ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด

1523 Words
บทที่ 1 ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด “มาทำอะไรแถวนี้คะ” วิลาสินีหันไปถามคนที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับขณะกำลังรัดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเอง ทว่ากลับไม่ได้รับคำตอบใด ๆ กลับมา เขายังคงนั่งนิ่งไม่ยอมออกรถ และใช้สายตาสำรวจหญิงสาวที่เพิ่งขึ้นรถมาตั้งแต่ศีรษะไล่ลงมาจนถึงเดรสเกาะอกสั้นเลยหัวเข่าขึ้นมามากกว่าหนึ่งคืบ นางแบบสาวเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ ด้วยไม่เข้าใจสายตาที่เขามองมาสักเท่าไร สีหน้าเขาเรียบนิ่ง ทว่าเธอกลับสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจากแววตาสีดำขลับคู่นั้น หากก็ไม่แน่ใจเพราะไม่รู้ว่าเขาจะไม่พอใจเธอเรื่องอะไร “ไปเที่ยวกับเพื่อนมาเหรอ” หญิงสาวถามขึ้นอีกครั้ง เขาจึงละสายตาจากเธอไปมองข้างหน้า ใช้มือเปลี่ยนเกียร์แล้วออกรถทันที จากนั้นถึงตอบคำถามของเธอ “อืม” วิลาสินีพยักหน้ารับช้า ๆ และไม่ได้ถามอะไรต่อ หญิงสาวเลิกสนใจเขา เอนหลังพิงเบาะแล้วมองออกนอกตัวรถ ทว่าไม่ถึงหนึ่งนาทีคนที่ทำหน้าที่ขับรถก็ถามขึ้นมาทำลายความเงียบ “เมาหรือเปล่า” “เปล่า ไม่ได้เมา ดื่มไวน์ไปแค่สี่แก้ว” “แล้วได้ทำหรือเปล่า” เขาเหลือบมามองเธอแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปสนใจถนนตรงหน้าต่อ “ไม่ เลิกแล้ว” เธอตอบพลางหลับตาลงอย่างข่มใจ เพราะเรื่องนี้มันเป็นอะไรที่ต้องฝืนตัวเองมากเหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะห้ามใจ เมื่อเห็นของที่เคย ๆ วางอยู่ตรงหน้า แต่ไม่สามารถหยิบมันขึ้นมาใช้ได้ สักพักเธอก็ลืมตาขึ้นแล้วถามเขากลับ “แล้วพรุ่งนี้คุณทำงานไหม” “ทำ เข้าโรง’บาลเก้าโมง” “อ๋อ แล้วเลิกงานต้องไปไหนต่อไหม” เขาหันมามองหน้าเธอแล้วถาม “ทำไม” “ไม่มีไร ก็แค่ถาม” เธอแค่รู้สึกว่าบรรยากาศในรถมันเงียบเกินไป จึงชวนเขาคุย ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองถนนอีกครั้ง “อืม ไม่ได้ไปไหน เธอล่ะ” “ไม่ได้ไปไหนเหมือนกัน เสร็จงานแล้วก็น่าจะกลับคอนโดฯ เลย” “เดี๋ยวไปรับ” วิลาสินีมองเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลาที่ตั้งใจขับรถ พลางเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ “ไม่ต้องไปรับก็ได้ งานน่าจะเสร็จค่ำ ๆ เลย” เพราะเขาเลิกงานเร็วกว่ากำหนดงานของเธอตั้งหลายชั่วโมง หากเขาจะมารับนั่นก็แปลว่าเขาต้องรอเธอ “เดี๋ยวไปรับ” เขายืนยันอีกครั้ง เป็นอันรู้กันว่าเขาไม่เปลี่ยนใจแน่นอน “โอเค ตามใจ” จากนั้นหญิงสาวก็หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากดเล่น เขาเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปสนใจขับรถต่อ ไม่นานรถยนต์สปอร์ตอาวดี้อาร์แปดคันหรูก็แล่นเข้ามาจอดในช่องจอดประจำในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะเดินควงกันเข้าไปข้างใน “พรุ่งนี้ทำงานกี่โมง” ธัชพลหรือหมอเทมส์ทันตแพทย์หนุ่มถามขึ้นหลังจากเข้ามาในห้องนอนของหญิงสาวได้สักพัก พลางปลดกระดุมแขนเสื้อเชิ้ตแล้วพับขึ้นจนถึงข้อศอกด้วยท่าทีสบาย ๆ “งานเริ่มช่วงเย็น แต่ต้องไปซ้อมเดินซ้อมรันคิวตั้งแต่เช้า ทีมงานนัดไว้ประมาณเก้าโมงค่ะ แต่ต้องไปถึงก่อนเวลา น่าจะออกจากที่นี่ประมาณหกโมงหรือเจ็ดโมงครึ่ง” วิลาสินีตอบพร้อมเหวี่ยงกระเป๋าราคาแพงลงบนเตียง แล้วเดินไปยืนหน้าโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ หยิบสำลีแผ่นขึ้นมาแล้วเทคลีนซิงลงไป จากนั้นก็เริ่มเช็ดทำความสะอาดใบหน้าทันที “คุณออกไปทีหลังก็ได้นะ ทำงานตั้งเก้าโมงจะได้ตื่นสาย ๆ หน่อย” “อืม” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนตรงไปยังครัวเล็ก ๆ ที่อยู่อีกฝั่ง เปิดตู้เย็นแล้วหยิบเบียร์ที่มีติดตู้เย็นตลอดออกมาหนึ่งกระป๋อง จากนั้นก็เดินไปเปิดโทรทัศน์ นั่งดูบอลในห้องนั่งเล่นที่อยู่ใกล้ ๆ กับห้องครัวระหว่างรอหญิงสาวอาบน้ำ ผ่านไปประมาณสี่สิบนาทีร่างบอบบางในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินสีเทาที่เธอมักใส่เป็นประจำก็เดินออกมาจากห้องนอน “อาบเสร็จแล้วนะคะ” เธอบอกให้เขารู้ว่าใช้ห้องน้ำเสร็จแล้ว เพื่อให้เขาได้เข้าไปใช้ต่อ ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบแผ่นมาสก์หน้าในตู้เย็น ธัชพลพยักหน้าเบา ๆ หยิบรีโมตขึ้นมาปิดโทรทัศน์แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำต่อทันที ไม่ถึงสามสิบนาทีเขาก็อาบเสร็จ ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรสวมเพียงกางเกงวอร์มตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่าเดินออกมาจากโซนห้องแต่งตัว “นอนก่อนเลยก็ได้ค่ะ ฉันต้องเตรียมของใส่กระเป๋าก่อน พรุ่งนี้เช้าจะได้ไม่รีบ” วิลาสินีที่กำลังวุ่นวายกับการจัดกระเป๋าใบเล็กหันไปบอกเขา ก่อนจะหันกลับมาสนใจกับของตรงหน้าต่อ เพียงสิบนาทีเธอก็จัดทุกอย่างเสร็จ มือบางดึงแผ่นมาสก์หน้าทิ้งถังขยะเมื่อครบเวลา แล้วเดินไปนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอีกครั้งเพื่อทาสกินแคร์บำรุงผิวหน้าสำหรับเวลากลางคืน “อื้อ...อย่าเพิ่ง ยังไม่เสร็จเลย” เธอบอกพลางย่นคอหนีเมื่อถูกสวมกอดจากข้างหลังพร้อมใบหน้าหล่อที่มีไรหนวดอ่อน ๆ ซุกไซ้เข้าที่ต้นคอข้างหลัง “อยากแล้ว” เสียงพร่าบอกชิดลำคอขาวสะอาด ลมหายใจร้อน ๆ ที่เป่ารดชวนให้เกิดความวาบหวามและซ่านสยิวไปทั่วสรรพางค์กาย “รอแป๊บ ขอทาครีมก่อน” หญิงสาวไม่ปฏิเสธด้วยเพราะเธอก็มีความต้องการอยู่เหมือนกัน เลือดในกายสูบฉีดเมื่อถูกลมหายใจร้อน ๆ เป่ารดคอ อีกทั้งตอนนี้ก็ยังไม่ดึกสักเท่าไร จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องปฏิเสธเขา “ทาไปสิ” เขาบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน มือหนาเลื่อนขึ้นไปกอบกุมทรวงอกนุ่มภายใต้ชุดนอนบางเบา นวดคลึงฟอนเฟ้นด้วยแรงที่ไม่เบานัก วิลาสินีตัดสินใจวางกระปุกสกินแคร์ราคาแพงลงที่เดิม หมุนตัวกลับไปเผชิญหน้า ยกมือขึ้นไปประคองใบหน้าหล่อเหลาอันคุ้นเคย ก่อนจะแนบริมฝีปากตัวเองเข้ากับริมฝีปากได้รูปของเขาแนบแน่น ทันตแพทย์หนุ่มขยี้จูบกลีบปากอิ่มอย่างดูดดื่ม เลาะเล็มลิ้มชิมความหวานที่ได้ชิมเท่าไรก็ไม่เคยเบื่อ กลับกัน ยิ่งได้...ยิ่งติดใจและอยากได้อีก อยากได้ไปเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อง่าย ๆ มือหนาลูบไล้แผ่นหลังบางผ่านเนื้อผ้าอย่างปลุกเร้า ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนลงไปเลิกชายกระโปรงขึ้นแล้วขย้ำบั้นท้ายกลมกลึงผ่านแพนตีตัวบาง ขณะที่ปากยังจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ชายหนุ่มประคองร่างบางแล้วพาเดินไปที่เตียงนอนขนาดหกฟุต หญิงสาวถูกดันให้นอนราบลงไปบนที่นอนนุ่ม ๆ พร้อมกับเขาที่ตามลงมาทาบทับไม่ยอมห่าง วิลาสินีหลับตาพริ้มแหงนหน้าเริด เปิดซอกคอให้เขาซุกไซ้ สอดมือเข้าไปในกลุ่มผมดำขลับแล้วขยำเบา ๆ ก่อนจะส่งเสียงครางออกมาอย่างพอใจ “อืม...” ธัชพลเลิกชายชุดนอนของหญิงสาวขึ้นไปกองไว้เหนืออก ริมฝีปากหยักได้รูปลากจูบลงมาระเรื่อยจนถึงอกอวบ ลิ้นร้อนแลบออกมาตวัดเลียสลับกับดูดกลืน พร้อมใช้มือเคล้นคลึงอีกข้างพลางสะกิดยอดถันสีหวานไปด้วย ไม่นานมือหนาก็เลื่อนลงไปยังจุดกึ่งกลางกายสาว นิ้วเรียวแหวกแพนตีไปไว้ข้าง ๆ แล้วปัดป่ายนิ้วไปมาบนปุ่มกระสัน ก่อนจะค่อย ๆ สอดเข้าไปในช่องทางคับแคบที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน “ทะ...เทมส์ เอาเลยได้ไหม” หญิงสาวบอกเสียงสั่นพร่า ในเวลาแบบนี้เธอมักจะเรียกชื่อเล่นของเขาโดยไม่มีคำนำหน้า ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรแม้จะอายุมากกว่าเธอหลายปี...เขาไม่ได้อยากเป็นพี่ของเธออยู่แล้ว “รีบ ?” มุมปากเขายกขึ้นนิด ๆ ก่อนจะหยัดตัวยืนขึ้นแล้วรูดกางเกงวอร์มที่ติดตัวเพียงชิ้นเดียวของตัวเองลง ทำให้แก่นกายแข็งขืนที่มีเส้นเลือดปูดโปนดีดผึงออกมา หญิงสาวขยับแล้วยื่นมือไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง หยิบซองฟอยล์สี่เหลี่ยมขนาดเล็กออกมาหนึ่งซอง จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นนั่งแล้วใช้ปากฉีก ก่อนจะค่อย ๆ บรรจงสวมใส่ไปที่ความเป็นชายใหญ่โตของเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD