วิศวะขย้ำรัก
(Engineer’nTaboo SS2)
EPISODE4
“เธอใจดีจริง ๆ ว่ะยัยจิ๋ว” พันไมล์ว่า แล้วรั้งร่างเล็กเข้ามาสู่อ้อมอกอุ่น ทำให้สาวน้อยยกเรียวแขนขึ้นโอบกอดเอวเขาไว้หลวม ๆ ทุกครั้งที่กอดกัน อ้อมกอดของพันไมล์มักให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ความสบายใจ นอกจากความรัก ความคิดถึง ความเสน่หาแล้ว เขาจะใช้อ้อมกอดแทนถ้อยคำมากมายที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ เช่นในตอนนี้ พันไมล์รู้สึกว่าความใจดีและความบริสุทธิ์ใจของเธอที่มีให้ต้านั้น มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเขายังคงควบคุมอารมณ์ร้อนง่ายของตัวเองได้ไม่ดี ซินนั้นใจเย็นกว่าเขามาก และนั่นมันเปรียบเสมือนครึ่งหนึ่งของกันและกัน...คือความแตกต่างสุดขั้วที่อยู่ร่วมกันมา
“หนูชอบพี่ไมล์คนเดียว อย่าพูดเหมือนหนูจะนอกใจพี่อีกนะ หนูไม่ชอบเลย” น้ำเสียงเล็ก ๆ เอ่ยบอกเขาในอ้อมกอด เพราะความรู้สึกของเธอมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอรักเขามากจริง ๆ นะ
“ขอโทษ...ขอโทษนะ” พันไมล์เอ่ยย้ำน้ำเสียงอ่อน แล้วคลายวงแขนออก ก่อนจะเชยปลายคางสาวน้อยให้เชิดหน้าขึ้นมารับจุมพิตขอโทษจากเขา ไม่ว่าเวลาจะเคลื่อนผ่านไปอีกนานแค่ไหน ความรักและความหลงใหลที่เขามีต่อเธอ ก็จะยังคงอยู่ไม่จางหายไปไหน
“พี่ผิดเอง เธอจะให้อภัยพี่ได้ไหม”
“ต้องได้อยู่แล้วค่ะ” สาวน้อยพยักหน้ารับ แล้วขยับยิ้มน่ารัก
“หนูน่ะอยากใช้เวลาทุกวันให้มีความสุข ไม่อยากผิดใจกับพี่เลย อยากให้ทุกวันมีความหมายดี ๆ แหละ พี่คิดว่าไงคะ” สาวน้อยที่ทอดสายตามองไปยังวิวเบื้องหน้าเอ่ยบอกเขา ทำให้พันไมล์ยกมือขึ้นไปยีเส้นผมเธอเล่นอย่างเอ็นดู ไม่คิดเลยว่าเขาจะโอนอ่อนเพื่อใครสักคนได้มากขนาดนี้...เขาคงรักเธอมากจริง ๆ สินะ
“รู้แล้ว...เย็นนี้ไปซื้อของขวัญให้ไอ้ต้ากัน” พันไมล์ว่า ทำให้สาวน้อยหันมาหรี่ตาใส่เขา นี่จะไปซื้อของขวัญให้พี่ต้าจริงเหรอ เขาเนี่ยนะ
“ต้องน่ารักขนาดนี้เลย?” เธอว่าเย้า
“พี่มันน่ารัก...เผื่อเธอไม่รู้”
“หนูขอซื้อได้ไหมคำนี้ ฟังทีไรหมั่นไส้จัง”
“ไม่ได้!” เขาปฏิเสธ แล้วอมยิ้มน้อย ๆ
“คนอะไรอมยิ้มยังหล่อ” สาวน้อยส่งเสียงล้อเขา
“คนแบบพี่นี่ไง”
“อี๋! ไม่มีถ่อมตัวเลยนะ”
“หลักฐานมันอยู่บนหน้า ไม่รู้จะปฏิเสธทำไม” พันไมล์ว่า เธอล่ะเชื่อเขาเลย มั่นหน้ามากพ่อคุณ
“พอแล้ว ๆ หนูจะไปที่ห้องแล้วล่ะ พี่ก็ไปห้องตัวเองได้แล้ว”
“พี่ไปส่ง” เขาเอ่ยแล้วจูงมือสาวน้อยลงมาจากดาดฟ้า
“วันนี้ไปซื้อของขวัญแล้ว เราแวะซื้อกล้วยไม้ด้วยได้ไหมคะ”
“เอาดิ เธอที่บอกว่าจะเอามาแขวนหน้าเรือนอะนะ”
“ใช่ค่ะ แล้วก็...อยากไปซื้อไหมญี่ปุ่นด้วย”
“ที่ซื้อมาเธอใช้หมดแล้วรึไง” เขาย้อนถาม เพราะเคยเห็นกล่องประดิษฐ์ประดอยของเธอ
“สีดำหมดค่ะ ตอนที่ไปบ้านไร่ล่าสุด หนูเห็นว่าข้อมือที่มีตระกรุดของพี่มันมีรอยขาด หนูเลยว่าจะถักให้ใหม่...ดีไหม?” สาวน้อยว่า
“เอาดิ ไว้ถึงบ้านแล้วพี่จะเอาให้เธอเปลี่ยน”
“โอเคค่ะ”
หลังเลิกเรียน...ณ โรงเรียนเอกชนฝั่งตะวันตก
เพียงเดินพ้นรั้วโรงเรียนออกมายาหยีก็เห็นเลยว่าเจ้าของร่างกำยำในชุดช็อปสีกรมท่าของสถาบันต่างเขตได้มารอเจอเธออีกแล้ว ซึ่งวันนี้คุณพี่ชายสุดที่รักของเธอดันเลิกช้ากว่าปกติ เธอจึงต้องกลับเอง
“เฮียโย!” เสียงใส ๆ เอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าโยฮันตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนร่วมรุ่นอีกแล้ว แหงล่ะ! เขามันรูปร่างหน้าตาดีขนาดนั้นนี่นา ได้ยินว่าเขามีเชื้อเกาหลีด้วย เด็กสาวในโรงเรียนพูดถึงเขาเยอะมาก
“มาแล้วเหรอ วันนี้ไม่เห็นเฮียดิวเลย” โยฮันเอ่ยอย่างดีใจที่วันนี้สาวน้อยเป็นฝ่ายเดินมาหาเขา แถมยังไม่เห็นเงามารผจญอีกต่างหาก
“เฮียดิวเลิกช้าค่ะ วันนี้หยีกลับเอง” เธอบอกเขา ทำให้โยฮันเผยยิ้มออกมาทีเดียว วันนี้ปลอดมารจริง ๆ สินะ
“งั้นเฮียไปส่งหนูนะ” ชายหนุ่มว่าแล้วทำหน้าอ้อน
“ไม่เอาค่ะ ถ้าเฮียดิวรู้หยีคงโดนดุ อีกอย่างที่จะบอกคือ...” ยังไม่ทันได้เอ่ยจนจบประโยค เสียงของใครบางคนก็ร้องทักมาเสียก่อน
“น้องหยีเลิกเรียนแล้วเหรอครับ!” ท่าทางที่ทักมาอย่างสนิทสนมของชายหนุ่มหน้าตาดีที่ดูเหมือนจะเรียนอยู่มหา’ลัยฝั่งตะวันตก ทำให้โยฮันเหลือบสายตาดุดันมองไปยังผู้มาใหม่
“พี่เกื้อสวัสดีค่ะ จะไปซ้อมบาสเหรอคะ” สาวน้อยยาหยีเองก็ทักทายอีกฝ่ายอย่างสนิทสนมเช่นกัน ทั้งเธอยังเดินไปหาไอ้หมอนั่นอีก ต่อหน้าต่อตาว่าที่สามี กล้าเดินไปหาผู้ชายได้ไง
“ใช่ครับ แล้วนี่เฮียดิวยังไม่มารับเหรอ” รุ่นพี่หนุ่มย้อนถาม พร้อมเหลือบสายตามองมายังเด็กต่างเขต ไม่รู้ทำไมถึงมีเด็กเฉพาะช่างมายืนเสร่ออยู่แถวโรงเรียนมัธยมปลายฝั่งตะวันตกเสียได้
“วันนี้เฮียดิวเลิกช้าค่ะ หยีเลยกลับเอง”
“อ๋อ! พี่ยังมีเวลาเหลือให้แวะไปส่งไหม วันนี้พี่เอารถมา” เกื้อเอ่ยถาม เพราะบ้านเขาอยู่ในละแวกเดียวกับสาวน้อยยาหยี และสนามบาสที่เกื้อจะไปซ้อมก็เป็นทางผ่านพอดี
“ไม่ต้อง!” เพียงได้ยินคำชักชวนโยฮันก็ตอบสวนแบบไม่รอให้สาวน้อยตอบ เรื่องอะไรเขาต้องให้ยาหยีไปกับหมอนี่ด้วย นี่ว่าที่ภรรยาคนสวยในอนาคตของเขาเลยนะ
“ยุ่งอะไร?” ได้ยินแบบนั้นเกื้อก็ถึงกับไม่สบอารมณ์ขึ้นมา
“วันนี้กูไปส่งน้อง ไม่ต้องลำบากใคร” โยฮันว่าเสียงดุ
“กูไม่...” เกื้อจะเถียงว่ามันก็ไม่ได้ลำบากเขาเช่นกัน แต่เสียงของยาหยีก็ขัดขึ้นเสียก่อน
“เฮียโย...” ยาหยีเห็นว่าโยฮันเหมือนจะเปิดใส่รุ่นพี่ของเธอ สาวน้อยจึงถอยกลับมารั้งชายเสื้อช็อปของเขา
“รู้จักกันแน่เหรอ ไม่ได้โดนคุกคามใช่ไหม น้องหยีบอกพี่ได้เลยนะ” เกื้อเห็นอย่างนั้นจึงเอ่ยถาม ไอ้หมอนี่หน้าตาไม่น่าไว้ใจเลย เหมือนพวกเพลย์บอยไม่มีผิด
“ไม่ใช่ค่ะ รู้จักกันค่ะ เฮียโยเป็นเพื่อนรุ่นน้องของเฮีย ถ้ายังไงหยีกลับก่อนนะคะ วันนี้เฮียโยไปส่งน่ะค่ะ สวัสดีค่ะ” ระหว่างเกื้อกับโยฮัน ยาหยีเลือกที่จะปรามชายหนุ่มจากเฉพาะช่าง เพราะกิตติศัพท์หัวรุนแรงของโยฮันนั้นก็เลื่องชื่อพอ ๆ กับความเจ้าชู้นั่นแหละ
“ถ้าน้องหยีว่าแบบนั้น งั้นพี่ไปก่อนนะ” เกื้อจำต้องยอมถอยก่อน เพราะเขาไม่อยากมีเรื่องต่อหน้าสาวน้อยที่กำลังหมายตาไว้
ครั้งนี้ปล่อยไปครั้งหน้าคงไม่เป็นแบบนี้แน่...เขาตามดูแลยาหยีมาตั้งแต่เธอขึ้น ม.1 มีหรือจะให้หมาต่างเขตคาบไปง่าย ๆ