คนที่แอบคิดถึง

1285 Words
Chapter 1 คนที่แอบคิดถึง “หมิงยังไม่ปิดเทอมเลยนะคะแม่” อนัญพรหญิงสาววัย 20 ปีโวยวายเมื่อได้ยินแม่บอกว่าจะไปเยี่ยมพี่สาวที่ญี่ปุ่น          “แม่รู้ หนูตามแม่ไปทีหลังได้ไหม” คนเป็นแม่มีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปหาพี่สาวก่อนกำหนด ซึ่งผิดจากที่วางแผนไว้เพราะเดิมทีทั้งสามคนจะไปพร้อมกันหลังจากลูกสาวคนเล็กปิดเทอม          “ก็ได้ค่ะ แล้วแม่จะไปอยู่กับพี่เหมยนานไหมคะ”          “น่าจะสัก 3 เดือน”          “นานจังนะคะ”          “มันจำเป็นนะลูก จะให้ญาติทางฝ่ายสามีช่วย พี่เหมยเขาก็เกรงใจ ลูกแฝดเขาว่าเลี้ยงยาก แม่เลยต้องไปช่วย”          อรัญพรลูกสาวคนโตแต่งงานชาวญี่ปุ่นและย้ายไปอยู่ที่นั่นได้หลายปีแล้ว พอได้ยินว่าลูกสาวคลอดลูกแฝดก่อนกำหนดก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เธอจึงคุยกับสามีว่าจะไปช่วยเลี้ยงหลานอย่างน้อยก็คงสักสามเดือน          “หมิงไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวเลย ถ้ากลับดึกใครจะไปรับที่ปากซอยล่ะคะ” แม้การไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเธอจะเดินทางไปด้วยรถเมล์แต่บางครั้งก็อยู่ติวกับเพื่อนจนดึก การลงรถที่หน้าปากซอยแล้วเดินเข้ามาเองก็นับว่าอันตรายอยู่          “เรื่องนั้นพ่อกับแม่คิดไว้แล้ว”          “ยังไงคะ”          “แม่ว่าจะให้หมิงไปอยู่บ้านญาติที่ใกล้มหาลัยหน่อย”          “แม่คะ เรามีญาติที่บ้านใกล้มหาลัยด้วยเหรอคะ เท่าที่รู้ญาติเราส่วนใหญ่อยู่เชียงรายกันนะคะ” พ่อและแม่ของเธอเป็นคนเชียงราย แต่สอบบรรจุได้เป็นข้าราชการครู ทั้งสองคนเลยย้ายมาอยู่กรุงเทพ          ชัยเดชเพิ่งจะเกษียณเมื่อตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนอารีย์แม่ของเธอยังไม่ครบกำหนดเกษียณแต่ก็ขอเออร์ลี่รีไทร์ออกมาพร้อมกับสามี “จะเรียกว่าญาติก็คงไม่ถูกนัก เพราะเรากับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด” “อ้าว” “หมิงจำอาธีร์ที่อยู่ติดกับบ้านเราได้ไหม” “จำได้ค่ะ ทำไมคะ” แต่ได้ยินชื่อหญิงสาวก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที “พ่อจะให้หมิงไปอยู่กับอาเขาสักพัก สอบแล้วก็ตามพ่อกับแม่ไป” “หมิงไม่อยากไปรบกวนอาธีร์เลยค่ะแม่” ปากบอกว่าไม่อยากไปรบกวน แต่ในใจเต้นระริก แต่ก่อนธีร์วราบ้านอยู่ติดกับเธอ ทั้งสองสนิทสนมกันมาก เขามักจะมาทานข้าวที่บ้านและช่วยติวให้เธออยู่เสมอ จนเมื่อเธออยู่ชั้นมัธยมปีที่ 5 เขาก็ย้ายออกไป อนัญพรมีโอกาสได้เจอกับเขาอีกไม่กี่ครั้ง เพราะชายหนุ่มมักแวะมาเยี่ยมเยียนหรือไม่ก็ชื่อของมาฝาก แต่พักหลังมานี้เธอไม่ได้เจอธีร์วรามานานเกือบครึ่งปีแล้ว “พ่อคุยกับอาธีร์ให้แล้ว หมิงรีบเก็บของที่จำเป็นนะ เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็จะไปเก็บของเหมือนกัน พรุ่งนี้เช้าพ่อจะไปส่งหมิงเอง” “ค่ะพ่อ” หญิงสาวรับคำอย่างว่าง่าย อนัญพรเอาหมอนใบใหญ่ปิดหน้าก่อนจะกรี๊ดอย่างสุดเสียง ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ใกล้ชิดกับอาหนุ่มหล่ออย่างธีร์วราอีกครั้ง         หญิงสาวจัดของลงกระเป๋าอย่างอารมณ์ดีพรุ่งนี้เธอก็จะได้เจอกับอาธีร์ผู้ชายที่เธอฝันถึงอยู่บ่อยครั้ง เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ธีร์วรารีบกดรีโมตเปิดประตูแล้วตัวเองก็มายืนรอต้อนรับที่หน้าบ้าน          “สวัสดีครับน้าอารีย์ น้าเดช” เจ้าของบ้านทักทายอย่างเป็นกันเอง          “สวัสดีจ้ะ น้ารบกวนธีร์มากไปหรือเปล่า”          “ไม่เป็นไรครับ เราคนกันเอง”          “น้าจะทิ้งให้ลูกอยู่คนเดียวก็เป็นห่วง จะพาไปด้วยเจ้าตัวก็ยังไม่ปิดเทอม”          “ครับน้าอารีย์”          “สวัสดีค่ะ อาธีร์” อนัญพรยกมือไหว้อาหนุ่มรูปหล่อ หลังจากเอากระเป๋าของตัวเองลงจากรถเรียบร้อยแล้ว          ธีร์วรายกมือรับไหว้ ก่อนจะเดินนำทุกคนเข้าไปในบ้าน          “ข้างบนมีห้องว่าอยู่สองห้อง หมิงเลือกเลยว่าจะนอนห้องไหน อาให้คนทำความสะอาดไว้ทั้งสองห้องแล้ว”          “ค่ะ”          “หมิงเลือกห้องไปก่อนนะ ถ้าได้แล้วก็เอากระเป๋าเข้าไปเก็บ แม่จะคุยกับอาธีร์ข้างล่างนะ”          “ค่ะแม่”          พอผู้ใหญ่ลงไปข้างล่างหมดแล้วอนัญพรก็สำรวจห้องนอนทั้งสองห้องซึ่งแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลยสักนิด หญิงสาวเลือกห้องที่มีประตูตรงข้ามกับห้องนอนของเจ้าของบ้าน เพราะการได้เปิดประตูออกมาเจอเขาในทุกเช้าคงจะมีความสุขที่สุด          ชัยเดชและอารีย์กลับไปแล้ว ทั้งบ้านก็เหลือแค่ธีร์วรากับอนัญพรเพียงสองคน          เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้คนที่กำลังเก็บของให้เข้าที่ต้องรีบมาเปิดประตู          “อาธีร์มีอะไรหรือเปล่าคะ เข้ามาก่อนไหม”          “อาจะมาถามว่ามีอะไรขาดเหลือหรือเปล่า”          “หมิงคิดว่าเตรียมมาครบแล้วนะคะ”          “อืม งั้นอาไปทำงานต่อนะ เดี๋ยวเที่ยงจะพาออกไปหาอะไรกินข้างนอก”          “ค่ะ”          หญิงสาวดีใจที่จะได้ออกไปข้างนอกกับเขา เธอเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกมินิเดรสแขนกุดสีครีมเพื่อให้เข้ากับเสื้อเชิ้ตคอจีนแขนยาวสีน้ำตาลอ่อนที่เขาสวมอยู่ พอถึงเวลานัดเธอก็รีบลงมารอเข้าที่ห้องรับแขก          “เรียนปีไหนแล้ว” ธีร์วราชวนเธอคุยระหว่างรออาหาร          “ปี 3 แล้วค่ะ”          “เรียนคณะอะไร”          “บริหารค่ะ เอกบัญชี”          “แสดงว่าชอบคณิตศาสตร์แล้วล่ะสิ”          “ค่ะ ชอบค่ะ” ก็เพราะเขานั้นแหละที่ทำให้คนเกลียดวิชาคณิตศาสตร์เข้าไส้อย่างเธอหันมาชอบและตั้งใจเรียนมากขึ้น          “อึดอัดไหมที่ต้องมาอยู่กับอาแทนที่จะไปอยู่หอกับเพื่อน”          “หมิงต้องถามอาธีร์มากกว่าว่าอึดอัดไหมที่หมิงมาอยู่ด้วย”          “ทำไม่คิดว่าอาจะอึดอัดล่ะ เราเคยสนิทกันมากไม่ใช่เหรอ”          “ค่ะ เราสนิทกันมาก จนกระทั่งอาธีร์ย้ายบ้านหนี”          “อาไม่ได้ย้ายหนี แต่บริษัทย้ายออฟฟิศอาก็เลยต้องหาบ้านที่มันไม่ไกลมาก” เขารีบแก้ไขความเข้าใจผิด แต่อันที่จริงก็คือเขาย้ายหนีความรู้สึกของตัวเองต่างหาก          “อาธีร์คะ ที่บ้านอาอยู่กันกี่คนคะ หมิงไม่เห็นคนอื่นเลย”          “อาอยู่คนเดียว ส่วนแม่บ้านมาทำงานไปเช้าเย็นกลับ”          “แต่หมิงไม่เห็นแม่บ้านเลยนี่คะ”          “แม่บ้านหยุดวันอาทิตย์ อาเลยต้องพาเราออกมากินข้าวข้างนอกไง”          “แต่อาธีร์ทำกับข้าวเป็นนี่คะ” เพราะเธอทานฝีมือของเขาอยู่บ่อยครั้ง          “ก็ใช่ แต่วันนี้ของสดในตู้หมดแล้ว”          “หมิงอยากกินไข่เจียวกับต้มยำฝีมืออาธีร์”          “ได้สิ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จไปเดินซื้อของกันไหม เย็นนี้อาจะทำให้กิน”          “ค่ะ” อนัญพรเดินตามธีร์วราที่เข็นรถเลือกซื้อของสำหรับทำอาหารอย่างคนชำนาญ          “เหมือนคู่รักเลยนะคะ”          “หมิงพูดอะไรนะ”          “เปล่าค่ะ อาธีร์หูฝาด” เธอรีบตอบ หญิงสาวจะให้เขารู้ไม่ได้ว่าตัวเองกำลังคิดกับเขามากว่าอากับหลาน          ความรู้สึกของเธอที่มีให้กับธีร์วราเปลี่ยนไปตั้งแต่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 3
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD