พีรวิชญ์ขบกรามแน่น เกือบถลึงตามองคนรักที่เธอกล้าร่วมมือช่วยมันหักหน้าเขา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ!
“ตาล! คืนเขาไปเดี๋ยวนี้”
พีรวิชญ์สั่งเสียงเฉียบจนแทบจะตะคอกอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ แต่ดุจมาตากลับมองหน้าเขาด้วยดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ราวกับไม่เข้าใจ
“คุณคชาอุตส่าห์มีน้ำใจทั้งที จะให้ฉันปฏิเสธเขาคงไม่ดีมั้งคะพีท” เธอเอ่ยกับเขาเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับมันอย่างเกรงใจว่า “ขอบคุณนะคะ” ซ้ำยังส่งรอยยิ้มหวานๆ เหมือนจะตอกหน้าเขาให้แหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี
“ไม่เป็นไรครับ ผมเห็นคุณชอบ” คชาน้อมตัวลงเล็กน้อย ท่าทีนุ่มนวลสุภาพราวกับราชนิกูล ไม่เหลือลุกแบดบอยเลยสักนิด
“วันนี้คุณคชาหล่อมาก”
“นี่สิสายเปย์ตัวจริง ไม่ต้องพูดเยอะ”
“ฉันละอิจฉาคุณตาลจะแย่อยู่แล้ว ขนาดแฟนขี้เหนียวไม่ยอมซื้อแหวนให้ แต่ก็ยังมีผู้ชายพร้อมจ่ายให้ไม่อั้น เป็นฉันนะรักตายเลย”
เสียงผู้คนต่างซุบซิบนินทาดังกรอกหูพีรวิชญ์เต็มๆ ในใจยิ่งลุกเป็นไฟ โกรธทั้งดุจมาตาและคชาจนแทบจะสับพวกมันเป็นหมื่นๆ ชิ้น ถ้าไม่ใช่เพราะมีไอ้คชาคอยเสี้ยมและดุจมาตาก็เข้าข้างมันซ้ำเติมเขา ไอ้อีพวกนี้ไหนเลยจะกล้าดูถูกเหยียดหยามว่าเขาตกอับถึงขั้นไม่มีปัญญาซื้อแหวนให้คนรัก หาว่าเขาเป็นผู้ดีถังแตก เงินไม่มีแต่ยังแสร้งทำเป็นอวดรวย
ใบหน้าอ่อนโยนเป็นนิตย์ยิ่งอยู่ยิ่งดำทะมึน รักษามาดสุขุมเอาไว้ไม่ไหว แต่ไหนแต่ไรหากเทียบกัน เขาต่างหากที่มักได้รับคำยกย่อง ผิดกับคชาที่ผู้คนพากันติฉินนินทา เขาอยู่เหนือกว่าคนอื่นๆ ทั้งยอดเยี่ยมและสูงส่ง คนอย่างเขาจะแพ้ไอ้สวะไร้ความสามารถอย่างมันได้ยังไง
ไม่จริง! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!!
พีรวิชญ์ไม่อาจยอมรับความจริงได้ ยิ่งไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เขาแทบไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้แม้แต่วินาทีเดียว
จะอยู่ทำไม... อยู่ให้พวกมันยิ่งหัวเราะเยาะเขาหรือ?
คิดแล้วก็ยิ่งเสียหน้า พีรวิชญ์จึงตะบึงสาวเท้าจากไปทันทีด้วยความฉุนเฉียว เพราะทนรับความอับอายขายหน้าไม่ไหว
คฤหาสน์อนันตทรัพย์
ดุจมาตาฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี รู้สึกสะใจสุดๆ ที่คืนนี้ได้กระชากหน้ากาจอมปลอมของพีรวิชญ์กลางที่สาธารณชน
ดูก็รู้ว่าเขายั่วโมโหจนแทบคลั่ง!
ไม่รู้ป่านนี้จะกระอักเลือดตายไปรึยัง?
มุมปากอิ่มเหยียดยิ้ม คนหลงตัวเองชอบเหยียบย่ำไม่เห็นหัวคนอื่นแบบนั้น สมควรแล้วที่จะโดนกระทำในแบบเดียวกัน คนอย่างพีรวิชญ์ไม่มีอะไรดีนอกจากเปลือก ความสมบูรณ์แบบที่แปะอยู่บนตัวเขาล้วนเป็นสิ่งที่พ่อแม่ของเขาติดสินบนสร้างภาพให้ดูเลิศหรูโพรไฟล์ดีเท่านั้นแหละ แต่คนไร้สมองอย่างเขาดันหลงคิดว่าทุกอย่างเป็นความจริง
ไม่เจียมตัว!
คนอย่างพีรวิชญ์เทียบไม่ได้เลยแม้แต่ปลายขี้เล็บของ...
นึกถึงใครคนนั้น สายตาเธอก็ปรายมองไปยังกล่องกำมะหยี่บนโต๊ะ เธอลูบมันอย่างแผ่วเบาแล้วยิ้มบางๆ ถึงคืนนี้คชาจะป่วนทำให้เธอใจหายตุ๊มๆ ต้อมๆ อยู่หลายรอบ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขากล้าและบ้าระห่ำยิ่งกว่าผู้ชายทุกคนที่เธอเคยเจอ เขาเป็นคนเอาแต่ใจ กล้าได้กล้าเสีย ทำทุกอย่างตามอำเภอใจ ไม่สนไม่แคร์ใครหน้าไหนทั้งนั้น
ผู้ชายคนนี้พร้อมดับเครื่องชนเพื่อให้ในสิ่งที่ตนต้องการ... และนั่นก็เป็นเสน่ห์ที่ร้ายกาจชวนให้ผู้คนหลงใหลในตัวเขา
คิดถึงเขา... เขาก็ปรากฏตัวอยู่ใต้แสงไฟ ร่างสูงพิงกำแพงอย่างสง่า สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง สายตาจับจ้องมองมายังเธอ ดุจมาตาตกใจรีบออกจากห้องตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“คุณมาทำไม” ทั้งที่เพิ่งจะเจอกันที่งานหยกๆ อย่าบอกนะว่าเลิกงานปุ๊บ เขาก็ขับรถมาหาเธอถึงบ้าน
คชายิ้ม รอยยิ้มเซ็กซี่เหมือนมนตร์ดำที่สะกดใจคนให้เคลิบเคลิ้มหวั่นไหว ดุจมาตาเลยเผลอหัวใจเต้นผิดจังหวะไปหลายครั้ง
“ผมเพิ่งนึกได้ว่ามอบแหวนให้คุณไปแล้ว แต่ยังไม่ได้สวมมันกับมือของคุณเลย”