บทที่ 3 อับอายขายหน้า 1

836 Words
ไฮไลต์สำคัญของงานกาลาดินเนอร์การกุศลครั้งนี้คือการประมูลสิ่งของล้ำค่า และเป็นเวลาที่ดุจมาตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ “ตาลมีของชิ้นไหนที่ชอบมั้ยครับ ผมจะประมูลให้คุณเพื่อของขวัญแต่งงานของเรา” พีรวิชญ์กุมมือเธอแน่นแฟ้น เอ่ยอย่างใจป้ำ ระหว่างที่บนเวทีนำของประมูลทุกชิ้นที่ล้วนแล้วแต่มีราคาน่าตื่นตาตื่นใจ โดยมีพิธีกรคอยบรรยายโอ้อวดถึงสรรพคุณของสิ่งของแต่ละชิ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ขอบคุณค่ะ” ดุจมาตายิ้มหวาน แววตาซึ้งใจ แต่ไม่ยอมเอ่ยปากว่าของที่เธอเล็งคือชิ้นไหน บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ พีรวิชญ์ไม่ได้คะยั้นคะยอถามเธอต่อ คงเพราะเขาไม่อยากจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว แต่ที่ถามเธอก็แค่หวังสร้างความประทับใจให้เธอซาบซึ้งเท่านั้นแหละ หญิงสาวนั่งนิ่งรอจนการประมูลดำเนินมาจนถึงช่วงสุดท้าย แหวนเพชรสีแดงริโอ ทินโต อัญมณีชิ้นเอกจากเหมืองอาร์ไจล์ ทางภาคตะวันตกของออสเตรเลีย รูปทรงหัวใจสีแดงชาดส่องแสงแวววาวระยิบระยับก็ถูกวางอย่างโดดเด่นบนโพเดียม “สวยมากเลยค่ะ” เธอหันไปเอ่ยกับเขาด้วยแววตาเป็นประกายเชิงออดอ้อน พีรวิชญ์แอบกลืนน้ำลาย ดุจมาตาที่ไม่เคยพิศมัยเพชรนิลจินดาเลยแท้ๆ แต่วันนี้เกิดอยากจะได้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น แถมราคาก็แพงหูฉี่อีกด้วย เดิมเขารับปากสุธาสินีว่าจะประมูลสร้อยคอเพชรเล็กๆ ให้หล่อนสักชิ้น ตอนนี้ดูแล้วงบประมาณคงไม่พอ แถมไม่รู้ว่าเงินที่มีอยู่กระเป๋าจะประมูลทัมทิมชิ้นนี้ได้หรือไม่ แต่กระนั้นก็ยังกัดฟันบอกกับเธอว่า “ถ้าตาลชอบ ผมจะประมูลมันมาให้คุณ” “ตาลชอบค่ะ” เธอยิ้มบอกเขาอย่างไร้เดียงสา แสร้งทำเป็นไม่เห็นสีหน้าลำบากใจของเขา ราคาประมูลทัมทิมเม็ดนี้เริ่มต้นที่ห้าล้านบาท เผลอแป๊บเดียวก็ขยับสูงเกินสิบล้าน “12 ล้าน” พีรวิชญ์ยกป้ายสู้ราคา คิดว่าราคาแพงขนาดนี้คงไม่มีใครสู้เขาไหวแน่ แต่แล้วก็มีเสียงห้าวทุ้มดังไล่หลังเขามาติดๆ “20 ล้าน” ทั้งตัวเขาและผู้คนในงานต่างก็ตื่นตะลึงกันไปทั้งงาน พีรวิชญ์ขมวดคิ้วมุ่น อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง เป็น...คชา! ไอ้สวะนี่รวยขนาดนั้นเลยหรือ? เป็นแค่ลูกคนรวยที่อาศัยบารมีพ่อคุ้มกะลาหัว คงดีแต่แบมือขอเงินพ่อเอามาโปรยเล่น คนอย่างมันมีสิทธิ์อะไรกล้ามาหักหน้าแย่งชิงสิ่งของกับเขาโต้งๆ อย่างนี้ “21 ล้าน” พีรวิชญ์กัดฟันสู้อย่างไม่ยอมแพ้ ความภาคภูมิใจในตัวเองสูงทำให้เขายอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ “25 ล้าน” คชาเองก็กัดไม่ปล่อยเช่นกัน สีหน้าคนถูกข่มมืดครึ้มลงทันที เขาตั้งงบประมาณคืนนี้ไว้ไม่เกินยี่สิบล้าน ตอนนี้ทะยานสูงเกินงบไปตั้งหลายล้านแล้ว บัดซบ! ไอ้ลูกสวะมันจงใจประมูลตัดราคา ต้องการเหยียบหน้าเขาชัดๆ “30 ล้าน” พีรวิชญ์อึ้งตะลึง หันขวับมองดุจมาตาที่ยกป้ายสู้ราคาโดยไม่ถามเขาสักคำ สีหน้าจึงยิ่งย่ำแย่ คนนอกกำลังเคลือบแคลงคิดว่าบุญยมาสกำลังสั่นคลอน คนในครอบครัวเขาต่างก็รู้ดีถึงความเสื่อมถอย ธุรกิจกำลังประสบปัญญหาเข้าขั้นวิกฤต เพราะทักษะฝีมือและสายตากว้างไกลสู้คลื่นลูกใหม่ไม่ได้ ลงทุนทำอะไรก็เจ๊งหรือไม่ก็ขาดทุน ซ้ำร้ายตอนนี้ยังขาดสภาพคล่องเงินทุนหมุนเวียนไม่พอในแต่ละเดือน ที่เขามาเข้าร่วมงานประมูลวันนี้จึงต้องการปฏิเสธคำครหา สร้างภาพให้ดูน่าเชื่อถือว่าบุญยมาสยังคงแข็งแกร่ง และหวังสร้างความประทับใจให้ดุจมาตายอมแต่งงานกับเขาเร็วๆ ไม่คิดเลยว่านอกจากเธอจะไม่ช่วยเขาแล้ว ยังจะกล้าเอาเปรียบขอเขาให้จ่ายเงิน 30 ล้านให้เธออีก บ้าไปแล้วเหรอ! เธออยากเห็นครอบครัวเขาล้มละลายรึไง? “40 ล้าน” คชาส่งสายตาท้าทายมายังดุจมาตา แต่เธอหาได้สะทกสะท้าน นัยน์ตาหวานซึ้งหลุบมองแบล็กการ์ดที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าคลัทซ์ มุมปากสีกุหลาบยกยิ้มบางๆ ทว่างดงามจับใจ ก่อนจะยกป้ายเตรียมเสนอราคา “ห้า...” ดุจมาตาเอ่ยยังไม่พ้นลำคอก็ถูกมือหนาดึงป้ายประมูลวางลงต่อหน้าฝูงชน เธอเลิกคิ้วมองหน้าเขาด้วยความสงสัยเหมือนกับสายตาของใครอีกหลายคน บางคนมองเขาอย่างดูแคลน บางคนถึงขั้นหัวเราะเยาะอย่างไม่เกรงใจ พีรวิชญ์โกรธจนตัวสั่น เกิดมาไม่เคยได้อับอายขายขี้หน้ามากเท่าครั้งนี้มาก่อน เขานึกอาฆาตดุจมาตาในใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD