พิสูจน์ความแข็ง 3

1560 Words
พิสูจน์ความแข็ง “มานี่มา” พระพายถอนหายใจ เอ่ยเสียงอ่อน ก้าวลงจากเตียงมาคว้าข้อมือเล็กแล้วดึงให้กลับไปนั่งลงบนเตียงด้วยกัน โอบกอดเธอเอาไว้หลวม ๆ ก่อนจะใช้ข้อนิ้วเกลี่ยหยาดน้ำที่ปริ่มออกมานิด ๆ ออกจากขอบตาให้อย่างอ่อนโยน จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปจูบหน้าผากเธอเบา ๆ เพื่อปลอบใจ “พี่ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี แต่พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้น” “แล้วพี่พายคิดว่าอะไร” เธอเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขาอย่างหาคำตอบ อันที่จริงเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เธออยากรู้มานานแล้วเหมือนกัน หากก็ไม่เคยกล้าถามเขาออกไปตรง ๆ ในเมื่อวันนี้เขาเป็นคนเปิดประเด็นมาเอง เธอจึงตัดสินใจถามออกไป “เพราะฝนไม่สวยใช่ไหมพี่พายถึงไม่มีอารมณ์” ชายหนุ่มหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แล้วเย้าแหย่กลับไป “ใช่ เราไม่สวย” หัวคิ้วของปลายฝนย่นเข้าหากันจนแทบจะผูกกันเป็นโบ หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ หากสายตายังจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เพิ่งบอกว่าเธอไม่สวย ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร เขาก็พูดขึ้นมาเสียก่อน “แต่เราน่ารักมากสำหรับพี่” เขายิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอยังทำสีหน้ายุ่ง ๆ คล้ายไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด “เอาจริง ๆ เราก็สวยนะไม่ใช่ว่าไม่สวย แต่พี่ว่าเราน่ารักมากกว่า” “แล้ว ?” หญิงสาวถามทั้งที่ใจเริ่มเต้นรัว ความคลางแคลงใจที่มีก่อนหน้านี้เริ่มหายไปทั้งที่ยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ ที่ชัดเจน และก่อนที่เธอจะหลอมละลายไปกับคำชมหวาน ๆ ของเขา จึงรีบดึงสติกลับมาแล้วถามถึงสิ่งที่ยังค้างคา “สรุปคือพี่พายตายด้านจริง ๆ ใช่ไหม” ในเมื่อเขาก็มองว่าเธอสวย แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาไม่มีอารมณ์ นอกเสียจาก...เขาจะตายด้าน ? “โอ๊ย!” ปลายฝนร้องขึ้นเสียงดังเมื่อถูกเขาดีดหน้าผากจนดังเปาะ ก่อนจะรีบยกมือขึ้นลูบบริเวณที่ถูกดีดพร้อมตวัดสายตามองเขาอย่างเคือง ๆ “อยู่ ๆ มาดีดหน้าผากฝนทำไมเนี่ย” “กล้าคิดได้ยังไงว่าแฟนตัวเองตายด้าน” “ก็ใครจะไปรู้เล่า ถามก็ไม่บอก” “อยากพิสูจน์ไหมล่ะ” เธอเริ่มมองเขาอย่างไม่ค่อยไว้ใจเมื่อเห็นแววตากรุ้มกริ่มที่เขามองมา “พะ...พิสูจน์ยังไง” “ก็...” พระพายจงใจหยุดพูดเอาไว้แค่นั้น จับมือเล็กขึ้นมาวางบนขาอ่อนของตัวเอง แล้วมองหน้าเธอเพื่อวัดใจ ครั้นเมื่อเห็นเธอมองตอบด้วยความอยากรู้ก็ค่อย ๆ เลื่อนมือเธอเข้าใกล้เป้ากางเกงตัวเองอย่างช้า ๆ หญิงสาวหลุบตามองตามมือตัวเองด้วยใจที่สั่นรัวแวบหนึ่ง ก่อนจะเงยขึ้นไปสบตากับเขาอีกครั้งอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ใจหนึ่งมันสั่งให้เธอดึงมือออกมา ทว่าอีกใจมันกลับสั่งให้เธอลองพิสูจน์... “พี่พาย...” ปลายฝนเอ่ยเรียกเขาเสียงแผ่วหลังจากที่ฝ่ามือเล็กได้สัมผัสสิ่งที่มันแข็งขึงอยู่ภายใต้กางเกงกีฬาขาสั้นของเขา หัวใจที่สั่นแรงอยู่แล้วก็พลันสั่นแรงมากขึ้นไปอีก “รู้ยังว่าพี่ไม่ได้ตายด้าน แล้วก็ไม่ได้ไม่มีอารมณ์เวลาอยู่กับเรา” เขาถามแล้วมองหน้าเธอด้วยแววตาจริงจัง ยกมือข้างที่ไม่ได้จับมือเธอขึ้นเกลี่ยผมออกจากข้างแก้มไปทัดไว้ที่หลังหูอย่างอ่อนโยน “ระ...รู้แล้วค่ะ” “ฝนรู้ตัวไหมว่ามีค่าสำหรับพี่ขนาดไหน” ปลายฝนส่ายหน้าเบา ๆ เป็นคำตอบ มองหน้าเขาคล้ายต้องมนตร์สะกด “ฝนมีค่ากับพี่มาก มากจนพี่ไม่อยากทำให้ฝนเสียหาย” เขาบอกและยิ้มให้ พลางใช้นิ้วมือเขี่ยแก้มนุ่ม ๆ ของเธออย่างหลงใหล ในโลกนี้มีผู้ชายอย่างเขาไม่มากหรอก ได้อยู่ใกล้คนที่ตัวเองรัก แต่เลือกที่จะทรมานตัวเองโดยการนอนกอดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้เฉย ๆ ไม่ทำอะไรทั้งที่อยากทำแทบตาย มิหนำซ้ำยังต้องพยายามข่มตานอนให้หลับไปพร้อม ๆ กับเธอ คนอื่นอาจจะมองว่าเขาโง่ที่ทำอย่างนั้น เป็นแฟนกันแล้วแท้ ๆ แต่เขากลับทำแค่นอนกอด หากเขารู้สึกว่าเธอสดใส เธอบริสุทธิ์ และน่าทะนุถนอม ปลายฝนมีค่ามากเกินกว่าจะทำให้เธอแปดเปื้อน นอกจากคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับบิดาของเธอ ที่เขาอดทนก็เพราะว่าเขาอยากรอให้ถึงวันที่ตนเองมีความพร้อมมากกว่านี้ พร้อมที่จะดูแลและรับผิดชอบเธอหลังจากที่เธอตกเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ... เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ทำให้เขามีความคิดที่โตขึ้น “แล้ว...แล้วพี่พายจัดการกับมันยังไง” ปลายฝนถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วงระคนอยากรู้ จนถึงตอนนี้มือเธอก็ยังวางทาบตรงกลางเป้าของเขาอยู่ มิหนำซ้ำเธอยังรู้สึกว่าสิ่งที่มันอยู่ภายใต้กางเกงกีฬาผ้าลื่น ๆ นั่นมันเริ่มแข็งสู้มือมากกว่าเดิม และเธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ดึงมือตัวเองออกมาจากตรงนั้นเสียที ทั้งที่เขาแค่จับไว้เฉย ๆ ไม่ได้ยื้อหรือฉุดรั้งเอาไว้เลย “นี่ไง” พระพายชูมือตัวเองให้เธอดูพลางขำเบา ๆ รู้สึกเขินนิดหน่อยที่ต้องมานั่งสารภาพกับเธออย่างนี้ “ปกติถ้าทนได้ก็ทนเอา แต่ถ้าทนไม่ได้พี่ก็เข้าไปในห้องน้ำ” “หือ อย่าบอกนะคะว่าที่อาบน้ำนาน ๆ ก็เพราะ...” หญิงสาวหยุดพูดเอาไว้แค่นั้น สายตาเผลอมองต่ำลงไปยังเป้าเขาแวบหนึ่งก่อนจะรีบดึงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับใบหน้าที่ร้อนผ่าวมากกว่าเดิม พระพายยิ้มขำแล้วตอบให้เธอหายข้องใจ “พี่อาบน้ำแค่ห้านาทีเท่านั้นแหละ ที่เหลือก็...ตามนั้นครับ” ปลายฝนหลุบตามมองมือตัวเองที่ยังวางอยู่ตรงนั้น เรียวปากอิ่มเม้มเข้าหากันพร้อมกับก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายสั่นรัว เมื่อมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว และทันใดนั้น รวดเร็วกว่าสมองที่กำลังประมวลผลก็คงเป็นปากของเธอที่เอ่ยออกไป “หะ...ให้ฝนช่วยไหม” “หืม...” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เชื่อหู ความเป็นชายกระตุกหงึกนำไปก่อนด้วยความตื่นเต้น ไม่รู้ว่าเธอหมายความว่าอย่างไร แต่เจ้าลูกชายก็ดีใจเอาไว้รอแล้ว “หมายถึง...ช่วยอะไร” ปรางแก้มนวลร้อนผ่าว ไม่นานก็ขึ้นสีระเรื่อลามไปถึงใบหู ก้มหน้าอย่างไม่กล้าสบตา ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบเสียเบาด้วยความขวยเขิน “กะ...ก็ช่วยให้มันสงบลง” “คิดดีแล้วเหรอ” เขาถามอีกทั้งที่ในใจลิงโลด ตื่นเต้นจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ ให้ตายเถอะไอ้พาย! ตั้งแต่เกิดมายี่สิบกว่าปียังไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเท่านี้มาก่อน ขนาดตอนขึ้นครูครั้งแรกใจยังไม่เต้นแรงขนาดนี้เลย “ฝนเคยได้ยินมา ว่าถ้ามีคนช่วยมันจะรู้สึกดีกว่า” พระพายประคองใบหน้าสวยให้เงยขึ้นมาสบตากัน ข่มอารมณ์ที่มันพลุ่งพล่านในกายเอาไว้ก่อน “ไหน ลองพูดมาซิว่าจะช่วยพี่ด้วยวิธีไหน” “ก็...” ปลายฝนชูมือให้เขาดู อันที่จริงถ้าจะให้มีเซ็กซ์เธอก็ไม่ติดอะไร เพราะเธอเองก็อยากลอง และเธอก็ไม่เข้าใจเหตุผลของเขาสักเท่าไร ทำไมถึงไม่ยอมมีอะไรกับเธอทั้งที่มันก็เป็นเรื่องปกติของคนเป็นแฟนกัน แต่ก็คิดว่าเขาคงมีเหตุผลของเขา เธอจึงไม่เซ้าซี้อะไรมาก “ถ้าพี่อดใจไม่ไหวขึ้นมาจะทำยังไง” พระพายพยายามห้ามใจ ถ้าหากว่ามันเกิดการเลยเถิดไปมากกว่าการใช้มือ เขาก็จะหมดความน่าไว้ใจ เพราะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับบิดาเธอไม่ได้ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจะมีพ่อใครคนไหนเชื่อใจยกลูกสาวให้ดูแล หลายคนอาจจะพูดว่าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ ซึ่งก็จริง ถ้าเราไม่พูด คนอื่นก็ไม่รู้กับเรา แต่ในใจเรารู้ดีว่าได้ทำลายความเชื่อใจนั้นลงไปแล้ว ซึ่งเขายอมรักษาสัญญา ดีกว่าต้องทนอยู่กับความละอายไปตลอดชีวิต “ก็...ไม่ต้องทนก็ได้” พูดออกไปแล้ว หัวใจดวงเล็กก็เต้นโครมคราม หากก็พยายามทำใจกล้าตรึงสายตาไว้ที่ใบหน้าของเขา “ฝน...” เจ้าของร่างสูงครางเสียงอ่อน โน้มตัวเข้ามากอดแล้วซบใบหน้าลงที่ซอกคอของเธอ ก่อนจะพูดต่อเสียงอู้อี้ “พี่ว่าพี่ไม่ไหวว่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD