เมื่อผู้บริหารหนุ่มที่สาวๆต่างหมายปองมาหลงรักตน พู่ไหมแทบไม่อยากจะเชื่อแต่เมื่อเวลาผ่านไป ธามก็ยังปฏิบัติตัวเช่นเดิม ส่งข้อความมาหา พาไปทานข้าว
จนวันหนึ่งเขาก็เข้าไปหาอรอนงค์เพื่อขอหล่อนแต่งงาน แม้จะไม่ได้มีงานเลี้ยงใหญ่โตมีเพียงคนในครอบครัว หล่อนก็ปลื้มปริ่มหัวใจ แต่สุดท้ายหัวใจดวงน้อยก็เจ็บปวดราวกับถูกหอกนับพันพุ่งมาแทงทำให้พื้นที่ในหัวใจมีแต่แผลเหวอะหวะ เพราะทั้งหมดมีแต่คำโกหกทั้งเพ
เขาทำลงไปทั้งหมดเพื่อรสา ธามไม่ได้รักเธอเลยสักนิด การแต่งงานก็แค่แผนลวง
ปลายเท้าคู่เล็กมาหยุดลงที่ป้ายรอรถโดยสารประจำทาง พู่ไหมหย่อนก้นลงกับเก้าอี้อย่างคนหมดแรง แม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วเกือบสองชั่วโมงแต่ร่างระหงก็ยังไม่ลุกไปไหน เพราะไม่มีที่พึ่งพิงอีกแล้ว คนท้องไม่อยากจะกลับไปเห็นหน้าสามีให้หัวใจมันชอกช้ำอีก
ดวงตาคู่เล็กปริ่มด้วยน้ำตาแต่หญิงสาวก็กลั้นมันสุดฤทธิ์ เพราะรู้ว่าการร้องไห้ไปมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แต่มันก็ทำได้ยากลำบากเสียเหลือเกิน นัยน์ตาคู่นี้มีแต่ความทุกข์ระทม กระทั่งหางตามันเหลือบไปเห็นบางสิ่ง กลับยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกหายใจไม่ออก ความเจ็บปวดเข้ามารุมเร้า
น้ำตาไหลทะลักออกมาจนเปรอะเปื้อนใบหน้า คนรอรถโดยสารต่างหันมามองเธอเป็นตาเดียวกันเนื่องจากหญิงสาวสะอื้นเสียงดังลั่น
จะไม่ให้ร้องไห้ได้อย่างไร ในเมื่อรถคันเมื่อกี้ที่เพิ่งผ่านหน้าหล่อนไป คือรถของธาม แต่มันไม่ได้มีแค่ธาม มันมีรสา อยู่ในนั้นด้วย ผู้หญิงที่เขาหลงรักแต่ไม่เคยกล้าจะบอกออกไป
บิดาของรสากับธามเป็นเพื่อนสนิทกัน ความสนิทสนมของคนทั้งสองมีให้กันมาตั้งแต่เด็กๆ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ธามหลงรักรสา
เธอหนีหายออกจากบ้านนานขนาดนี้ เขายังไม่คิดจะออกตามหาเลยหรือ ธามคงไม่เคยมอบความห่วงใยให้หล่อนแม้แต่น้อยขนาดว่าตนอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ ทุกอณูของความรู้สึกตอนนี้พู่ไหมรู้จักแต่คำว่าเจ็บปวด
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาฝนเม็ดใหญ่ก็ตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ท้องฟ้าคำรามลั่น พู่ไหมเดินสะอื้นตากฝนไปตลอดทางมุ่งไปหาที่พักกาย เงินในกระเป๋าสะพายก็มีไม่มาก เนื้อตัวนวลสั่นจากแรงสะอื้นและความหนาวเหน็บจากเม็ดฝน แต่ทว่ามันยังไม่เท่าความหนาวเหน็บที่จับขั้วหัวใจในตอนนี้
ทว่าในความโชคร้ายยังคงมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะเดินมาไม่ไกลนักหญิงสาวก็หาที่พักได้ เป็นห้องเช่าขนาดเล็กราคาต่อคืนห้าร้อยบาท
แม้มันจะค่อนข้างอับ ในห้องมีเพียงฟูก หมอน และผ้าห่มเท่านั้น แต่คนช้ำก็เต็มใจที่จะอยู่ เพราะคับที่อยู่ได้แต่หากคับใจมันคงยากจะทนอยู่
ฟากธามตอนนี้ก็กำลังขับรถทำหน้าที่เป็นสารถีพาน้องสาวกลับบ้าน เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อหญิงสาวข้างกายคนนี้ ชายหนุ่มอยากเห็นรสายิ้มได้...อยากเห็นรสามีความสุขแม้ว่ารอยยิ้มหรือว่าหัวใจดวงน้อยมันจะไม่ได้มอบให้เขาก็ตาม เพราะมันเป็นความสุขทางใจ
ร่างสูงยอมรับว่าทำร้ายจิตใจภรรยาตีทะเบียนไว้มากเพียงเพราะต้องการให้ใครอีกคนมีความสุข
ก่อนความกังวลใจจะเพิ่มพูนเมื่อทราบว่าพู่ไหมยังไม่กลับบ้าน มือหนายกมือถือขึ้นมากดหมายเลขโทร.หาภรรยาตามทะเบียนสมรสอีกครั้ง กลับได้ยินแต่เพียงเสียงฝากข้อความ แม้จะไม่ได้รักแต่ใช่ว่าเขาจะไม่ห่วงใย มันมีความห่วงใยให้ เพียงแต่พื้นที่ในหัวใจเขาไม่สามารถแบ่งปันให้ร่างเล็กได้เพราะมันมีแต่รสาเท่านั้น
“พี่ธามจะไปไหนคะ” เสียงหวานปานระฆังแก้วร้องถามพี่ชายเมื่อเห็นว่าธามกำลังก้าวเท้าออกจากบ้านทั้งที่ฝนกำลังตกหนักไม่ใช่น้อย พร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“พี่จะกลับบ้านครับรวง” ธามหันไปตอบ
“ไหนพี่ธามบอกจะนอนบ้านรวงไงคะ พี่ธามรับปากคุณพ่อไว้แล้วนี่คะว่าจะอยู่คุยกับท่านก่อน แถมฝนตกหนักขนาดนี้ มันอันตรายนะคะ” พร้อมกับสาวเท้าเข้าไปใกล้
“พี่...” ใช่เขารับปากไว้ แต่ตอนนั้นเขายังไม่ทราบว่าพู่ไหมยังไม่กลับบ้าน
“อย่าบอกนะคะว่าเป็นห่วงเมียของพี่ ไม่เห็นต้องห่วงเลยค่ะ โตๆกันแล้วเดี๋ยวก็คงจะกลับบ้านมาเอง พี่ธามนอนที่นี่นะคะ รวงเป็นห่วง วันนี้คุณแม่ก็ไม่อยู่ไปปฏิบัติธรรม คุณพ่อท่านจะได้มีคนคุยด้วย”
ไม่พูดเปล่าแถมยังเดินไปทำสีหน้าอ้อนพี่ชาย หล่อนรู้ว่าธามคิดอย่างไรกับตน แต่เธอคิดกับอีกฝ่ายแค่พี่น้อง แต่ไยหล่อนจะต้องตัดความสัมพันธ์ไปด้วย