาน้องสาวที่กำลังนั่งกอดเขาร้องไห้อยู่ทันที
น่านน้ำเห็นพระพายนั่งร้องไห้ก็รีบเข้ามาอุ้ม
เธอเข้าไปในบ้าน พระพายยิ่งเห็นน่านน้ำมาอุ้มยิ่งร้องไห้เสียงดังเข้าไปใหญ่ ทำให้น่านน้ำกับพูมยิ่งตกใจทำอะไรไม่ถูก
“ พระพายเจ็บตรงไหนครับ ให้น่านน้ำดูหน่อย ”
คนตัวเล็กเอามือปิดเข่าไว้เอาแต่ร้องไห้จนสะอื้น ทั้งน้ำตาน้ำมูกไหลปะปนกันทำให้พูมกับน่านน้ำรีบเช็ดหน้าน้อง ต่างพากันหน้าเสียกันทั้งคู่โดยเฉพาะพูมที่เป็นต้นเหตุให้น้องวิ่งตามจนหกล้มเลือดออก
“ น่านน้ำ~ฮึก~พระพายเจ็บ ฮือๆ~ ”