“งั้นเหตุผลของคุณคืออะไร”
“ก็แค่...ผมชอบคุณ”
“แค่นั้น!?” ดุจมาตาขมวดคิ้วมุ่น ไม่เชื่อและไม่มีวันเชื่อเป็นอันขาด เหตุผลนี้มันไร้สาระเกินไปจนเธอเชื่อไม่ลง
“ใช่ ง่ายๆ แค่นั้น”
“จะให้ฉันเชื่อเหรอ?” เธอกระตุกยิ้มเยาะ คิดว่าเธอเป็นเด็กห้าขวบรึยังไง?
คชาสืบเท้าเข้ามาเกยพิงขอบเตียง มือเรียวยาวเชยคางเธอขึ้น สบสานสายตากันในระยะใกล้ชิด ดุจมาตาเห็นแววลุ่มลึกหลงใหลในดวงตาคู่นั้นอย่างชัดเจน มันเอ่อล้นออกมาแทรกซึมเข้าถึงหัวใจเธอ ก่อให้เกิดคลื่นแห่งความสับสน
จู่ๆ ใจก็เต้นแรงระส่ำไม่เป็นจังหวะ ทั้งตัวคนก็เกิดรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง จะเก้อเขินก็ไม่ใช่ หวั่นไหวก็ไม่เชิง...
“รู้สึกถึงมันมั้ย”
เสียงห้าวทุ้มดึงดูดความสนใจเธอจนไม่อาจละสายตาจากเขาได้ รอยยิ้มบางเบามีเสน่ห์เกินต้านทาน ทำให้คนใจสะท้านโดยที่ไม่ต้องพยายามเลยสักนิด
“อะไร?” เธอถามกลับเสียงเบาหวิว สติและหัวใจจมหายไปในแววตาคู่คมที่ดึงดูดใจคนให้มัวเมา
“หัวใจผม” พูดพลางยกมือบางแนบชิดกับอกซ้ายของตัวเอง
ตึกตัก...
ดุจมาตาสัมผัสได้ถึงแรงดีดตัวที่กระทุ้งผ่านฝ่ามือเธอ ได้ยินเสียงทุกจังหวะที่เต้นแรง ยิ่งสบตาแพรวพราวที่มองกันราวกับจะกลืนกินเธอ หญิงสาวยิ่งหวั่นไหวจนหน้าแดงซ่าน หัวใจยิ่งเต้นกระหน่ำจนเหมือนจะกระดอนออกมานอกอกเสียให้ได้
ไม่อยากยอมรับ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ชายตรงหน้ามีเสน่ห์อย่างเหลือร้าย ไม่ว่าใครที่ได้สบตากับเขาก็ต้องพ่ายแพ้ทุกราย
ไม่เว้นแม้แต่...เธอ!
“ผมจะแย่งคุณมาให้ได้”
ดุจมาตาเบิกตาโตกับน้ำเสียงนุ่มละมุน แต่ความหมายนั้นหนักแน่นราวกับกำลังประกาศศึก
“คุณเอาจริงเหรอ?”
แบล็กการ์ดไม่จำกัดวงเงินที่มีเฉพาะสมาชิกระดับ VVIP เท่านั้นที่จะได้รับเชิญถูกวางลงบนฝ่ามือบางของดุจมาตา เธอมองมันด้วยความตื่นตะลึงผิดกับคนให้ที่มีรอยยิ้มสบายๆ
“ถือเป็นค่าสินสอด”
หญิงสาวเม้มริมฝีปาก ไม่รู้ว่าควรจะเชื่อหรือไม่เชื่อน้ำคำของอีกฝ่ายได้มากน้อยแค่ไหน ไม่รู้ว่าคชามีแผนอะไรในใจอยู่กันแน่
แต่เธอต้องสนด้วยหรือ?
เธอเองก็มีแค้นที่ต้องสะสาง จะเชื่อหรือไม่เชื่อเขาแล้วยังไงล่ะ แค่เธอหาแนวร่วมที่จะโค่นล้มทำลายพีรวิชญ์ให้สิ้นซากก็พอแล้ว อย่างอื่นไม่จำเป็นต้องสนใจ ขอแค่มีจุดหมายเดียวกันก็เป็นอันใช้ได้
‘ล่มหัวจมท้าย’ กัน นี่ต่างหากคือสิ่งที่เธอควรให้ความสำคัญ!
“คุณกล้าบุกมาชิงตัวเจ้าสาวกลางงานแต่งมั้ย” ตัดสินใจลองหยั่งเชิงถามเขา
คนถูกลองเชิงยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม แล้วหยั่งเชิงเธอกลับว่า
“งานเสี่ยงๆ แบบนี้ มีอะไรเป็นค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกันล่ะ”
ดุจมาตาขมวคิ้วมุ่น คิดแล้วว่าน้ำคำที่เขาบอก ‘ชอบ’ เชื่อถือไม่ได้ แค่พูดว่าจะแย่งเธอมาเป็นเรื่องง่ายๆ แต่การจะชิงตัวเจ้าสาวกลางงานแต่งนั้นเป็นเรื่องใหญ่
“คุณต้องการอะไรล่ะ อำนาจ ชื่อเสียง หรืออะไรที่ฉันสามารถทำได้ ฉันยินดีแลกเปลี่ยน” เอ่ยถามเขาตรงๆ ด้วยไม่อยากจะมัวเล่นลิ้นเสียเวลา
“คุณไม่รู้เหรอ” ...ว่าผมต้องการอะไร?
หญิงสาวยิ่งมีสีหน้ายุ่งยาก ใช่ว่าจะไม่รู้เสียทีเดียว แต่สิ่งที่เขาอยากได้นั้นทำให้เธอลำบากใจมากเกินไป เลยไม่รู้ตอบแบ่งรับแบ่งสู้อย่างไรดี
จะปฏิเสธก็ไม่เป็นผลดี แต่ครั้นจะตอบรับก็ฝืนใจเธอเหมือนกัน...
เธอไม่รู้จักคชาดีพอ แทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเขาอยู่ในหัวเลยสักนิด นอกจากนามสกุลดังพ่วงท้ายที่ช่วยเสริมบารมีให้เขาเป็นที่พินอบพิเทาแล้ว ที่เหลือเธอไม่อาจคาดเดาความคิดของเขาได้ ยิ่งตอนนี้ที่ได้สบตากับคชาชัดๆ เธอยิ่งเดาใจเขาไม่ออก เขามักมีรอยยิ้มสบายๆ ท่าทางลอยชายเป็นคุณชายเจ้าสำราญ แต่เธอคิดว่าลึกลงไปข้างในเขาคงไม่ได้ง่ายอย่างที่แสดงออกแน่
แค่ที่กำลังต่อรองกันอยู่ ยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อยอย่างไรเลย คู่เจรจาของเธอเหลี่ยมจัดและเจ้าเล่ห์แพรวพราวเสียขนาดนี้ พูดจาโยกโย้ยอกย้อนไปมา ไล่ต้อนให้เธอตกหลุมพรางจนกว่าจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการสมใจ
เขามันคนอันตราย!
เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอรู้สึกและสัมผัสได้จากผู้ชายที่ชื่อ...คชา ธนฉัตรนคร