ธีร์วราไม่เข้าใจดีนักว่าเธอหมายถึงใคร ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเธอชอบเขาเสียอีก แต่แล้วอยู่ ๆ ก็มาบอกว่าอกหัก ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็จะต้องถามให้รู้เรื่องว่าคิดยังไงกับเขากันแน่ เธอชอบเขาหรือมีแค่เขาที่คิดไปเองคนเดียว
ชายหนุ่มหญิงสาวลงบนโซฟาแต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยมือ เขาจึงต้องกลายเป็นที่นั่งให้เธอโดยปริยาย
ถ้าตอนนี้เธอไม่เมาเขาคงดุเธอไปแล้ว มีอย่างที่ไหนแต่งตัวล่อแหลมแถมยังเมาจนแทบไม่มีสติ แล้วยังจะให้ผู้ชายมาส่งถึงบ้าน ไม่รู้ว่าก่อนมาส่งผู้ชายคนนั้นทำอะไรกับเธอไปบ้าง ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งโมโห
“หมิงปล่อยอาก่อนได้ไหม” เขาอยากไปหาผ้ามาเช็ดตัวให้เธอเผื่อจะได้สร่างเมาสักที
“ปล่อยแล้วไง อาธีร์ก็ไปหาคุณไอรีน แล้วทิ้งหมิงอยู่คนเดียว ใจร้าย อาธีร์ใจร้ายที่สุด”
“อาไม่ได้ทิ้งหมิงอยู่คนเดียวสักหน่อย แล้วอาก็ไม่ได้ใจร้าย”
“ยังจะมาแก้ตัว อาธีร์ทิ้งให้หมิงแล้วไปอยู่กับคุณไอรีน แล้วทำมาบอกว่ามีประชุม แล้วไง สุดท้ายก็ไปกับผู้หญิงคนนั้น ไปซื้อแหวนหมั้น อย่างนี้ยังจะบอกไม่ใจร้ายอีก หมิงไม่ยอมนะคะ อาธีร์ต้องเป็นของหมิงคนเดียว”
หญิงสาวกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นขยับเข้าหาความอบอุ่น จากนั้นเธอก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น
ธีร์วราทำตัวไม่ถูกได้แต่กอดปลอบและลูบหลังเธอเบาๆ เขาปล่อยให้เธอร้องจนพอใจ
“หมิง พร้อมจะฟังอาหรือยัง” เขาถามขึ้นเมื่อรู้สึกว่าหญิงสาวหยุดร้องไห้แล้ว
คนในอ้อมกอดพยักหน้า แต่ก็ยังคงกอดแน่นอยู่เหมือนเดิม
“อารู้ตอนนี้หมิงเมาไม่ได้สติ แต่อาก็อยากบอกว่าอากับไอรีนไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“แต่อาธีร์ก็ไปซื้อแหวานหมั้น”
“ไปกันใหญ่แล้ว อาไปซื้อแหวนมันก็จริงแต่เป็นแหวนของไอรีนกันแฟนเขา”
“หมิงไม่เชื่อ ใครจะไปซื้อแหวนกับผู้ชายคนอื่นกันอย่ามาโกหกเลย”
“ไม่เชื่อจะโทรถามเลยไหม ไอรีนกับแฟนมีแพลนจะหมั้นกันสัปดาห์หน้าแต่แฟนเขาอยู่ต่างประเทศ อาเลยไปเป็นเพื่อน แค่นั้นเอง”
“จริงนะคะ” พอได้ยินเขาอธิบายเธอก็แทบจะหายเมาทันที
“จริงสิ แล้วที่ร้องไห้บอกว่าว่าอกหักเพราะเรื่องนี้เหรอ”
หญิงสาวเริ่มได้สติจึงเอาแต่เงียบ เธอกลัวตัวเองหน้าแตกถ้าสารภาพกับเขาออกไป
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ธีร์วรายังคงกอดหญิงสาวไว้อย่างเดิม อนัญพรชอบที่จะอยู่แบบนี้ หญิงสาวกำลังรวบรวมความกล้าเพื่อบอกความในใจกับเขา แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำให้ความกล้าในตัวถูกปลุกขึ้น
“อาธีร์คะ”
“ครับ”
“หมิงมีอะไรจะบอก”
“ว่ามาสิอารอฟังอยู่นะ”
“หมิงชอบอาธีร์”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
“พูดเพราะเมาหรือเปล่า” คนเป็นอาถามอย่างสงสัย
“เพราะเมาหมิงเลยกล้าพูด หมิงชอบอาร์ธีร์ชอบมาตั้งนานแล้ว”
“ตั้งแต่ตอนไหน”
“ม.3”
“แก่แดด”
“อย่ามาว่าหมิงนะ ก็อาธีร์ชอบอ่อย”
“อาเนี่ยนะชอบอ่อย”
“ใช่อาธีร์ชอบอ่อย ชอบออกมารดน้ำต้นไม้แล้วก็ถอดเสื้อ แล้วก็ชอบมาใกล้ตลอด”
“ก็ตอนนั้นอาต้องติวให้หมิงกับเหมย"
“ไม่รู้ แต่อาต้องรับผิดชอบ โทษฐานที่ทำให้หมิงหลงรักแล้วก็ย้ายบ้านหนี”
“ให้อารับผิดชอบยังไง”
“อาธีร์ต้องเป็นแฟนหมิง”
“อะไรนะ” คนฟังตกใจไม่น้อย แต่ก็ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น
“หมิงบอกว่าอาธีร์ต้องมาเป็นแฟนหมิง”
“ให้อาเป็นแฟน แล้วไม่อายเพื่อนเหรอมีแฟนแก่อย่างนี้”
“อายทำไม อาธีร์ทั้งหล่อทั้งหุ่นดี”
“ที่ชอบเพราะอาหล่อกับหุ่นดีแค่นั้นเหรอ” พอได้ทีเขาก็ถามเพราะรู้ว่าคนเมานั้นไม่โกหก
“ไม่ใช่แค่นั้นสักหน่อย อาธีร์ใจดี อบอุ่นหมิงชอบอยู่ใกล้”
“แล้วแบบนี้ใกล้พอหรือยัง” เขากระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีกนิด ปลายจมูกแตะไรผมเบาๆ
“อือ หมิงอยากให้อาธีร์กอดหมิงอย่างนี้ทุกวัน”
ธีร์วรานิ่งเงียบไม่รู้ว่าเธอพูดเพราะเมาจนไม่ได้สติหรือเปล่า แต่เขาก็ดีใจที่ความรู้สึกของเธอกับเขาตรงกัน
“แล้วผู้ชายที่มาส่งล่ะ เป็นใครทำไมต้องให้โอบกอดอย่างนั้นด้วย มันไม่เหมาะสมนะรู้ไหม”
“ไม่เหมาะสมยังไงนั้นเพื่อนสนิทหมิง”
“เพื่อนที่ไหนยืนกอดกันแบบนั้น”
“ก็กอดกันตามประสาเพื่อน หึงเหรอคะ” แล้วเธอก็ย้อนถามทำเอาเขาสะอึกไปเล็กน้อย
“ถ้าบอกว่าหึงจะทำอีกไหม”
“จะไม่ทำอีกแต่อาธีร์ต้องบอกก่อนว่ารู้สึกยังไงกับหมิง จะรับหมิงเป็นแฟนไหม”
เขาหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรงแล้วพูดในสิ่งที่เก็บไว้มานานหลายปี
“อารับหมิงเป็นแฟนก็ได้”
“ไม่ได้บังคับสักหน่อย ไม่ต้องฝืนก็ได้” เสียงพูดฟังดูก็รู้ว่ากำลังน้อยใจ
“ไม่ได้ฝืน”
“แล้วอาธีร์ชอบหมิงไหมคะ ชอบหรือเปล่า”
เธอดันตัวออกจากอ้อมกอดเพื่ออยากเห็นหน้าเขาให้ชัดขึ้น แต่สองมือยังคล้องอยู่ที่ลำคอ
ยิ่งเธอดิ้นสะโพกกลมกลึงของเธอก็เบียดร่างกายของเขาจนเกิดความร้อนขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ชายหนุ่มมองตาคู่สวยที่ตอนนี้มันสื่อความหมายอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นออกมาจากหัวใจ ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงนิด สัมผัสถึงลมหายใจร้อนระอุของอีกฝ่าย
“ชอบ ชอบมาตั้งนานแล้ว” ในที่สุดเขาก็บอกสิ่งที่อยู่ในใจออกไป
อนัญพรแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ชายหนุ่มบอกเธออย่างหมดเปลือกว่าชอบเธอตั้งแต่ตอนไหน รวมถึงสาเหตุที่ตัวเองย้ายออกมาจากบ้านเช่าหลังนั้นด้วย
พอได้พูดความในใจออกไปทุกอย่างก็เหมือนถูกปลดล็อก ธีร์วรามองใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้ด้วยใจเต้นแรง เขากำลังห้ามไม่ให้ตัวเองล่วงเกินหญิงสาวที่กำลังเมาไม่ได้สติ แต่มันยากเหลือเกิน เมื่อตอนนี้เธอก็จ้องเขาด้วยสายตาหวานเชื่อม ผิวเนียนละเอียดก็แนบชิด
“ดึกแล้วอาว่าหมิงรีบขึ้นนอนเถอะ”
ธีร์วรารีบตัดบท ขืนยังอยู่ในสภาพนี้ต่อไปมีหวังเขาคงได้ล่วงเกินเธอเป็นแน่
“อาธีร์อุ้มหมิงขึ้นไปได้ไหม หมิงไม่มีแรงเดิน”
แขนเรียวคล้องคอเขาไว้ส่วนใบหน้าก็ซบลงบนไหล่กว้างอย่างออดอ้อน แต่ไม่ได้เมาถึงขั้นไม่ได้สติหรือเดินไม่ไหว เพียงแต่อยากใช้โอกาสนี้อ้อนคนเป็นอาก็เท่านั้น
ธีร์วราถอนหายใจก่อนอุ้มหญิงสาวเดินไปยังชั้นบน พอถึงหน้าห้องอนัญพรก็ยังไม่ยอมปล่อยและยังกอดเขาแน่นกว่าเดิม
“ถึงห้องแล้ว กุญแจห้องอยู่ไหน”
“หมิงลืมกระเป๋าไว้ที่ห้องเพื่อนค่ะ หมิงง่วงแล้วขอนอนห้องอาธีร์ได้ไหม นะคะ แค่คืนเดียว” เสียงหวานอ้อนจนเขายอมใจอ่อน
ชายหนุ่มเลยต้องพาเธอมายังห้องนอนของตัวเอง พอวางเธอลงหญิงสาวก็ดึงเขาจนล้มทับทาบไปบนตัวเธออย่างไม่ทันตั้งตัว