บิดาที่มองการณ์ไกลจึงวางใจมอบทุกอย่างไว้ในมือเขาแทน เพราะเชื่อมั่นว่ากนธีจะปกป้องและทำให้ทุกคนอยู่ดีมีสุขได้ตลอดรอดฝั่ง นี่เป็นคำสั่งเสียก่อนที่พ่อจะจากไปอย่างสงบ
“หนูสังหรณ์ใจว่าคุณลุงโอภาสกับพี่สินีกำลังหาทางดึงคุณพีทเข้ามาในบริษัทของเรา เรื่องนี้เราหนูต้องสืบอย่างลับๆ และจัดการทุกอย่างให้เงียบเชียบที่สุด ไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น หนูจะแกล้งเล่นไปตามเกมของพวกเขา ทำเหมือนกับว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม พอได้หลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุด หนูจะจัดการเก็บกวาดคนทรยศให้หมด จะเหลือทิ้งไว้ให้เป็นภัยกับครอบครัวเราไม่ได้เด็ดขาด”
กนธีมองลูกสาวอย่างชั่งใจ อย่าพูดว่าเขาเชื่อเพราะดุจมาตาเป็นลูกเขาเลย แต่สีหน้าท่าทางที่แน่วแน่เด็ดขาดของลูกทำให้เขาต้องฉุกใจคิด ดุจมาตาเป็นลูกสาวที่ดีเป็นที่น่าภาคภูมิใจของพวกเขา เธอไม่เคยสร้างปัญหา สิ่งที่เธอพูดและทำล้วนผ่านการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ถ้าเธอพูดว่ามีปัญหาก็แปลว่าต้องมีมูลจริงๆ
ที่สำคัญเขาให้เกียรติครอบครัวของพี่ชาย ยอมอ่อนข้อลงให้ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อรักษาสัมพันธภาพฉันพี่น้องไม่ให้ร้าวฉานไปมากกว่านี้ แต่ถ้าหากโอภาสคิดจะชักศึกเข้าบ้านละก็ เขาเองก็จะไม่อยู่เฉยเหมือนกัน
“พ่อเชื่อลูก” กนธีตัดสินใจมอบอำนาจทุกอย่างในมือเขาให้ดุจมาตาอย่างไร้เงื่อนไข เพียงแต่... “คนที่ลูกคิดจะแต่งงานด้วยคือใคร”
นี่เป็นเรื่องเดียวที่เขาไม่อาจวางใจ ลูกสาวคนเดียวจะเที่ยวมอบชีวิตไว้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้ได้อย่างไร อย่างน้อยๆ ก็ต้องรู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร หรือถ้าไม่รู้จักก็ต้องสืบเสาะจนแน่ใจนั่นแหละ
ดุจมาตาอึกอักเล็กน้อย ไม่ได้คิดจะปิดบัง แต่ไม่แน่ใจว่าควรบอกดีไหม กลัวว่าพอพวกท่านรู้ชื่อเจ้าบ่าวที่มีข่าวฉาวกระฉ่อนในความเจ้าชู้เสเพล พ่อเธออาจจะโมโหจนลมตีตื้นจุกอกเอาได้
คชาไม่ใช่ลูกเขยในอุดมคติ!
คงไม่มีพ่อแม่ที่ไหนทำใจยกลูกสาวให้เป็นภรรยาคนไม่เอาถ่าน และเธอเองก็ไม่มีข้อแก้ต่างให้เขาได้ ขืนบอกไปก็รังแต่จะทำให้พวกท่านไม่สบายใจเสียเปล่าๆ ถึงเธอจะแต่งกับเขาแค่ในนามและมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนกันก็เถอะ
“รอหนูตกลงกับเขาให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะบอกคุณพ่อคุณแม่ค่ะ” เธอเลี่ยงที่ตอบตรงๆ
กนธีขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมตามใจไม่คาดคั้นลูกสาว เพราะเชื่อใจว่าดุจมาตาต้องมีเหตุผลที่ดีพอ
“ตามใจ”
คนเป็นลูกที่นั่งใจตุ๊มๆ ต้อมๆ ยิ้มกว้างอย่างโล่งอก รู้สึกฮึกเหิมมีกำลังใจขึ้นมาเต็มเปี่ยมเกินร้อย พร้อมที่จะเริ่มแผนการแรกเดี๋ยวนี้
“วันนี้คุณพ่อคุณแม่ว่างมั้ยคะ” ดวงตาหวานซึ้งเจือแววแสนกลยิ้มจนตาหยี ยิ้มไปทั้งหน้า ทำให้คนเป็นพ่อแม่รู้ทันทีว่าลูกสาวคิดจะทำอะไรบางอย่าง
“คิดจะทำอะไรอีกล่ะยัยตัวดี” หทัยรัตน์เอ่ยถามอย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดู
“หนูจะชวนไปงานการกุศลคืนนี้ค่ะ”
“นึกครึ้มอะไร ถึงจะไปงานนี้”
กนธีแปลกใจนิดหน่อย ตั้งแต่คบกับพีรวิชญ์ ลูกสาวเขาก็หลีกเลี่ยงการออกงานมาตลอด อ้างไม่เหนื่อย ขี้เกียจปั้นหน้า แต่เขารู้ว่าดุจมาตาแค่ไม่อยากทำให้พีรวิชญ์อึดอัดใจ ยาม ที่ใครต่อใครต่างชื่นชมเธอมากกว่าแฟนหนุ่ม เธอไม่อยากโดดเด่นเกินหน้าเกินตาเขา
“ก็แค่อยากจะแวะไปทักทายพวกไฮโซไฮซ้อในงานสักหน่อยค่ะ เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดคิดว่าบริษัทอนันตทรัพย์เป็นของคนบ้านบุญยมาสกันไปหมด”
สองสามีภรรยามองหน้ากัน ไม่มีใครคิดจะปรามลูกสาว โดยเฉพาะกนธีที่ลึกๆ นั้นหวังให้ดุจมาตาดูแลธุรกิจของครอบครัวมากกว่าจะฝากฝังไว้ในมือว่าที่ลูกเขย อย่างไรพีรวิชญ์ก็เป็นคนนอก ถึงเขาจะใจกว้างแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจวางใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
ตอนนี้ลูกสาวเขามีปณิธานแรงกล้าน่าชื่นชมอย่างนี้ มีหรือที่เขาจะไม่ยินดีและเต็มใจช่วย
“ไปก็ไป”
ดุจมาตาฉีกยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย แทบอดใจรอให้ถึงคืนนี้ไม่ไหว คืนที่เธอจะตบหน้าครอบครัวบุญยมาสให้หน้ากากลวงโลกหลุดออกมา