นกน้อยในกรงทอง 1

1988 Words
ยลดาลงทุนเข้าครัวให้สมปองสอนทำอาหารเพราะต้องการเอาใจอัครบดินทร์ แต่นอกจากจะกินไม่ได้แล้ว ตัวเองยังได้แผลจากการถูกน้ำร้อนลวกอีกต่างหาก “ตายแล้วคุณแยม ไปหาหมอกันดีกว่าค่ะ ตายแน่ๆ เลย คุณอัคเอาพี่ตายแน่ที่ปล่อยให้คุณแยมเจ็บตัวแบบนี้” สมปองออกอาการวิตกกังวลที่เจ้านายสาวถูกน้ำร้อนลวกจากการมาช่วยเธอทำครัว หากอัครบดินทร์รู้เข้าต้องโกรธมากแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอนั้นทั้งรักและหวงยลดาอย่างกับอะไรดี ยลดาน้ำตาคลอด้วยความปวดแสบปวดร้อนจากการถูกน้ำร้อนลวกที่มือซ้าย “ไปค่ะคุณแยม ไปหาหมอกัน” สมปองรีบจูงมือเจ้านายสาวไปเรียกแท็กซี่เพื่อไปโรงพยาบาล เนื่องจากบอดี้การ์ดของหญิงสาวอย่างชยุตและอานนท์จะทำหน้าที่คอยรับส่งดูแลเฉพาะเวลาที่ยลดาต้องออกไปข้างนอกเท่านั้น เมื่อวันนี้หญิงสาวไม่มีงานและแจ้งกับอัครบดินทร์ว่าจะไม่ออกไปไหน เขาจึงไม่ได้ให้ลูกน้องมาดูแล ยลดาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อทราบจากคุณหมอว่าแผลของเธอไม่ร้ายแรงมากถึงผิวหนังชั้นในและยืนยันว่าหากดูแลดีๆ จะไม่เป็นแผลเป็นอย่างแน่นอน เป็นธรรมดาของผู้หญิงที่จะกลัวการมีแผลเป็นบนร่างกายที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอาชีพต้องใช้ร่างกายในการทำมาหากินแบบเธอด้วยแล้ว ยิ่งมีแผลเป็นไม่ได้เด็ดขาด หญิงสาวเดินไปรับยาหลังจากทำการรักษาเรียบร้อย มือซ้ายของเธอถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลซึ่งยังต้องล้างทำความสะอาดทุกวันจนกว่าแผลจะแห้ง ซึ่งคุณหมอได้แนะนำถึงวิธีการดูแลทำความสะอาดอย่างละเอียดเพราะแผลเธอไม่ร้ายแรงนักจึงสามารถล้างทำความสะอาดเองที่บ้านได้ ยลดาและสมปองโดยสารรถแท็กซี่กลับมาที่บ้าน ซึ่งนี่ก็ใกล้เวลาที่อัครบดินทร์จะเดินทางกลับ “คุณแยมนั่งพักตรงนี้นะคะ เดี๋ยวพี่จะรีบไปทำอาหารต่อ ใกล้เวลาที่คุณอัคจะกลับแล้ว” “ค่ะพี่ปอง” “ถ้าต้องการอะไรเรียกพี่นะคะ” “ได้ค่ะ” ยลดารับคำและเมื่อเห็นแม่บ้านที่เธอคุ้นเคยมีสีหน้าไม่ดีนัก เธอก็รีบปลอบใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่ปองไม่ต้องกลัวนะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ความผิดของพี่ปอง” “แต่คุณอัคคงไม่คิดแบบนั้น” สมปองกล่าวด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล อัครบดินทร์เป็นเจ้านายที่ใจดีและมีเมตตาในขณะเดียวกัน หากใครทำอะไรให้ไม่พอใจ เขาก็จะกลายเป็นคนที่ดุจนน่ากลัวมากทีเดียว “แยมจะบอกคุณอัคเองค่ะ พี่ปองไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นนะคะ เชื่อแยมนะคะว่าเรื่องนี้แยมเอาอยู่” ยลดาแสร้งพูดติดตลกและส่งยิ้มให้แม่บ้านรุ่นพี่ที่คอยดูแลเธอมาตลอดตั้งแต่ก้าวเข้ามาเป็นผู้หญิงของอัครบดินทร์ “ค่ะ พี่เชื่อคุณแยม” สมปองรับคำด้วยสีหน้าดีขึ้นและเดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นให้เจ้านายทั้งสอง เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มที่เสียงรถยนต์ของอัครบดินทร์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ยลดารีบลุกขึ้นจากโซฟาวิ่งออกไปรับเขาอย่างดีใจ อัครบดินทร์กางแขนออกรับร่างบางที่โผเข้ามาหาก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากเนียนและแก้มนุ่มแค่นั้นก็ดูเหมือนว่าความเหน็ดเหนื่อยจากการประชุมอันเคร่งเครียดและภารกิจที่มีมากมายในแต่ละวันจะเบาบางลง “วันนี้คุณอัคกลับช้า งานเยอะเหรอคะ” ยลดาถามอย่างเอาใจใส่ “ใช่ วันนี้ประชุมยืดเยื้อมาก กว่าจะหาข้อสรุปได้” “คุณอัคหิวหรือยังคะ ไปทานข้าวกันดีกว่า” “หิวมาก” “งั้นไปทานข้าวกันเถอะค่ะ พี่ปองทำอาหารน่ากินทั้งนั้นเลยค่ะ มีของโปรดของคุณอัคด้วยนะคะ” ยลดาเอาใจและจูงมืออัครบดินทร์ตรงไปยังโต๊ะอาหาร แต่สายตาของเขาเหลือบไปเห็นฝ่ามือที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลของหญิงสาวเสียก่อนจึงดึงแขนหญิงสาวเอาไว้ “เป็นอะไร” “เอ่อ...แค่อุบัติเหตุนิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ยลดาตอบเลี่ยงๆ เพราะเกรงว่าแม่บ้านจะโดนอัครบดินทร์ดุที่ปล่อยให้เธอเข้าไปในครัวจนเจ็บตัว “อุบัติเหตุอะไร ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้” อัครบดินทร์ถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ อย่างที่ยลดารู้ว่าหากเธอยังทำเฉไฉอีกอาจทำให้เขาโกรธได้ “แยมขอให้พี่ปองสอนทำอาหารเพราะอยากทำให้คุณอัคทาน แต่ว่าแยมซุ่มซ่าม ทำน้ำร้อนลวกมือตัวเองค่ะ” คำตอบของยลดาทำให้อัครบดินทร์หน้าเครียดแล้วตะโกนเรียกแม่บ้านเสียงดัง “สมปอง ออกมาพบฉันหน่อย!” ท่าทางไม่พอใจของอัครบดินทร์ทำให้ชยุตและอานนท์ลอบสบตากันอย่างรู้สึกสงสารแม่บ้านที่กำลังจะถูกเล่นงานเพราะดูแลแก้วตาดวงใจของเจ้านายไม่ดี “คุณอัคขา อย่าดุพี่ปองเลยนะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ แยมซุ่มซ่ามเอง” ยลดาพยายามอธิบายเพื่อช่วยเหลือแม่บ้านที่เดินตัวลีบออกมาอย่างรู้ชะตากรรมของตัวเอง “ค่ะ คุณอัค” สมปองเดินมายืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้าอัครบดินทร์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด “ฉันจ้างเธอมาคอยดูแลเมียฉัน แต่ทำไมถึงปล่อยให้ยลดาเจ็บตัวแบบนี้ได้” อัครบดินทร์ต่อว่าแม่บ้านด้วยความไม่พอใจหนักหนา “ปองขอโทษค่ะคุณอัค ปองผิดเองที่ดูแลคุณแยมไม่ดี” สมปองก้มหน้ายอมรับผิด “คุณอัคขา อย่าดุพี่ปองเลยนะคะ แยมไม่ระวังเอง” ยลดาซบหน้าลงกับอกของอัครบดินทร์และออดอ้อนขอให้เขาไม่เอาเรื่องสมปองที่ยืนหน้าซีดอย่างน่าสงสาร “นะคะคุณอัค” เมื่อเห็นเขายังนิ่ง ยลดาจึงออดอ้อนหนักกว่าเดิมอย่างที่มักใช้ได้ผลเสมอ “ต่อไปอย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีกนะ” อัครบดินทร์กำชับกับสมปองซึ่งรีบรับคำอย่างหนักแน่น “ไปตั้งโต๊ะอาหารได้แล้ว ส่วนนายสองคนไปพักได้” อัครบดินทร์สั่งงานแม่บ้านและหันไปบอกลูกน้องทั้งสองคนที่เขาส่งมาคอยดูแลยลดาในวันที่หญิงสาวต้องออกไปทำงานข้างนอก และเนื่องจากช่วงนี้หญิงสาวหยุดอยู่บ้านเขาจึงให้ทั้งสองกลับไปช่วยงานตัวเองดังเดิม เขาจูงมือเธอไปยังโต๊ะอาหารที่สมปองจัดอาหารขึ้นโต๊ะเรียบร้อยซึ่งล้วนหน้าตาน่ากินอย่างที่ยลดาโฆษณาเอาไว้จริงๆ “เธอมีอะไรทำก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวทานเสร็จแล้วฉันจะเรียก” เขาหันไปสั่งสมปอง “ค่ะ คุณอัค” “เจ็บมากหรือเปล่า” ถามคนที่เขาดึงให้นั่งบนตักและจับมือข้างที่มีผ้าพันแผลมากุมไว้ดั่งต้องการปัดเป่าความเจ็บปวดให้หมดไป “เจ็บค่ะ แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว” ยลดาตอบตามตรง “ซนจนได้เรื่อง คราวหน้าห้ามทำแบบนี้อีกนะ” อัครบดินทร์สั่งห้ามด้วยความเป็นห่วง เขาไม่ชอบใจเลยจริงๆ ที่ต้องเห็นเธอเจ็บตัว “แยมไม่ได้ซนนะคะ แยมแค่อยากทำอะไรให้คุณอัคบ้าง” ยลดาตอบด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด พลางทำปากยื่นเมื่อถูกกล่าวหาว่าซนจนได้เรื่อง “เธอไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นให้ฉันหรอก แค่เธอเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่งอแง แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว” บอกพร้อมก้มลงฝังจมูกลงกับกลุ่มผมนิ่มสลวยนั้นอย่างเอ็นดู “คุณอัคพูดเหมือนแยมเป็นเด็กห้าขวบ แยมโตแล้วนะคะ” “เหรอ ไหนดูซิโตแค่ไหนกันเชียว” อัครบดินทร์แสร้งดันร่างนุ่มนิ่มบนตักออกห่างและกวาดสายตาขึ้นลง แต่จงใจหยุดสายตาไว้ที่อกอิ่มนั้นนานผิดปกติจนยลดาหน้าแดง เมื่อเห็นกิริยาเขินอายของคนตรงหน้าอัครบดินทร์ก็หัวเราะอย่างชอบใจ “อืม โตจริงๆ โตมากด้วย” “คุณอัค” ยลดาทุบอกเขาหนึ่งทีด้วยรู้ความนัยแห่งประโยคนั้นเป็นอย่างดี ทำให้อัครบดินทร์ยิ่งหัวเราะเสียงดังขึ้นอีก จนชยุต อานนท์ และสมปองที่อยู่ในครัวแอบกระซิบกันถึงท่าทีของเจ้านาย “ทำงานกับนายมานาน ไม่เคยเห็นใครทำให้นายหัวเราะเสียงดังแบบนี้มาก่อนเลย” ชยุตเปรยขึ้นระหว่างรับประทานของว่างกับอานนท์และสมปองในครัว ต่อหน้าคนอื่นชยุตและอานนท์คือบอดี้การ์ดมาดขรึมที่ทำให้คนที่พบเห็นยำเกรง แต่ยามที่อยู่กันตามลำพังกับสมปองแม่บ้านที่สนิทสนมกันก็มีท่าที่สบายๆ เพราะอีกฝ่ายเคยทำงานเป็นแม่บ้านที่บริษัทของอัครบดินทร์มาก่อน ก่อนที่จะได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้หญิงของเจ้านาย “สงสัยคนนี้คงจะได้เลื่อนขั้นเป็นตัวจริง” อานนท์ออกความเห็น “ก็ไม่แน่ คุณแยมทั้งสวย น่ารัก แถมเซ็กซี่สุดๆ ขนาดนั้น ผู้ชายที่ไหนไม่รักไม่หลงก็แปลกละ” ชยุตกล่าวสำทับ “คุณยุตกับคุณนนท์รู้ไหม ตะกี้ตอนที่คุณอัคเรียกพี่ออกไปนะ ใจพี่น่ะร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม นึกว่าต้องเก็บเสื้อผ้าออกไปหางานใหม่เสียแล้ว” สมปองบอกอย่างใจหายใจคว่ำเมื่อถูกเจ้านายหนุ่มเรียกไปดุที่ดูแลยลดาไม่ดี “ผมก็แอบเอาใจช่วยพี่ปองอยู่เหมือนกันครับ” ชยุตบอก “โชคดีที่คุณแยมช่วยพูดกับคุณอัค ไม่อย่างนั้น พี่ปองคงแย่” อานนท์ออกความเห็น “ก็ใช่น่ะสิคะ พี่น่ะโชคดีที่ได้คุณแยมช่วยเอาไว้ จะว่าไป พี่ก็แอบลุ้นให้คุณอัคลงเอยกับคุณแยมนะคะ เธอจิตใจดี เป็นกันเองไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ของเจ้านายที่เคยแวะมาหาที่บริษัท” ประโยคสุดท้ายสมปองมองซ้ายมองขวาก่อนจะกระซิบกระซาบกับสองหนุ่มเพราะเกรงว่าอัครบดินทร์จะมาได้ยิน เธอเคยเป็นแม่บ้านที่รับหน้าที่ดูแลความสะอาดห้องของประธานบริษัทอย่างอัครบดินทร์และประจำอยู่ที่ชั้นผู้บริหาร ทำให้มีโอกาสได้เห็นบรรดาคู่ควงของเจ้านายบ่อยครั้ง ซึ่งทุกคนล้วนสวยหยาดฟ้ามาดินและเป็นคนดัง มีชื่อเสียง แต่นิสัยช่างสวนทางกับหน้าตา ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ผู้หญิงคนล่าสุดของเจ้านายคือยลดาที่ทั้งสวยและใจดี ทำให้เธอทำงานด้วยอย่างสบายใจ “พวกผมก็คิดเหมือนพี่ปองครับ” อานนท์บอกกับสมปอง “เดี๋ยวพี่ออกไปคอยดูแลคุณอัคกับคุณแยมก่อนดีกว่า ป่านนี้คงจะทานอาหารใกล้เสร็จแล้ว ว่าแต่คุณยุตกับคุณนนท์จะรับอาหารเย็นเลยไหมคะ” “พี่ปองไปดูแลนายเถอะครับ เดี๋ยวทางนี้พวกผมจัดการเอง” ชยุต บอกยิ้มๆ เขาและอานนท์คุ้นเคยกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างดีและมักดูแลช่วยเหลือตัวเองเสมอ เพราะอัครบดินทร์จ้างสมปองไว้เป็นแม่บ้านเพียงคนเดียวในบ้านหลังใหญ่เพื่อดูแลยลดา และอยู่เป็นเพื่อนหญิงสาวเวลาที่เจ้านายเขาไม่ได้มาค้างด้วย และอีกเหตุผลคืออัครบดินทร์ต้องการความเป็นส่วนตัวจึงไม่จ้างแม่บ้านหลายคน โดยเลือกจ้างบริษัทรับทำความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละครั้ง “เก็บโต๊ะได้เลยนะสมปอง” อัครบดินทร์หันมาสั่งสมปองหลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะจูงมือยลดาเดินขึ้นชั้นบนไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD