อัครบดินทร์จูงมือยลดามาที่โซฟาที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้องนอนก่อนจะนั่งลงแล้วดึงร่างกลมกลึงของหญิงสาวให้นั่งลงบนตัก ซึ่งหญิงสาวก็ถือโอกาสซบหน้าลงกับอกอุ่นของเขาทันที เธอชอบเหลือเกินยามได้ซุกกายอยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนี้
“คุณอัคมาเหนื่อยๆ อาบน้ำไหมคะ เดี๋ยวแยมถูหลังให้” ยลดาเสนออย่างเอาใจ
“อย่าดีกว่า เธอมือเจ็บอยู่นี่ ไม่ควรโดนน้ำไม่ใช่เหรอ” อัครบดินทร์กล่าวอย่างเอาใจใส่ แม้ข้อเสนอของยลดาจะน่าสนใจไม่น้อย แต่เขาไม่อยากเห็นแก่ตัว เอาเปรียบเธอตอนร่างกายไม่พร้อม
“จริงด้วย แบบนี้คงอาบน้ำลำบากแย่” ยลดาหน้ามุ่ยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าได้รับคำสั่งจากคุณหมอว่าไม่ควรให้แผลโดนน้ำ
“เดี๋ยวฉันจะอาบให้เธอเอง”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ แยมอาบเองได้” ยลดารีบปฏิเสธอย่างเกรงใจ
“เมื่อกี้เธอยังบอกว่าอาบน้ำลำบากอยู่เลย”
“แยมไม่อยากรบกวนคุณอัคนี่คะ คุณอัคทำงานมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำ นอนพักดีกว่านะคะ”
“รบกวนอะไร ทำอย่างกับว่าเธอกับฉันไม่เคยอาบน้ำด้วยกัน เธอลืมไปแล้วเหรอว่าฉันชอบอาบน้ำกับเธอขนาดไหน”
ลำพังคำพูดคงไม่ทำให้ยลดาขัดเขินได้เท่ากับสายตาแฝงความนัยที่มองสบมา
“ไปอาบน้ำกันดีกว่า เดี๋ยวจะได้มาทำแผล” อัครบดินทร์บอกและไม่รอช้าช้อนร่างยลดาตรงไปยังห้องน้ำทันที
หญิงสาวยืนนิ่งให้อัครบดินทร์ทำหน้าที่ปลดชุดสวยออกจากกาย ตามด้วยชุดชั้นในลูกไม้สุดเซ็กซี่ จนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าที่มีส่วนโค้งส่วนเว้าละลานตาทำให้ลมหายใจของอัครบดินทร์สะดุด แม้ตั้งใจไว้ว่าจะช่วยอาบน้ำให้หญิงสาวเฉยๆ แต่ความตั้งใจนั้นกำลังสั่นคลอนเมื่อได้กวาดสายตามองไปทั่วเรือนร่างงดงามไม่มีที่ติ ซึ่งเขาเองได้เชยชมมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังทำให้เขาร้อนรุ่มทุกครั้งที่ได้เห็น
“เธอสวยมาก รู้ไหมยลดา” อัครบดินทร์กระซิบบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่าขณะเปิดน้ำจากเรนชาวเวอร์ให้ราดรดลงบนกายของทั้งคู่
“รู้ค่ะ เพราะคุณอัคเคยบอกแยมหลายครั้งแล้ว” ยลดาตอบเพราะอัครบดินทร์มักกระซิบชมรูปร่างของเธอทุกครั้งยามร่วมรักกัน
“และฉันก็จะพูดแบบนี้อีกหลายครั้ง เพราะเธอสวยมากจริงๆ”
ยลดายิ้มภูมิใจที่เขาชม และเธอก็อยากให้เขาเห็นว่าเธอสวยงามน่าหลงใหลแบบนี้ไปตลอด เพื่อที่เขาจะได้ไม่มีสายตาไปมองผู้หญิงคนไหนอีก
“คุณอัคปากหวาน”
“แต่ฉันว่าปากเธอหวานกว่า” จบประโยคนั้นอัครบดินทร์ก็พิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นจริงไม่ผิดเพี้ยน
ริมฝีปากนุ่มของยลดาถูกจุมพิตอย่างอ่อนโยนก่อนจะทวีความเร่าร้อนขึ้นจนหญิงสาวครางแผ่วด้วยความรัญจวน ฝ่ามือใหญ่ของอัครบดินทร์สัมผัสลูบไล้ไปทั่วผิวนุ่มเปล่าเปลือยปลุกอารมณ์รักของทั้งคู่ให้คุโชนขึ้น
สุดท้ายการอาบน้ำครั้งนี้ก็กินเวลายาวนานและยลดาก็สิ้นเรี่ยวแรงจนอัครบดินทร์ต้องเป็นฝ่ายอุ้มร่างเปลือยที่ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำ
หลังจากจัดการสวมชุดนอนบางเบาสีชมพูหวานให้ยลดาเรียบร้อย อัครบดินทร์ก็อุ้มร่างบางไปวางบนเตียงและหยิบอุปกรณ์ทำแผลมานั่งลงข้างๆ
“เอ่อ...คุณอัคขา ให้พี่ปองทำแผลให้แยมก็ได้นะคะ” ยลดาบอกอย่างเกรงใจ
“ทำแผลแค่นี้ฉันก็ทำได้ เธอไม่ไว้ใจฉันเหรอ”
“เปล่านะคะ แยมแค่เกรงใจ”
“จะเกรงใจอะไรกัน มาเถอะ ทำแผลแล้วเธอจะได้นอน”
อัครบดินทร์บอกและดึงมือนุ่มนิ่มที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลมาแกะออกเพื่อทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่ ชายหนุ่มสบถออกมาเบาๆ เมื่อเห็นรอยแผลจากน้ำร้อนลวกชัดๆ ด้วยสายตาตัวเอง เขาไม่ชอบใจเลยจริงๆ ที่ผิวเนื้อนวลเนียนนี้ต้องช้ำทั้งๆ ที่เขาเฝ้าทะนุถนอมเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
“ต่อไปนี้ ฉันขอสั่งห้ามเด็ดขาดเลยนะ ห้ามเธอเข้าไปทำครัวอีก ดูสิน้ำร้อนลวกแดงขนาดนี้” อัครบดินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ ถ้าฉันรู้ว่าสมปองปล่อยให้เธอเข้าไปในครัวอีก ฉันจะไล่ออกเพราะถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ ฉันจ้างสมปองไว้ทำงานในครัวและดูแลเธอ ไม่ใช่ให้เธอต้องไปทำเองจนเจ็บตัวแบบนี้”
“ก็ได้ค่ะ” เมื่อเขาเอาแม่บ้านที่แสนซื่อสัตย์คอยดูแลเป็นอย่างดีมาขู่ ยลดาจึงรีบรับคำแต่โดยดี
“เจ็บหรือเปล่า” ระหว่างทำแผล อัครบดินทร์ก็เอ่ยถามด้วยความเอาใจใส่
“ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วค่ะ”
ยลดาตอบและนั่งนิ่งมองดูเขาทำแผลให้เธออย่างอ่อนโยน หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุขที่เขาเอาใจใส่ดูแลเธอขนาดนี้ จะดีแค่ไหนถ้าเธอและเขาได้แต่งงานใช้ชีวิตคู่แบบสามีภรรยา ไม่ใช่เมียเก็บของเขาแบบนี้
ยลดาคิดอย่างเศร้าๆ และบอกตัวเองให้ทำใจยอมรับหากวันข้างหน้าเธอและเขาต้องจากกัน เพราะผู้ชายอย่างอัครบดินทร์ มหาทรัพย์ไพศาล คงต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมเหมาะสมคู่ควร ไม่ใช่นางแบบโนเนม ลูกสาวคนธรรมดา ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไรแบบเธอ
“เป็นอะไร เจ็บเหรอ”
อัครบดินทร์เอ่ยถามเมื่อเห็นยลดานั่งเหม่อทำหน้าเศร้า หญิงสาวจึงรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“เปล่าค่ะ”
“เสร็จแล้ว นอนได้แล้วนะ”
อัครบดินทร์เก็บอุปกรณ์ทำแผลไปวางไว้ที่โต๊ะแล้วเดินกลับมาประคองยลดาลงนอนบนเตียงก่อนจะห่มผ้าให้แล้วก้มลงจุมพิตหน้าผากเนียนเบาๆ ส่วนตัวเองนั้นนั่งพิงหัวเตียงและหยิบแล็ปท็อปออกมาทำงาน
ยลดาทำหน้ามุ่ยเพราะอยากให้เขานอนกอดเธอจนหลับไปมากกว่าจะนั่งทำงานอยู่แบบนี้ คิดได้ดังนั้น หญิงสาวจึงเริ่มทำการเรียกร้องความสนใจจากเขาทันที
“คุณอัคขา”
“ว่าไงฮึ” อัครบดินทร์ก้มลงมองคนที่เงยหน้ามองเขาตาแป๋ว
“ทำไมคุณอัคยังต้องทำงานอีกล่ะคะ”
“ฉันตอบเมลนิดหน่อยน่ะ เธอนอนก่อนเถอะ”
“แยมจะรอนอนพร้อมคุณอัค” ยลดาตอบและขยับกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงบ้าง
อัครบดินทร์ถอนหายใจกับเด็กเกเรที่งอแงไม่ยอมนอนจึงตัดสินใจนำแล็ปท็อปวางลงบนโต๊ะข้างเตียงและรวบร่างกลมกลึงมากอดไว้แนบอก ก่อนจะเอนกายลงนอน
“เด็กงอแง ทีนี้จะนอนได้หรือยัง” ชายหนุ่มกระซิบถาม
“ค่ะ แยมง่วงจัง” ยลดาตอบด้วยรอยยิ้มมีความสุขเพราะที่ที่เธอโปรดปรานที่สุดคือในอ้อมกอดของเขา
อัครบดินทร์บีบจมูกคนในอ้อมกอดอย่างมันเขี้ยวแต่ก็ลูบไล้แผ่นหลังภายใต้ชุดนอนเรียบลื่นนั้นเบาๆ ดั่งต้องการจะกล่อมให้คนในอ้อมกอดหลับฝันดี ไม่ช้า ยลดาก็หลับสนิทไปอย่างง่ายดาย
อัครบดินทร์จูบแก้มนิ่มเบาๆ ก่อนจะขยับกายเพื่อตอบอีเมลที่ยังค้างอยู่ แต่เพียงแค่เขาขยับเพียงเล็กน้อย ยลดาก็ผวาตาม สุดท้ายเขาจึงยอมแพ้เอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงและนอนกอดร่างนุ่มแทน