เช้านี้ยลดาลุกขึ้นมาช่วยอัครบดินทร์แต่งตัวด้วยการผูกเนกไทให้เขาและได้รับจุมพิตที่แก้มเนียนเป็นรางวัลก่อนจะจูงมือกันลงไปทานอาหารเช้าด้านล่าง ยลดาเอาใจเขาด้วยการนั่งบนตักและป้อนอาหารเช้าให้เขาจนอิ่ม ก่อนจะซบหน้าลงกับอกกว้างนั้นอย่างออดอ้อน
“คุณอัคขา”
“ว่าไงฮึ” อัครบดินทร์โอบกอดร่างนุ่มอย่างเอ็นดู
“วันนี้แยมขอไปหาเพื่อนนะคะ”
“เพื่อนที่ไหน ผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วจะไปหาที่ไหน” อัครบดินทร์รัวคำถามใส่ เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมายลดาไม่เคยออกไปเที่ยวกลางคืน หรือไปไหนโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเขา
“แอ้มไงคะ”
อัครบดินทร์พยักหน้ารับรู้เพราะเขาเคยเจอเพื่อนสนิทคนนี้ของ
ยลดาอยู่บ้าง
“แล้วนัดกันที่ไหน”
“ที่ห้างฯ แถวนี้เองค่ะ” ยลดาเอ่ยชื่อห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน
“ได้สิ”
“แต่ว่าแยมมีอะไรจะขอ”
อัครบดินทร์ก้มหน้ามองคนในอ้อมกอดที่กำลังส่งสายตาออดอ้อนมายังเขาอย่างที่ทำทุกครั้งเวลาต้องการให้เขาตามใจ
“ไหนบอกมาสิว่าจะขออะไร”
“แยมขอไปเอง ไม่ต้องให้คุณชยุตกับคุณอานนท์ไปรับไปส่งได้ไหมคะ”
“ฉันว่าเราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะ”
“แต่ว่าแยม...”
“ไม่มีแต่ สมัยนี้อันตรายรอบด้าน ยิ่งผู้หญิงสวยๆ แบบเธอยิ่งอันตรายในการไปไหนมาไหนคนเดียว อย่าทำให้ฉันเป็นห่วงเลยนะ ให้ชยุตกับอานนท์คอยไปรับไปส่งเธอนั่นแหละดีแล้ว ฉันจะสั่งให้สองคนนั้นตามไปห่างๆ ไม่ให้เธอรู้สึกอึดอัดก็แล้วกัน”
ยลดาแอบคิดในใจว่ามันจะต่างกันตรงไหน เพราะยังไงเธอก็รู้ว่ามีคนติดตามไปด้วยอยู่ดี อีกอย่าง ผู้หญิงคนอื่นก็ไปไหนมาไหนคนเดียวเยอะแยะไป แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะเถียงกับเขา
“ก็ได้ค่ะ”
ยลดารับคำด้วยน้ำเสียงจ๋อยๆ จนอัครบดินทร์ต้องเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นสบตาเขา
“ไม่งอแงนะ เด็กดีของฉัน ที่ฉันทำก็เพราะเป็นห่วงเธอ”
ประโยคนั้นทำให้ยลดายิ้มออกมาก่อนจะยินยอมทำตามความต้องการของเขา
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ยลดาก็เดินมาส่งอัครบดินทร์ที่หน้าบ้าน ซึ่งวันนี้ชายหนุ่มเรียกคนขับรถที่บริษัทมารับเพราะเขาให้ชยุตและอานนท์คอยดูแลเธอ
“ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวจะสาย”
อัครบดินทร์จูบแก้มเนียนของยลดาเบาๆ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถยนต์คันหรูที่คนขับรถของบริษัทนำมาจอดรอ ยลดายืนส่งเขาขึ้นรถเรียบร้อยจึงเดินไปยังรถยนต์ที่ชยุตและอานนท์นำมาจอดรอไว้เพื่อไปพบเพื่อนตามนัด
“แยมทางนี้ๆ”
ยลดาเดินเข้ามาในร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้าซึ่งยังไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าไหร่นักเนื่องจากห้างเพิ่งเปิดทำการและยังเป็นวันทำงาน หญิงสาวมองตามเสียงเรียกก็เห็นเพื่อนสนิทโบกไม้โบกมือให้ หญิงสาวจึงเดินตรงเข้าไปหา
“มานานแล้วเหรอ”
“เพิ่งมาถึงตะกี้เอง พอนั่งลงปุ๊บเธอก็เดินเข้ามาปั๊บ คุณอัคนี่เขาหวงเธอจริงๆ เลยนะ มาแค่นี้ต้องส่งลูกน้องมาคุมด้วย” อรวีพูดพร้อมมองไปทางบอดี้การ์ดของเพื่อนสนิทที่อัครบดินทร์ส่งมาคุม
พออรวีเอ่ยถึงเรื่องนี้ยลดาก็ทำหน้ามุ่ยอย่างขัดใจทันที
“เป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“ก็เรื่องนี้แหละ ฉันอยากมีอิสระไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องมีคนคุม แต่คุณอัคไม่ยอม”
“คนเขาหวงของเขานี่ เธอน่าจะดีใจนะที่คุณอัคเขาหวงเธอขนาดนี้ นั่นแสดงว่าเขารักเธอมาก”
“อันนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองหรอกว่าคุณอัครักฉัน”
“โอ๊ย ถ้าทำขนาดนี้ฉันกล้าฟันธงเลยว่าคุณอัคน่ะรักเธอ คุณอัคเขาเคยเลี้ยงผู้หญิงคนไหนไว้นานเป็นปีขนาดนี้กันล่ะ และที่สำคัญ ฉันเห็นตอนที่เขาเล่นงานไอ้ช่างภาพหื่นคนนั้นจนเป็นข่าวดังไปทั่ววงการถึงความโหดของคุณอัค แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเธอน่ะเป็นของรักของหวงที่ใครหน้าไหนก็ห้ามแตะ”
“เธอก็เว่อร์ไป” ยลดาว่าเพื่อน
“ไม่เว่อร์หรอก เรื่องนี้ไม่ต้องหมอลักษณ์ แค่หมอแอ้มก็ฟันธงได้ว่าคุณอัคน่ะรักเธอชัวร์ รอครองตำแหน่งคุณนายแห่งอาณาจักรหมื่นล้านได้เลยจ้ะเพื่อนรัก ถึงเวลานั้นอย่าลืมกันนะจ๊ะ”
อรวีวาดฝันอย่างอารมณ์ดีเพราะเธอนั้นแอบปลื้มอัครบดินทร์มานานและออกอาการตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มสนใจเพื่อนของเธอ แถมยังเชียร์จนออกนอกหน้าให้ยลดายอมตกลงสานสัมพันธ์กับเขา
และในที่สุดความปรารถนาของเธอก็สมหวังเมื่อยลดากลายเป็นผู้หญิงของอัครบดินทร์จริงๆ และอีกฝ่ายก็ดูจะรักจะหลงเพื่อนของเธอไม่น้อยทีเดียว
“ให้มันถึงวันนั้นก่อนเถอะ บอกตรงๆ นะแอ้มว่าฉันไม่กล้าคิดไปไกลขนาดนั้นเลย คุณอัคเป็นใคร แล้วฉันเป็นใคร เราต่างกันเสียจนฉันกลัว”
“โอ๊ย เหตุการณ์มันยังมาไม่ถึงจะไปคิดมากทำไม ตอนนี้หน้าที่เธอคือทำทุกอย่างให้คุณอัคเขารักเขาหลงเธอมากๆ งัดมาทุกกลเม็ด ทุกกระบวนท่า เอาให้คุณอัคไปไหนไม่รอดเลย”
“บ้า” ยลดาว่าเพื่อนแต่หน้าเป็นสีระเรื่อด้วยความอายเมื่อเผลอคิดตามที่เพื่อนสนิทยุ
“ว่าก็ว่าเถอะ คุณอัคเขาเป็นยังไงบ้างเรื่องนั้นน่ะ” อรวีถามพร้อมขยิบหูขยิบตา
“ถามอะไรของเธอยัยแอ้ม ไม่เอาไม่พูดด้วยแล้ว”
ยลดาเขินกับคำถามของเพื่อน แม้ยามอยู่กับอัครบดินทร์เธอจะร้อนแรงขนาดไหนแต่ก็ไม่ได้ไร้ยางอายถึงขนาดเอามาเล่าให้เพื่อนฟังได้อย่างไม่รู้สึกอะไร
“แหม ไม่ต้องอายหรอกน่า ไม่ต้องบอก แอ้มก็พอเดาได้ว่าคุณอัคต้องแซ่บเว่อร์แน่นอน ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ หล่อลากดิน หุ่นก็เท่ระเบิด แถมยังรวยล้นฟ้า โอ๊ย...นี่ถ้าเธอไม่ใช่เพื่อนรักฉันนะ ฉันว่าจะขอลงสนามแข่งแย่งคุณอัคดูสักตั้ง”
“ที่มีอยู่ก็จัดคิวให้ดีเถอะย่ะ ระวังเถอะ รถไฟจะชนกันจนเกิดศึกชิงนาง”
“ระดับนี้ไม่มีพลาดแน่นอน” อรวียักไหล่อย่างคนที่มั่นใจในเสน่ห์ของตัวเอง
“ถามจริงเถอะแอ้ม เธอไม่คิดจะคบใครจริงจังบ้างหรอ” ยลดาถามเพื่อนอย่างสงสัยเพราะตั้งแต่เธอรู้จักอรวีมาก็เห็นอีกฝ่ายเอาแต่ทำงานเก็บเงิน ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหน ไม่ว่าจนหรือรวยที่เข้ามาขายขนมจีบ อรวีก็จัดให้อยู่ในฐานะเพื่อนจนหลายรายล่าถอยหายไปเอง
“คิดมันก็คิดอยู่หรอก แต่มันยังไม่เจอคนที่ใช่น่ะสิ ถ้าเป็นคุณอัคก็ว่าไปอย่าง” สุดท้ายอรวีก็วกเข้ามาหาอัครบดินทร์จนได้
“เธอก็เอาแต่พูดเล่นอยู่เรื่อย”
“ฉันก็พูดเรื่องจริงอยู่นี่ไงว่ายังไม่เจอคนที่ใช่ พวกคนที่เข้ามาถ้าไม่หวังจะลากฉันขึ้นเตียงก็เป็นพวกเมียเผลอ คนพวกนี้ฉันขออยู่ให้ห่างดีกว่า เพื่อชีวิตที่ยืนยาว”
“เลือกมาก ระวังจะขึ้นคานนะ” ยลดาแกล้งว่า
“ถ้าต้องลงเอยกับผู้ชายพวกนั้น ฉันยอมขึ้นคานแห้งเหี่ยวไปตามกาลเวลาดีกว่า”
“จ้า แม่คนสวยเลือกได้”
“แน่นอน แล้วแผลเธอเป็นยังไงบ้าง” อรวีเปลี่ยนเรื่องคุยมาถามถึงอาการบาดเจ็บของเพื่อนรักแทน
“ดีขึ้นแล้วละ”
“เนี่ยแหละน้า อยู่ดีไม่ว่าดี คุณอัคอุตส่าห์จ้างแม่บ้านมาคอยดูแล ก็ซนจนได้เรื่อง”
“ก็ฉันอยากเอาใจคุณอัคนี่”
“โอ๊ย สมัยนี้การเอาใจผู้ชายมันไม่ใช่แค่การทำกับข้าวอย่างเดียวหรอก ถึงโบราณจะว่าเสน่ห์ปลายจวักผัวรักจนตายก็เถอะ แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ เธอก็เอาใจด้วยวิธีอื่นดีกว่า อย่างเช่น...”
อรวีลากเสียงและส่งสายตามีเลศนัยจนยลดาต้องรีบปรามเพื่อนจอมทะเล้นของเธอไว้ก่อน
“พอเลยยัยแอ้ม พูดไปพูดมาก็ไม่พ้นเรื่องแบบนี้ ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าถึงเวลาเธอมีแฟนจะซ่าออกหรือเปล่า”
“แหม ฉันก็ยังคงเป็นฉันแบบนี้แหละ บอกตรงๆ ฉันเห็นผู้ชายแต่ละคนที่เข้ามาจีบแล้วรู้สึกขยาดจนอยากโสดไปจนแก่เหมือนกันนะ” อรวีพูดอย่างปลงๆ ตั้งแต่เลิกรากับแฟนหนุ่มที่คบกันตั้งแต่สมัยมัธยมจนเลิกรากันเมื่อเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเพราะอีกฝ่ายนอกใจ อรวีก็ครองตัวเป็นโสดและทำแต่งานโดยไม่สนใจผู้ชายคนไหนอีกเลย
“สวยๆ อย่างเธอรับรองไม่ได้อยู่เป็นโสดจนแก่แน่ๆ เผลอๆ จะมาแรงแซงทางโค้ง แต่งงานมีลูกก่อนฉันซะอีก” ยลดาออกความเห็น
“โอ๊ย ฉันจะไปแต่งงานมีลูกก่อนเธอได้ยังไงยะ ป่านนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาชายหนุ่มผู้นั้น ส่วนเธอน่ะอยู่กับเจ้าชายแสนเพอร์เฟ็กต์มาเป็นปี ไม่แน่ เขาอาจจะขอเธอแต่งงานเร็วๆ นี้ก็ได้นะแยม”
“ฉันไม่กล้าวาดฝันถึงขนาดนั้นหรอก”
“เอาน่า ของแบบนี้มันก็ไม่แน่หรอก ฉันเชื่ออยู่อย่างนะว่าถ้าคุณอัคเขาไม่คิดอะไรกับเธอ เขาไม่เลี้ยงเธอไว้จนป่านนี้หรอก ลำพังแค่อยากได้คงจะเบื่อไปนานแล้วเพราะวงการนี้มีสาวๆ สวยๆ มากมายให้เขาลากขึ้นเตียง แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่กับเธอคนเดียว สายข่าวฉันมีเยอะแยะ แต่ก็ยังไม่ได้ยินข่าวว่าคุณอัคสนใจสาวๆ คนไหนเลยนะตั้งแต่มีเธอ” เพราะหญิงสาวอยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งทำให้เธอรู้จักคนในวงการเยอะ รวมถึงบรรดาโมเดลลิ่งและพวกนายหน้าที่จัดหาเด็กส่งบรรดาเสี่ยกระเป๋าหนักมากมาย บรรดาพริตตี้นางแบบในวงการก็ล้วนรู้จักเธอแทบทั้งสิ้น เพราะอรวีเป็นเจ้าของตำแหน่งพริตตี้ยอดนิยมหลายปีซ้อน และได้รับเชิญเป็นกรรมการตัดสินรางวัลประกวดพริตตี้อยู่เป็นประจำ
“ถ้าได้ยินข่าวว่าคุณอัคสนใจผู้หญิงคนอื่นก็บอกฉันด้วยแล้วกัน ฉันจะได้เตรียมใจ” ยลดาบอกกับเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ แค่คิดว่าเขาจะเบื่อเธอและไปสนใจผู้หญิงคนอื่น เธอก็รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
“พูดแบบนี้แสดงว่าหลงรักคุณอัคเข้าแล้วสิ แต่ฉันก็ไม่แปลกใจหรอก ผู้หญิงคนไหนได้อยู่กับคุณอัคแล้วไม่หลงรักสิแปลก กินข้าวกันดีกว่า อาหารเย็นหมดแล้ว” อรวีตัดบทเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนสนิทที่เริ่มจะซีเรียสเมื่อคิดไปว่าอัครบดินทร์จะเบื่อตัวเองไปสนใจผู้หญิงคนอื่น
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ สองสาวก็พากันไปชอปปิง เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อย่างสนุกสนาน คนที่ดูมีความสุขที่สุดดูจะเป็นอรวีเพราะมีถุงชอปปิงเต็มสองมือจนต้องให้ชยุตและอานนท์ที่เดินตามมาห่างๆ ช่วยถือ
“แหม มีบอดี้การ์ดมาด้วยมันดีแบบนี้นี่เอง พูดแล้วอยากมีบ้างจัง”
อรวีบอกเมื่อส่งถุงเสื้อผ้าเครื่องประดับแบรนด์ต่างๆ หลายสิบถุงให้ชยุตและอานนท์ช่วยถือให้
“ถ้ามีจริงๆ จะไม่พูดแบบนี้” ยลดาบอก
“เอาน่า ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องมีก็เลือกมองที่ข้อดีของมันสิจ๊ะเพื่อนเลิฟ อย่างน้อยก็มีคนช่วยถือของและดูแลความปลอดภัย สมัยนี้อันตรายรอบด้าน ยิ่งผู้หญิงสวยๆ แบบเรายิ่งต้องระวังตัว มีบอดี้การ์ดคอยดูแลแบบนี้ก็ไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจ แล้วเธอซื้อของแค่นี้เองเหรอ” อรีวีถามเมื่อเห็นว่าในมือของยลดามีถุงเพียงสองใบ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าผู้ชายกับเข็มขัดอย่างไม่ต้องเดาก็รู้ว่าของใคร
“ใช่ ฉันไม่รู้จะซื้ออะไรเพราะมีครบหมดแล้ว”
“แหงสิ ระดับคุณอัคคงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองขาดเหลืออะไรหรอก เป็นฉันหน่อยไม่ได้ จะชอปให้กระจาย”
ยลดายิ้มกับคำพูดของเพื่อนรักเพราะรู้จักอรวีดีว่าพูดไปอย่างนั้นเอง ถ้าหากอรวีเห็นแก่เงินจริงคงรับข้อเสนอของบรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนักที่มาจีบไปนานแล้ว
ยลดาเดินเป็นเพื่อนอรวีชอปปิงจนพอใจก่อนจะแยกย้ายกันกลับในตอนบ่าย
“แล้วเจอกันใหม่นะจ๊ะแยม” อรวีบอกลายลดาเมื่อเดินมาถึงรถยนต์ของตนเอง
“จ้ะ ขับรถดีๆ นะแอ้ม”
“จ้า”
ยลดายืนรอจนรถยนต์ของเพื่อนสนิทเคลื่อนจากไปจึงเดินไปยังรถยนต์คันหรูที่ผู้ติดตามอย่างชยุตและอานนท์เปิดประตูรออยู่แล้ว