“ฟื้นได้แล้วมั้ง” เสียงห้าวทุ้มกระซิบข้างหูพร้อมลมหายใจกรุ่นสะอาดได้กลิ่นหอมของมินต์จางๆ เป่ารดติ่งหูและนวลแก้ม
ดุจมาตาค่อยๆ ปรือตาขึ้น ย่นคิ้วมองคนที่แอบเข้ามาในห้อง หลังจากที่พ่อแม่เธอเพิ่งออกไปหยกๆ สีหน้าเจือแววไม่พอใจ ก็เพราะคชานี่แหละที่ทำให้งานหมั้นของเธอล่มไม่เป็นท่า ถึงตัวการใหญ่ที่ทำให้เธอคิดจะถอนหมั้นคือพีรวิชญ์ก็จริง แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพาเธอไปอยู่ตรงจุดนั้น ไม่เห็นภาพบาดลึกเสียดแทงใจก่อนพิธีจะเริ่มเพียงไม่กี่นาที เธอก็คงไม่ตัดสินใจล้มงานหมั้นกะทันหัน
และดูเหมือนว่าผู้ชายที่อุ้มเธอมาส่งถึงมือหมอจะรู้ทันว่าเธอไม่ได้หลับ แต่แกล้งหลับ พอคล้อยหลังบุพการีของเธอปุ๊บ เขาก็เปิดโปงเธอทันที
“ทำไมคุณยังอยู่อีกล่ะ” หรือแค่นี้เขายังไม่สะใจ เลยอยู่ชื่นชมผลงานที่สร้างความร้าวฉานให้เธอกับคนรักแตกหักกันได้สำเร็จ
ที่เธอไปอยู่ในห้องที่ติดกับห้องที่พีรวิชญ์กับสุธาสินีบรรเลงสวาทกันอย่างดุเดือด ต้องทนมองภาพฟังเสียงคมชัดระดับเอชดี ก็เป็นพ่อตัวดีนี่แหละที่แอบเอากล้องวงจรปิดและเครื่องดักฟังไปติดเอาไว้ที่ห้องนั้น เธอรู้ว่าเป็นฝีมือคชาโดยไม่ต้องสงสัย เพราะเขาเป็นเจ้าของโรงแรมที่เธอจัดงานหมั้น เรื่องพวกนี้จึงง่ายเหมือนปอกกล้วย
แต่ที่เธอไม่เข้าใจคือเขาทำไปเพื่ออะไรมากกว่า?
แค่เพราะศรศิลป์ไม่กินกัน เขาต้องตามทำลายล้างพีรวิชญ์ขนาดนี้เชียวหรือ มันดูว่างมากเกินไปมั้ง...
ดุจมาตาไม่คิดว่าผู้ชายเหลี่ยมจัดคนนี้จะมีความคิดที่ตื้นเขินเพียงเท่านั้น
“ผมเป็นห่วงคุณ”
ดุจมาตายิ้มเยาะ สีหน้าบ่งบอกว่าไม่เชื่อเลยสักนิด
“เป็นห่วง? ถ้าคุณรู้สึกอย่างที่ปากพูดจริงๆ ละก็ คุณคงไม่จัดฉากพาฉันไปเห็นอะไรที่มันอุบาทว์แบบนั้นหรอก”
คนถูกเหน็บกลายๆ ไหวไหล่
“มันเป็นสิ่งที่คุณควรรู้ หรือคุณอยากจะปิดหูปิดตาตัวเอง”
...แล้วยอมเป็นคนโง่ให้ผู้ชายหลอกลวง?
ใช่! เธอไม่ยอม
ดวงตาของดุจมาตากร้าวขึ้น เมื่ออ่านความหมายในดวงตาคู่คมได้ จึงเอ่ยถามเสียงขุ่น
“คุณทำแบบนี้ทำไม?”
“คุณคิดว่าผมต้องการอะไรล่ะ?” คชาย้อนถามกลับ บอกใบ้ด้วยการมองเธออย่างลึกซึ้งสื่อความใน
ดุจมาตาส่ายหน้าปฏิเสธ แม้จะรู้สึกวูบวาบหวั่นไหวกับสายตากรุ้มกริ่มที่คล้ายจะเปิดเปลือยหัวใจให้เธอเห็น แต่เธอไม่เชื่อ คนเจ้าชู้ที่วันๆ เที่ยวลอยชายเป็นพ่อพวงมาลัยอย่างเขาน่ะหรือจะนึกรักใคร่ชอบพอเธอ เป็นไปไม่ได้แน่นอน ข้างกายเขามีสาวๆ สวยๆ ไม่เคยขาด จะคว้าคนระดับไหนก้ได้ตามแต่ใจปรารถนา
ส่วนเธอ...อย่างมากเขาก็แค่สนใจ แต่ไม่ใช่ความรักเด็ดขาด
“ฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร แต่ฉันไม่สนุกกับเกมของคุณ”
“คุณจะค่อยๆ เรียนรู้มัน” เขาเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ
“ฉันไม่สนว่าคุณจะมีแผนการอะไร แต่อย่ามาขัดขวางฉันเป็นพอ”
“ผมไม่เคยคิดจะขัดขวางคุณ แถมยังจะเป็นอาวุธช่วยคุณแก้แค้นแฟนเก่าด้วย”
เขายื่นข้อเสนอโดยที่เธอยังไม่ทันเอ่ยปากราวกับรู้ใจ ทำให้ดุจมาตายิ่งมองเขาอย่างระแวง สายตาสืบค้นต้องการชำแหละความคิดเขาให้ถึงกึ๋น ก่อนจะได้ข้อสรุปเพียงอย่างเดียวว่า
“คุณต้องการตัดแข้งตัดขาพีรวิชญ์ที่กำลังจะลงเล่นการเมือง เพื่อตัดคู่แข่งคนสำคัญออกไปใช่มั้ย”
ใครๆ ก็รู้ว่าคชากับพีรวิชญ์เป็นสองตัวเก็งในการคัดเลือกบุคคลดีเด่นระดับประเทศในครั้งนี้ หากใครได้ตำแหน่งก็จะปูทางไปสู่อนาคตทางการเมืองที่สดใส ด้วยรูปลักษณ์หล่อเหลาดูดี สุภาพอ่อนโยน สุขุมรอบคอบ เป็นผู้ดีตั้งแต่หัวจรดเท้า พีรชวิญ์จึงเป็นต่อคชาที่แม้จะมีต้นทุนทางการเงินและอำนาจที่เหนือกว่า แต่ข่าวฉาวที่ชอบควงสาว ใช้เงินเป็นเบี้ย ภาพพจน์ดูเป็นแบดบอยไม่เอาการเอางาน มีแต่ชื่อเสียงด้านลบไม่เว้นวัน
หากคชาต้องการกำจัดพีรวิชญ์ไปให้พ้นทาง อย่างแรกก็ต้องตัดช่องทางการเงินของเขา หรือก็คือตัดสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพีรวิชญ์ เพราะครอบครัวเธอมีสายสัมพันธ์ที่ดีสนิทกับครอบครัวเขา ยิ่งใกล้จะเกี่ยวดองกันก็ยิ่งแน่นแฟ้น และพีรวิชญ์ยังอาศัยชื่อเสียงและความมั่งคั่งของครอบครัวเธอเป็นผู้สนับสนุนหลักของเขาในครั้งนี้ด้วย
“เหตุผลของผมไม่ซับซ้อนขนาดนั้นหรอก” คชาเอ่ยยิ้มๆ ท่าทีสบายๆ