@ร้านอาหาร
ปกติไตรภพไม่ชอบผู้หญิงใส่ชุดดำ ถึงแม้จะเป็นสีที่ผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมใส่กันก็ตาม แต่สำหรับเขาแล้วสีดำเป็นสีที่ทำให้จิตใจหดหู่และทำให้ชีวิตดูเศร้าหมองกว่าทุกสี
ทว่าสำหรับคืนนี้แล้วกลับไม่ใช่ เมื่อเขาได้เห็นหญิงสาวอยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำรัดรูปที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมาทำให้เห็นเรือนร่างที่ดูสมสัดส่วนของเธอ และในตอนนี้ยิ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้น
“สวัสดีค่ะ” ปรางทิพย์เอ่ยทักทายชายหนุ่มก่อนจะนั่งลงอีกฝั่งที่อยู่ตรงข้าม
ริมฝีปากสีแดงระเรื่อและใบหน้าสวยที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางสีชมพูอ่อน ทำให้ทุกอย่างดูสวยและลงตัวไปหมด เหมือนกับไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิมที่เขาเคยเจอที่สระว่ายน้ำในครั้งแรกที่เห็น
“คุณปรางสวยมากเลยครับ” ไตรภพเอ่ยชมหญิงสาวออกมาตามความเป็นจริง
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานออกมาเมื่อได้รับคำชม
ปรางทิพย์เป็นผู้หญิงที่สวยและดูดีมาก เธอแต่งตัวได้เหมาะสมลงตัวกันอย่างพอดีไม่มีที่ติ ซึ่งทำให้ไตรภพพอใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก เธอดูมุ่งมั่นตั้งใจและมีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ว่าเขาจะมองเธอนานแค่ไหนก็ไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด
แต่เมื่อพูดถึงโปรดปราน… เขาจะรู้สึกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่าทะนุถนอมและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน ถึงเธอจะมีคุณแม่เป็นนักธุรกิจที่เก่งก็จริงแต่โปรดปรานก็ไม่ได้ส่วนนั้นมาจากคุณแม่เลยสักนิด
อาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้คุณหญิงประไพพรรณพยายามหาทางให้เธอได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆ สักคนที่จะสามารถดูแลชีวิตของเธอไปได้ตลอด
แต่โปรดปรานกลับโชคร้ายที่ไม่มีใครสามารถพาเธอไปจนถึงความฝันนั้นได้ เพราะเธอเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับลูกในท้องด้วยความตายเสียก่อน
“คิดอะไรอยู่เหรอคะ?” ปรางทิพย์เอ่ยถามออกมาทันทีเมื่อเห็นเขามองเธอแล้วดูนิ่งไป
“เปล่าครับ คือผมกำลังนึกถึงพี่สาวของคุณอยู่” ชายหนุ่มพูดออกมาเสียงเรียบ
“ยังไงเหรอคะ?” ปรางทิพย์ยังคงถามต่อด้วยความสงสัยและอยากรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรเกี่ยวกับพี่สาวของเธออยู่
“เธอเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งเลยนะครับ เธอสวยอ่อนหวานแต่ไม่น่าที่จะมาอายุสั้นแบบนี้เลย” ชายหนุ่มพูดออกมาพร้อมกับหน้าตาและท่าทางที่ดูเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
ปรางทิพย์แสยะยิ้มออกมาทันที เมื่อได้เห็นสิ่งที่เขาแสดงออกมา เธอไม่ต้องการที่จะได้ยินเขาพูดชมพี่สาวของเธอ เพราะเธอรู้ดีว่าเขากำลังเสแสร้งแกล้งเล่นละครเพื่อหลอกให้เธอเชื่อในสิ่งที่เขากำลังแสดงออกมา แต่เธอก็ไม่ได้โง่ที่จะเชื่อเขาขนาดนั้น
ไตรภพคงกำลังคิดว่าตัวเองเป็นคนดีและมีเสน่ห์มากจนสามารถที่จะทำให้เธอสามารถมองเห็นผิดเป็นถูกได้ มันช่างเป็นอะไรที่น่าตลกมาก เพราะเธอไม่มีวันที่จะโง่เชื่อเขาอย่างแน่นอน
“พี่โปรดเขาซื่อเกินไป เอ่อ… คือปรางหมายความว่าพี่โปรดเขามักจะทำอะไรลงไปโดยไม่ได้คิดถึงสิ่งที่จะตามมา” ปรางทิพย์พูดออกมาเสียงเรียบเพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มเข้าใจผิด
“วันก่อนที่โปรดจะตาย เธอมีท่าทางแปลกๆ ครับ” ไตรภพพูดถึงวันที่โปรดปรานจะตาย และเธอก็ได้มาปรึกษาบางอย่างกับเขา
“หมายความว่ายังไงคะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เธอพูดกับผมเกี่ยวกับเรื่องราวบางอย่างที่เธอทำผิดพลาดลงไปแล้วมันหาทางออกไม่ได้” ไตรภพพูดออกมาตามความจริง
“จริงเหรอคะ” ปรางทิพย์เอ่ยถามออกไปอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าที่เขาพูดออกมานั้นเป็นความจริงแต่ถึงยังไงเธอก็ต้องทำตัวไหลไปตามน้ำเสียก่อน
“จริงครับ ผมยังได้บอกโปรดอยู่ว่าปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ” ไตรภพอธิบายออกมาเสียงเรียบ
“คุณน่ะเหรอคะที่บอกพี่โปรด” หญิงสาวย้อนถามคนตรงหน้าอีกครั้ง
ไตรภพพยักหน้าให้แทนคำตอบใบหน้าเข้มดูหล่อขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อกระทบกับแสงไฟภายในร้านอาหาร และสูทที่เขาใส่อยู่ก็คงจะดูแพงไม่เบาทำให้บ่งบอกถึงฐานะและหน้าตาทางสังคมได้เป็นอย่างดี
“เสียดายนะครับที่โปรดไม่ได้บอกผมเรื่องปัญหานั้น แต่คนก็คิดกันไปว่าเรื่องของเธอ…”
ชายหนุ่มพูดออกมายังไม่ทันจบประโยคก็ต้องถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะพูดตัดบทขึ้นมาอีกครั้ง
“ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันอีกเลยนะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายใจกันเปล่าๆ” ไตรภพรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที ก่อนจะหยิบเมนูอาหารขึ้นมาดูและสั่งอาหาร
“คุณเดินทางบ่อยเหรอคะ?” ร่างบางถามออกมาด้วยความสงสัยเมื่อเห็นความชำนาญในการสั่งอาหารของเขา
“ครับ ผมชอบเดินทางมันทำให้ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้เที่ยวที่แปลกๆ และยังได้ประสบการณ์ใหม่ใหม่อีก” ไตรภพตอบออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“เหมือนกันค่ะ” ปรางทิพย์ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน
ก่อนที่ทั้งสองคนจะสั่งอาหารและนั่งพูดคุยกันอยู่นานหลายชั่วโมง จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ
ท่าทางและคำพูดของไตรภพทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้วยมีความสุขและไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด
“ปรางต้องรีบกลับแล้วค่ะ คุยกับคุณจนเพลินเลย” ปรางทิพย์มองเห็นเวลาที่อยู่บนนาฬิกาข้อมือจึงต้องรีบขอตัวกลับ เมื่อเธอเผลออยู่กับเขานานเกินไปแล้ว
“แต่ว่า…” ไตรภพยังไม่อยากให้หญิงสาวตรงหน้ากลับ แต่เขาก็เลี่ยงไม่ได้และยอมเดินออกมาส่งเธอที่รถด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ
“คืนนี้ฉันสนุกมากเลยนะคะ”
ปรางทิพย์พูดออกมาด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาเดินมาส่งเธอที่รถ มือหนาเลื่อนมาแตะที่เอวบางของเธออย่างสุภาพแต่ก็เป็นการกระทำที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ
ความร้อนผ่านปลายนิ้ววิ่งมาสัมผัสกับเอวบางทันทีและมันทำให้ปรางทิพย์รู้สึกดีมากขึ้นกว่าเดิม เธอมองนัยน์ตาเขาสายตาที่คมเข้มปะปนไปด้วยความอบอุ่น อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความต้องการที่มากล้น จนความรู้สึกนั้นทำให้ใบหน้าสวยของเธอร้อนผ่าวขึ้นมา
“อยู่ต่ออีกนิดไม่ได้เหรอครับ” ไตรภพอ้อนเสียงหวานอย่างที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“ฉันต้องไปแล้วค่ะ” ร่างบางพูดออกมาก่อนที่จะปิดประตูรถ พร้อมกับกดลดกระจกให้เลื่อนลง
ไตรภพอยากจะดึงรั้งเธอเอาไว้ แต่เขาก็ต้องยอมปล่อยเธอไปเสียก่อน เพราะถ้าทำตามใจตัวเองมากเกินไปอาจจะเป็นการเสียมารยาทกับเธอ
ปรางทิพย์ดูมีเสน่ห์มากทุกท่าทางและคำพูดของเธอทั้งหมดคือความลงตัวที่สุดแบบที่เขาไม่เคยเจอในตัวผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยสักคน
“แล้วเมื่อไหร่คุณจะให้เกียรติมาทานข้าวกับผมอีกครับ” ร่างหนาพูดออกมาด้วยสายตาที่ออดอ้อน
“เมื่อไหร่ดีล่ะคะ คุณนัดมาเลยก็ได้” ปรางทิพย์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงท้าทายขณะที่เธอกำลังสตาร์ทรถ
“พรุ่งนี้แล้วก็… ทุกๆ วัน” ชายหนุ่มพูดออกมาจากความรู้สึกที่อยู่ภายในใจ
“คงไม่ได้หรอกค่ะ” ปรางทิพย์รีบตัดบทขึ้นมาทันที
“ทำไมล่ะครับ” ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
“คุณก็น่าจะรู้ว่าคุณแม่ของปรางท่านคิดยังไง” หญิงสาวเอาคุณแม่มาอ้างทันที
“ผมรู้ครับ” ชายหนุ่มพูดออกมาเสียงเรียบก่อนที่จะพูดเสริมออกมาอีกครั้ง
“แต่ผมไม่กลัวหรอกนะครับ ผมกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ผมทำลงไป แต่ถ้าสิ่งไหนที่ผมไม่ได้ทำแล้วจะมายัดเยียดให้ผมยอมรับมันคงไม่ใช่” ไตรภพพูดออกมาด้วยแววตาที่ดูเศร้า เมื่อทุกคนต่างยัดเหยียดความผิดให้เขา
“เราอย่าพูดถึงเรื่องนี้กันอีกเลยนะคะ” ปรางทิพย์พูดออกมาพร้อมรอยยิ้มก่อนจะโบกมือให้เขาแล้วขับรถออกไปทันที
ร่างบางมองดูชายหนุ่มที่ยืนส่งเธอจากกระจกมองหลัง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังมีความสุขราวกับคนที่กำลังมีความรัก…
..
คอมเมนท์ = กำลังใจ