บทนำ
บทนำ
บรรยากาศในงานไพรเวตปาร์ตีอบอวลไปด้วยสิ่งมัวเมาหลากหลายชนิด เสียงดนตรีจังหวะอีดีเอ็มดังกระหึ่มปลุกเร้าอารมณ์เหล่าไฮโซ นักธุรกิจ ดารา เซเลบริตี้ รวมทั้งคนดังในวงการบันเทิงที่รู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดี
“เอาปะ” วิลาสินีนางแบบสาวที่มีใบหน้าสวยโฉบเฉี่ยวปรายตามองเม็ดยากลม ๆ เล็ก ๆ หลากสีในมือของฉัตรชัยนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ เพื่อปฏิเสธ ทว่าอีกฝ่ายยังคะยั้นคะยอจะให้เธอรับไปให้ได้ “เอาหน่อยน่า จะได้สนุก ๆ กัน”
“ไม่เคี้ยวก็สนุกได้” นางแบบสาวยังคงปฏิเสธพลางยกไวน์ขึ้นจิบ “เอาไว้ให้คนอื่นเถอะ”
“คนอื่นเขาเคี้ยวกันไปหมดแล้ว เหลือแค่เธอคนเดียว” ฉัตรชัยเลื่อนมือเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิดพร้อมพยักพเยิดหน้าไปยังเม็ดยาที่อยู่ในมือของตน เพื่อให้เธอรับมันไป
‘ยาอี’ หรือที่มักเรียกกันว่า ‘ขนม’ คือสารเสพติดชนิดหนึ่งที่นิยมเสพกันในงานปาร์ตีส่วนตัวและงานเทศกาลดนตรีต่าง ๆ หากกินหรือเรียกอีกอย่างว่า ‘เคี้ยว’ เข้าไปจะมีผลต่อร่างกายประมาณสามถึงสี่ชั่วโมง ทำให้คนคนนั้นมัวเมาและหลุดเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบของตัวเอง คนทั่วไปจะเรียกอาการนี้ว่าประสาทหลอน
เมื่อโดนรบเร้าหนัก ๆ นางแบบสาวก็มีสีหน้าลังเลเล็กน้อยด้วยเมื่อก่อนเคยใช้มันบ่อย ๆ มันทำให้เธอมีความสุข ล่องลอย หลุดไปอยู่ในโลกอีกใบที่ไม่ต้องคิดอะไร หากแล้วก็ต้องถอนหายใจ ส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง
“ไม่ดีกว่า”
“เป็นอะไร ปกติไม่เห็นปฏิเสธ”
“ไม่ได้เป็นไร แค่ไม่อยาก”
ฉัตรชัยยักไหล่ขึ้นเบา ๆ และไม่เซ้าซี้ต่อ ก่อนจะเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน “แล้วคืนนี้...ยังไง”
วิลาสินีปรายตามองคู่สนทนาอีกครั้ง ไม่ต้องขยายความเพิ่มก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร “โทษที คืนนี้ไม่สะดวก”
“อะไรกัน ตั้งแต่ฉันบินกลับจากแคนาดา เธอก็ปฏิเสธนัดฉันทุกครั้งเลยนะ วันนี้ก็อีก เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะวิว เธอมีคนใหม่เหรอ” ชายหนุ่มโวยวายขึ้นมานิด ๆ อย่างไม่ค่อยพอใจนัก ฉัตรชัยเป็นคนที่มีนิสัยเอาแต่ใจ ถูกปฏิเสธเพียงครั้งหรือสองครั้งยังพอเข้าใจได้ว่าหญิงสาวอาจจะไม่ว่าง แต่นี่เธอกลับปฏิเสธเขาแทบทุกครั้งที่เขาชวน เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้หญิงรักสนุกอย่างวิลาสินีจะเลิกนิสัยเดิม ๆ ได้ นอกเสียจากว่า...มีคนของตัวเองอยู่แล้ว
“แค่เบื่อ ๆ” หญิงสาวตอบพลางแกว่งแก้วไวน์ในมือด้วยท่าทีสบาย ๆ แล้วเสมองไปรอบ ๆ ห้อง เพื่อนคนอื่น ๆ กำลังดื่มเต้นกันสนุกสนาน บ้างก็ยืนเป็นคู่และนัวเนียกันอย่างไม่แคร์สายตาใคร เป็นภาพชินตาที่วิลาสินีเห็นแทบทุกครั้งที่มาร่วมงานปาร์ตีที่คนกลุ่มนี้จัดขึ้น
...งานนี้มันเปรียบเสมือนโลกอีกใบของคนเหล่านี้ เป็นโลกที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ หรืออาจจะเรียกว่าด้านมืดก็ไม่ผิดสักเท่าไร
“ถ้าเบื่อก็นี่ไง” ฉัตรชัยยื่นเม็ดยามาให้นางแบบสาวอีกครั้ง มองด้วยแววตาแพรวพราวด้วยหวังว่าเธอจะเปลี่ยนใจ “เชื่อฉัน แล้วเธอจะหายเบื่อ หรือจะเอาไอ้นั่น” ชายหนุ่มบุ้ยหน้าไปยังสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ยตรงหน้า ซึ่งมีสารเสพติดชนิดย****์วางอยู่พร้อมอุปกรณ์เสพ
วิลาสินียกยิ้มมุมปากนิด ๆ หากแต่ก็ปฏิเสธดังเดิม “พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า”
“ยกเลิกไปดิ”
“ฉันไม่ได้รวยล้นฟ้าอย่างนายนะ ยกเลิกงานก็เท่ากับเสียรายได้” หญิงสาวอ้าง อันที่จริงเธอไม่ได้สนเรื่องรายได้สักเท่าไรหรอก เพียงแต่ตอนนี้เธอแค่ไม่มีอารมณ์ที่จะไปทำอย่างอื่นก็เท่านั้น
“งั้นฉันให้สองเท่าของงานวันพรุ่งนี้เลย แต่คืนนี้เธอต้องไปกับฉัน”
นางแบบสาวยื่นหน้าเข้าไปจูบเบา ๆ ที่มุมปากของชายหนุ่มแล้วผละออกมา ทว่าไม่นานร่างของเธอก็ถูกดันแนบเข้ากับโซฟา พร้อมกับฉัตรชัยที่ตามลงมาบดขยี้จูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างดูดดื่ม
วิลาสินีไม่ได้มีท่าทีตกใจที่เขาทำแบบนี้ หญิงสาวยกแขนคล้องคอหนาและจูบตอบเขากลับไปอย่างดูดดื่มเช่นกัน
ครั้นรู้สึกว่าจูบนั้นเริ่มหนักหน่วงขึ้น นางแบบสาวจึงตัดสินใจดันร่างหนาที่ทาบทับอยู่ออกเบา ๆ “พอแล้ว”
ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมถอยห่าง พยายามซุกใบหน้าคลอเคลียกับซอกคอขาวของหญิงสาวเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ วิลาสินีไม่ได้ขัด หากก็ไม่ได้ตอบโต้ ตอนนี้เธอเริ่มมีความต้องการขึ้นมาบ้างแล้ว เพียงแต่ในสมองกำลังทุ่มเถียงกันอย่างหนักว่าควรเลือกทางไหนดี ระหว่างสานต่อกับเขาในคืนนี้หรือจะปฏิเสธ
“ฉันรู้ว่าเธอก็ต้องการ อย่าปฏิเสธเลยน่า...” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบชิดใบหูขาวสะอาด มือหยาบลูบไล้ไปตามผิวกายนวลเนียนของหญิงสาว พยายามปลุกปั่นให้เธอมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น
วิลาสินีหลับตาลงพร้อมแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อยปล่อยตัวให้เขาได้เชยชม หากแล้วก็มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัว ทำให้เธอได้สติแล้วตัดสินใจผลักร่างของฉัตรชัยออกไป ก่อนจะรีบขยับตัวถอยห่าง
“อะไรวิว” ชายหนุ่มถามอย่างไม่พอใจ ใบหน้าเขาฉายแววความหงุดหงิดออกมาชัดเจน
“เปล่า ๆ แต่ฉันว่าคืนนี้นายไปกับคนอื่นดีกว่า ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน” นางแบบสาวรีบคว้ากระเป๋าใบหรูราคาหกหลักมาถือ ก่อนจะสาวเท้าตรงไปยังห้องน้ำโดยไม่สนใจฉัตรชัยที่มองตามด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ...เกือบจะได้อยู่แล้วเชียว!
วิลาสินียืนส่องใบหน้าตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ มือบางเปิดกระเป๋าแล้วหยิบลิปสติกกับแป้งออกมาแต่งเติมใบหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองประตูห้องน้ำเมื่อมีคนเปิดและเดินโซซัดโซเซเข้ามา
“เมาแล้วเหรอ” วิลาสินีถามลัดดาหรือนุ่นเพื่อนสนิทในวงการนางแบบของเธอ
“อื้อ” ลัดดาตอบพลางเดินเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่ง “ฉันเห็นแกนั่งกับคุณฉัตร คืนนี้ไปต่อไหม”
“ไม่ แล้วแกล่ะ” ตอบแล้วหันมาบรรจงเติมลิปสติกที่ริมฝีปากอีกครั้ง
“อือ ไป ไปกับคุณต่อ”
“อืม” วิลาสินีพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะเก็บตลับแป้งกับลิปสติกเข้ากระเป๋า ยืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์รอจนเพื่อนเสร็จธุระแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำจึงพูดขึ้น “แกจะไปกับคุณต่อใช่ไหม งั้นฉันกลับก่อนนะ”
“หือ กลับเร็วจัง ยังไม่ดึกเลยนะ” ลัดดาถามพลางเดินมายืนล้างมือข้าง ๆ เพื่อน “ไม่สนุกเหรอ”
“อือ ไม่ค่อยเท่าไร” เธอยอมรับออกไปตามตรง ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอไม่รู้สึกอินกับงานปาร์ตี้แบบนี้
“พักหลัง ๆ มานี้ฉันไม่เห็นแกเคี้ยวเลย อีกอย่างแกไม่ค่อยไปต่อกับใคร เป็นอะไรหรือเปล่า” ลัดดาหันมามองหน้าเพื่อนอย่างสงสัย ด้วยปกติวิลาสินีจะเป็นคนที่สนุกกับงานปาร์ตีมากกว่านี้ หากแต่พักหลัง ๆ มานี้เธอสังเกตว่าเพื่อนไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไร
“ไม่มีไรหรอก แค่รู้สึกเบื่อ ๆ อยากพักมากกว่า”
“บางทีฉันก็แอบคิดนะ...แกแอบมีแฟนหรือเปล่าวะ” คนถูกตั้งข้อสงสัยเกร็งตัวขึ้นมานิดหนึ่ง กำลังจะอ้าปากตอบปฏิเสธ คนเมาก็พูดขึ้นมาเสียก่อน “แต่คงไม่ใช่หรอกเนอะ เพราะคนรักสนุกอย่างแกคงไม่มีแฟนง่าย ๆ ใช่ไหมล่ะ”
“อืม ไม่ใช่” …ไม่ใช่แฟน “ฉันกลับแล้วนะ พรุ่งนี้มีงานตอนเช้า” บอกจบก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาถือ ครั้นเห็นอีกฝ่ายพยักหน้า วิลาสินีก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แวะบอกเพื่อนที่อยู่ในงานอีกสองสามคนว่าจะกลับก่อน จากนั้นก็เดินออกจากห้องโถงที่ใช้จัดงานมาเลยทันที
เสียงสมาร์ตโฟนดังขึ้นขณะร่างบางชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำกำลังเดินออกไปเรียกรถแท็กซี่หน้าโรงแรม วิลาสินีหยุดเดินครู่หนึ่ง เปิดกระเป๋าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะกดรับพร้อมกับสืบเท้าเดินต่อ
[อยู่ไหน] ปลายสายถามเสียงขรึม
“โรงแรม กำลังจะกลับ”
[โรงแรมอะไร]
“โรงแรม...” เธอบอกชื่อโรงแรมไป
[อืม อยู่แถวนี้พอดี รออยู่นั่นแหละ เดี๋ยวไปรับ] บอกจบสายก็ตัดไปเลยทันที นางแบบสาวมองหน้าจอสมาร์ตโฟนพลางขมวดคิ้วเข้าหากันนิด ๆ ด้วยไม่เข้าใจอีกฝ่ายสักเท่าไร แต่กระนั้นก็หมุนตัวเปลี่ยนทิศทาง เดินไปนั่งรอเขาในล็อบบีแทน
เขามาก็ดีเหมือนกันเพราะคืนนี้ไม่อยากนอนคนเดียวพอดี