ยลดาลงทุนเข้าครัวให้สมปองสอนทำอาหารเพราะต้องการเอาใจอัครบดินทร์ แต่นอกจากจะกินไม่ได้แล้ว ตัวเองยังได้แผลจากการถูกน้ำร้อนลวกอีกต่างหาก
“ตายแล้วคุณแยม ไปหาหมอกันดีกว่าค่ะ ตายแน่ๆ เลย คุณอัคเอาพี่ตายแน่ที่ปล่อยให้คุณแยมเจ็บตัวแบบนี้”
สมปองออกอาการวิตกกังวลที่เจ้านายสาวถูกน้ำร้อนลวกจากการมาช่วยเธอทำครัว หากอัครบดินทร์รู้เข้าต้องโกรธมากแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอนั้นทั้งรักและหวงยลดาอย่างกับอะไรดี
ยลดาน้ำตาคลอด้วยความปวดแสบปวดร้อนจากการถูกน้ำร้อนลวกที่มือซ้าย
“ไปค่ะคุณแยม ไปหาหมอกัน”
สมปองรีบจูงมือเจ้านายสาวไปเรียกแท็กซี่เพื่อไปโรงพยาบาล เนื่องจากบอดี้การ์ดของหญิงสาวอย่างชยุตและอานนท์จะทำหน้าที่คอยรับส่งดูแลเฉพาะเวลาที่ยลดาต้องออกไปข้างนอกเท่านั้น เมื่อวันนี้หญิงสาวไม่มีงานและแจ้งกับอัครบดินทร์ว่าจะไม่ออกไปไหน เขาจึงไม่ได้ให้ลูกน้องมาดูแล
ยลดาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อทราบจากคุณหมอว่าแผลของเธอไม่ร้ายแรงมากถึงผิวหนังชั้นในและยืนยันว่าหากดูแลดีๆ จะไม่เป็นแผลเป็นอย่างแน่นอน เป็นธรรมดาของผู้หญิงที่จะกลัวการมีแผลเป็นบนร่างกายที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอาชีพต้องใช้ร่างกายในการทำมาหากินแบบเธอด้วยแล้ว ยิ่งมีแผลเป็นไม่ได้เด็ดขาด
หญิงสาวเดินไปรับยาหลังจากทำการรักษาเรียบร้อย มือซ้ายของเธอถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลซึ่งยังต้องล้างทำความสะอาดทุกวันจนกว่าแผลจะแห้ง ซึ่งคุณหมอได้แนะนำถึงวิธีการดูแลทำความสะอาดอย่างละเอียดเพราะแผลเธอไม่ร้ายแรงนักจึงสามารถล้างทำความสะอาดเองที่บ้านได้
ยลดาและสมปองโดยสารรถแท็กซี่กลับมาที่บ้าน ซึ่งนี่ก็ใกล้เวลาที่อัครบดินทร์จะเดินทางกลับ
“คุณแยมนั่งพักตรงนี้นะคะ เดี๋ยวพี่จะรีบไปทำอาหารต่อ ใกล้เวลาที่คุณอัคจะกลับแล้ว”
“ค่ะพี่ปอง”
“ถ้าต้องการอะไรเรียกพี่นะคะ”
“ได้ค่ะ”
ยลดารับคำและเมื่อเห็นแม่บ้านที่เธอคุ้นเคยมีสีหน้าไม่ดีนัก เธอก็รีบปลอบใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“พี่ปองไม่ต้องกลัวนะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ความผิดของพี่ปอง”
“แต่คุณอัคคงไม่คิดแบบนั้น” สมปองกล่าวด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล อัครบดินทร์เป็นเจ้านายที่ใจดีและมีเมตตาในขณะเดียวกัน หากใครทำอะไรให้ไม่พอใจ เขาก็จะกลายเป็นคนที่ดุจนน่ากลัวมากทีเดียว
“แยมจะบอกคุณอัคเองค่ะ พี่ปองไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นนะคะ เชื่อแยมนะคะว่าเรื่องนี้แยมเอาอยู่” ยลดาแสร้งพูดติดตลกและส่งยิ้มให้แม่บ้านรุ่นพี่ที่คอยดูแลเธอมาตลอดตั้งแต่ก้าวเข้ามาเป็นผู้หญิงของอัครบดินทร์
“ค่ะ พี่เชื่อคุณแยม” สมปองรับคำด้วยสีหน้าดีขึ้นและเดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นให้เจ้านายทั้งสอง
เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มที่เสียงรถยนต์ของอัครบดินทร์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ยลดารีบลุกขึ้นจากโซฟาวิ่งออกไปรับเขาอย่างดีใจ
อัครบดินทร์กางแขนออกรับร่างบางที่โผเข้ามาหาก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากเนียนและแก้มนุ่มแค่นั้นก็ดูเหมือนว่าความเหน็ดเหนื่อยจากการประชุมอันเคร่งเครียดและภารกิจที่มีมากมายในแต่ละวันจะเบาบางลง
“วันนี้คุณอัคกลับช้า งานเยอะเหรอคะ” ยลดาถามอย่างเอาใจใส่
“ใช่ วันนี้ประชุมยืดเยื้อมาก กว่าจะหาข้อสรุปได้”
“คุณอัคหิวหรือยังคะ ไปทานข้าวกันดีกว่า”
“หิวมาก”
“งั้นไปทานข้าวกันเถอะค่ะ พี่ปองทำอาหารน่ากินทั้งนั้นเลยค่ะ มีของโปรดของคุณอัคด้วยนะคะ”
ยลดาเอาใจและจูงมืออัครบดินทร์ตรงไปยังโต๊ะอาหาร แต่สายตาของเขาเหลือบไปเห็นฝ่ามือที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลของหญิงสาวเสียก่อนจึงดึงแขนหญิงสาวเอาไว้
“เป็นอะไร”
“เอ่อ...แค่อุบัติเหตุนิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ยลดาตอบเลี่ยงๆ เพราะเกรงว่าแม่บ้านจะโดนอัครบดินทร์ดุที่ปล่อยให้เธอเข้าไปในครัวจนเจ็บตัว
“อุบัติเหตุอะไร ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้”
อัครบดินทร์ถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ อย่างที่ยลดารู้ว่าหากเธอยังทำเฉไฉอีกอาจทำให้เขาโกรธได้
“แยมขอให้พี่ปองสอนทำอาหารเพราะอยากทำให้คุณอัคทาน แต่ว่าแยมซุ่มซ่าม ทำน้ำร้อนลวกมือตัวเองค่ะ”
คำตอบของยลดาทำให้อัครบดินทร์หน้าเครียดแล้วตะโกนเรียกแม่บ้านเสียงดัง
“สมปอง ออกมาพบฉันหน่อย!”
ท่าทางไม่พอใจของอัครบดินทร์ทำให้ชยุตและอานนท์ลอบสบตากันอย่างรู้สึกสงสารแม่บ้านที่กำลังจะถูกเล่นงานเพราะดูแลแก้วตาดวงใจของเจ้านายไม่ดี
“คุณอัคขา อย่าดุพี่ปองเลยนะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ แยมซุ่มซ่ามเอง” ยลดาพยายามอธิบายเพื่อช่วยเหลือแม่บ้านที่เดินตัวลีบออกมาอย่างรู้ชะตากรรมของตัวเอง
“ค่ะ คุณอัค” สมปองเดินมายืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้าอัครบดินทร์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด
“ฉันจ้างเธอมาคอยดูแลเมียฉัน แต่ทำไมถึงปล่อยให้ยลดาเจ็บตัวแบบนี้ได้” อัครบดินทร์ต่อว่าแม่บ้านด้วยความไม่พอใจหนักหนา
“ปองขอโทษค่ะคุณอัค ปองผิดเองที่ดูแลคุณแยมไม่ดี” สมปองก้มหน้ายอมรับผิด
“คุณอัคขา อย่าดุพี่ปองเลยนะคะ แยมไม่ระวังเอง”
ยลดาซบหน้าลงกับอกของอัครบดินทร์และออดอ้อนขอให้เขาไม่เอาเรื่องสมปองที่ยืนหน้าซีดอย่างน่าสงสาร
“นะคะคุณอัค” เมื่อเห็นเขายังนิ่ง ยลดาจึงออดอ้อนหนักกว่าเดิมอย่างที่มักใช้ได้ผลเสมอ
“ต่อไปอย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีกนะ” อัครบดินทร์กำชับกับสมปองซึ่งรีบรับคำอย่างหนักแน่น
“ไปตั้งโต๊ะอาหารได้แล้ว ส่วนนายสองคนไปพักได้” อัครบดินทร์สั่งงานแม่บ้านและหันไปบอกลูกน้องทั้งสองคนที่เขาส่งมาคอยดูแลยลดาในวันที่หญิงสาวต้องออกไปทำงานข้างนอก และเนื่องจากช่วงนี้หญิงสาวหยุดอยู่บ้านเขาจึงให้ทั้งสองกลับไปช่วยงานตัวเองดังเดิม
เขาจูงมือเธอไปยังโต๊ะอาหารที่สมปองจัดอาหารขึ้นโต๊ะเรียบร้อยซึ่งล้วนหน้าตาน่ากินอย่างที่ยลดาโฆษณาเอาไว้จริงๆ
“เธอมีอะไรทำก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวทานเสร็จแล้วฉันจะเรียก” เขาหันไปสั่งสมปอง
“ค่ะ คุณอัค”
“เจ็บมากหรือเปล่า” ถามคนที่เขาดึงให้นั่งบนตักและจับมือข้างที่มีผ้าพันแผลมากุมไว้ดั่งต้องการปัดเป่าความเจ็บปวดให้หมดไป
“เจ็บค่ะ แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว” ยลดาตอบตามตรง
“ซนจนได้เรื่อง คราวหน้าห้ามทำแบบนี้อีกนะ” อัครบดินทร์สั่งห้ามด้วยความเป็นห่วง เขาไม่ชอบใจเลยจริงๆ ที่ต้องเห็นเธอเจ็บตัว
“แยมไม่ได้ซนนะคะ แยมแค่อยากทำอะไรให้คุณอัคบ้าง” ยลดาตอบด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด พลางทำปากยื่นเมื่อถูกกล่าวหาว่าซนจนได้เรื่อง
“เธอไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นให้ฉันหรอก แค่เธอเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่งอแง แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว” บอกพร้อมก้มลงฝังจมูกลงกับกลุ่มผมนิ่มสลวยนั้นอย่างเอ็นดู
“คุณอัคพูดเหมือนแยมเป็นเด็กห้าขวบ แยมโตแล้วนะคะ”
“เหรอ ไหนดูซิโตแค่ไหนกันเชียว”
อัครบดินทร์แสร้งดันร่างนุ่มนิ่มบนตักออกห่างและกวาดสายตาขึ้นลง แต่จงใจหยุดสายตาไว้ที่อกอิ่มนั้นนานผิดปกติจนยลดาหน้าแดง เมื่อเห็นกิริยาเขินอายของคนตรงหน้าอัครบดินทร์ก็หัวเราะอย่างชอบใจ
“อืม โตจริงๆ โตมากด้วย”
“คุณอัค”
ยลดาทุบอกเขาหนึ่งทีด้วยรู้ความนัยแห่งประโยคนั้นเป็นอย่างดี ทำให้อัครบดินทร์ยิ่งหัวเราะเสียงดังขึ้นอีก จนชยุต อานนท์ และสมปองที่อยู่ในครัวแอบกระซิบกันถึงท่าทีของเจ้านาย
“ทำงานกับนายมานาน ไม่เคยเห็นใครทำให้นายหัวเราะเสียงดังแบบนี้มาก่อนเลย” ชยุตเปรยขึ้นระหว่างรับประทานของว่างกับอานนท์และสมปองในครัว
ต่อหน้าคนอื่นชยุตและอานนท์คือบอดี้การ์ดมาดขรึมที่ทำให้คนที่พบเห็นยำเกรง แต่ยามที่อยู่กันตามลำพังกับสมปองแม่บ้านที่สนิทสนมกันก็มีท่าที่สบายๆ เพราะอีกฝ่ายเคยทำงานเป็นแม่บ้านที่บริษัทของอัครบดินทร์มาก่อน ก่อนที่จะได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลผู้หญิงของเจ้านาย
“สงสัยคนนี้คงจะได้เลื่อนขั้นเป็นตัวจริง” อานนท์ออกความเห็น
“ก็ไม่แน่ คุณแยมทั้งสวย น่ารัก แถมเซ็กซี่สุดๆ ขนาดนั้น ผู้ชายที่ไหนไม่รักไม่หลงก็แปลกละ” ชยุตกล่าวสำทับ
“คุณยุตกับคุณนนท์รู้ไหม ตะกี้ตอนที่คุณอัคเรียกพี่ออกไปนะ ใจพี่น่ะร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม นึกว่าต้องเก็บเสื้อผ้าออกไปหางานใหม่เสียแล้ว” สมปองบอกอย่างใจหายใจคว่ำเมื่อถูกเจ้านายหนุ่มเรียกไปดุที่ดูแลยลดาไม่ดี
“ผมก็แอบเอาใจช่วยพี่ปองอยู่เหมือนกันครับ” ชยุตบอก
“โชคดีที่คุณแยมช่วยพูดกับคุณอัค ไม่อย่างนั้น พี่ปองคงแย่” อานนท์ออกความเห็น
“ก็ใช่น่ะสิคะ พี่น่ะโชคดีที่ได้คุณแยมช่วยเอาไว้ จะว่าไป พี่ก็แอบลุ้นให้คุณอัคลงเอยกับคุณแยมนะคะ เธอจิตใจดี เป็นกันเองไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ของเจ้านายที่เคยแวะมาหาที่บริษัท” ประโยคสุดท้ายสมปองมองซ้ายมองขวาก่อนจะกระซิบกระซาบกับสองหนุ่มเพราะเกรงว่าอัครบดินทร์จะมาได้ยิน
เธอเคยเป็นแม่บ้านที่รับหน้าที่ดูแลความสะอาดห้องของประธานบริษัทอย่างอัครบดินทร์และประจำอยู่ที่ชั้นผู้บริหาร ทำให้มีโอกาสได้เห็นบรรดาคู่ควงของเจ้านายบ่อยครั้ง ซึ่งทุกคนล้วนสวยหยาดฟ้ามาดินและเป็นคนดัง มีชื่อเสียง แต่นิสัยช่างสวนทางกับหน้าตา ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ผู้หญิงคนล่าสุดของเจ้านายคือยลดาที่ทั้งสวยและใจดี ทำให้เธอทำงานด้วยอย่างสบายใจ
“พวกผมก็คิดเหมือนพี่ปองครับ” อานนท์บอกกับสมปอง
“เดี๋ยวพี่ออกไปคอยดูแลคุณอัคกับคุณแยมก่อนดีกว่า ป่านนี้คงจะทานอาหารใกล้เสร็จแล้ว ว่าแต่คุณยุตกับคุณนนท์จะรับอาหารเย็นเลยไหมคะ”
“พี่ปองไปดูแลนายเถอะครับ เดี๋ยวทางนี้พวกผมจัดการเอง” ชยุต
บอกยิ้มๆ
เขาและอานนท์คุ้นเคยกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างดีและมักดูแลช่วยเหลือตัวเองเสมอ เพราะอัครบดินทร์จ้างสมปองไว้เป็นแม่บ้านเพียงคนเดียวในบ้านหลังใหญ่เพื่อดูแลยลดา และอยู่เป็นเพื่อนหญิงสาวเวลาที่เจ้านายเขาไม่ได้มาค้างด้วย และอีกเหตุผลคืออัครบดินทร์ต้องการความเป็นส่วนตัวจึงไม่จ้างแม่บ้านหลายคน โดยเลือกจ้างบริษัทรับทำความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละครั้ง
“เก็บโต๊ะได้เลยนะสมปอง”
อัครบดินทร์หันมาสั่งสมปองหลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะจูงมือยลดาเดินขึ้นชั้นบนไป